โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

อึ้ง เด็กเป็นเหยื่อบุหรี่ไฟฟ้า ซึมเศร้า ปอดอักเสบรุนแรง กสม.จี้นายกฯ ปราบด่วน

เดลินิวส์

อัพเดต 22 สิงหาคม 2568 เวลา 19.59 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
ประธาน กสม. ส่งหนังสือด่วนถึงนายกฯ เร่งปราบบุฟรี่ไฟฟ้า ออกกฎหมายคุมนำเข้า-ขาย-สูบ ทั้งออนไลน์และโลกจริง ยึดหลักอนุสัญญาควบคุมยาสูบ หลังสถิติชี้ชัด เด็กเยาวชน ตกเป็นเหยื่อสมองขาดการพัฒนา เสี่ยงซึมเศร้า ปอดอักเสบรุนแรง สุดห่วงกรณีมีผู้แทนธุรกิจบุหรี่ร่วมนั่งใน กมธ. หวั่นแทรกแซงนโยบายควบคุม

เมื่อวันที่ 22 ส.ค. นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2568 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ประชุมหารือกับคณะกรรมการพัฒนานโยบายสาธารณะประเด็นการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า ภายใต้คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เกี่ยวกับสถานการณ์การใช้บุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งทำให้เกิดการเสพติดนิโคตินอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ครอบครัวและสังคม ดังนั้น เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาตลอดจนส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิด้านสุขภาพของประชาชน ประธาน กสม. จึงมีหนังสือด่วนที่สุด ที่ สม 0701/41 ลงวันที่ 20 ส.ค. 2568 ส่งถึงนายกรัฐมนตรี แจ้งข้อเท็จจริง สภาพปัญหา ข้อพิจารณา และข้อเสนอแนะในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าของประเทศไทย

โดยข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า ระหว่างปี 2564-2567 มีประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 11.4 เท่า จาก 78,752 คน ในปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 900,454 คน ในปี 2567 โดย 1 ใน 4 หรือ 214,863 คน สูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเดียว สาเหตุเพราะมีการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ การนำเสนอภาพของบุหรี่ไฟฟ้าที่ดึงดูดผู้ใช้ ทั้งรูปลักษณ์ รสชาติ และการตลาดที่มุ่งเป้าไปยังเด็กและเยาวชน

บุหรี่ไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อสุขภาพหลายด้าน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ซึ่งสมองยังอยู่ในระยะพัฒนา สารนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้ามีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลต่อการทำงานของสมองในด้านสมาธิ การเรียนรู้ และพฤติกรรม ตลอดจนเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าและการฆ่าตัวตาย นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้ป่วยปอดอักเสบจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนอายุเฉลี่ย 15 ปี และบางรายอาการรุนแรงจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ขณะที่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายบัญญัติคำนิยามหรือควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าโดยตรง แต่ใช้กฎหมายศุลกากรและกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในการห้ามนำเข้า จำหน่าย และครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า แต่กลับมีการซื้อขายจำนวนมากผ่านออนไลน์และมีการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ชายแดน

ภาควิชาการและเครือข่ายสุขภาพ ห่วงกังวลต่อกระบวนการกำหนดนโยบายเพื่อควบคุมการใช้บุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะกรณีที่มีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจยาสูบเข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรคณะหนึ่ง ซึ่งอาจมีส่วนในการกำหนดทิศทางหรือแทรกแซงนโยบายในการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ และไม่สอดคล้องกับพันธกรณีของไทยตามกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก มาตรา 5.3 ที่กำหนดให้รัฐภาคีซึ่งรวมถึงประเทศไทย ปกป้องนโยบายสาธารณะด้านการควบคุมยาสูบจากกลุ่มอุตสาหกรรมยาสูบและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

กสม. เห็นว่า การใช้บุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและพัฒนาการของเด็กและเยาวชน ขัดต่อหลักการสำคัญของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC) อีกทั้งการจำหน่ายและการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย สะท้อนถึงการขาดประสิทธิภาพในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากไทยยังไม่มีกฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างชัดเจน ทำให้เกิดช่องว่างในการบังคับใช้

กสม. จึงมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าไปยังนายกฯ เพื่อมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ 1.ให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับอันตรายหรือผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้าด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้าน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่เป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า 2.ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ให้มีมาตรการควบคุมถึงบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่ ควบคุมการผลิต การนำเข้า การจำหน่าย การโฆษณาและการใช้ทั้งในพื้นที่จริงและสื่อออนไลน์ โดยในระหว่างที่ไม่มีบทบัญญัติดังกล่าว ให้กำชับให้เจ้าหน้าที่รัฐบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเคร่งครัด

และ 3.ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามหลักการในมาตรา 5.3 ของกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลกให้มีผลในทางปฏิบัติมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเร่งผลักดันให้มีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อป้องกันการแทรกแซงนโยบายจากธุรกิจบุหรี่ หรือมีมาตรการทางกฎหมายในการป้องกันการแทรกแซงนโยบายจากกลุ่มอุตสาหกรรมยาสูบและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

คลอดสักที! ตั้ง’สุเทพ’ คุมร่างพีดีพีใหม่ พร้อม 20 กูรู แต่เอ๊ะ..ไร้เงาปลัดพลังงานคนปัจจุบัน

27 นาทีที่แล้ว

‘วันนอร์’ เคารพศาลยกฟ้อง ‘ทักษิณ’ คดี ม.112 ไม่วิจารณ์มีนัยทางการเมืองหรือไม่

33 นาทีที่แล้ว

ทสจ.กาฬสินธุ์ ย้ำเหลืออีก 3 วันสุดท้ายยื่นขอทำประโยชน์พื้นที่ป่าไม้

37 นาทีที่แล้ว

ฉะเชิงเทรา จัดมหกรรมรวมพลสมาชิก TO BE NUMBER ONE ประจำปี 2568

43 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม