โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

Booking.com ดัน ‘Travel Proud’ ต้อนรับนักท่องเที่ยว LGBTQIA+ อย่างเท่าเทียม

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

“บรานาวัน อรุลโจธิ” หัวหน้าฝ่ายประจำประเทศแม่โขง บริษัท บุ๊คกิ้งดอทคอม ย้ำพลังของการรวมกลุ่มและบทบาทของชุมชนในการสร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน พร้อมเปิดเผยข้อมูลเชิงลึก ชูแนวทางพัฒนาแพลตฟอร์มต้อนรับ LGBTQIA+ ในงาน PHIST 2025 จ.ภูเก็ต

นายบรานาวัน อรุลโจธิ หัวหน้าฝ่ายประจำประเทศแม่โขง บริษัท บุ๊คกิ้งดอทคอม ตั้งคำถามในงาน PHIST 2025 (Phuket Hotels for Islands Sustaining Tourism) จังหวัดภูเก็ต ว่า ”หากคุณมองย้อนกลับไปถึงความสำเร็จในชีวิตของคุณ… มีใครไหมที่ทำได้ด้วยตัวเองล้วน ๆ โดยไม่มีใครช่วยเหลือหรือสนับสนุน ?“ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการสนทนาเรื่องพลังของการรวมกลุ่ม และความสำคัญของชุมชน

สำหรับในมุมมองของ Booking.com บริษัทด้านการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงเริ่มต้นจากข้อมูล ความเข้าใจ และหัวใจ ตัวอย่างเช่น การสร้างความตระหนักในเรื่องอัตราส่วนของที่พักที่ได้รับการรับรองว่าเป็น “ออร์แกนิก” ซึ่งในบางพื้นที่มีเพียง 3% เท่านั้น ตัวเลขที่น่าตกใจ แต่ก็เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างผลกระทบทางสังคม

“ความยั่งยืนไม่ใช่แค่คำที่ใช้พูดให้ดูดี…แต่มันเริ่มต้นจากชุมชน”

แม้คำว่า “ความยั่งยืน” จะกลายเป็นคำยอดฮิตในแวดวงธุรกิจ แต่หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามถึงความหมายที่แท้จริงของมัน ท่ามกลางยุคของ “Greenwashing” หรือการทำให้ดูเหมือนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อจุดประสงค์ทางการตลาด

ภูเก็ต ไม่เพียงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่งดงาม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของ “ความหลากหลายและการต้อนรับ” โดยเฉพาะในบริบทของชุมชน LGBTQIA+ หนึ่งในตัวอย่างที่น่าประทับใจคือการจัดงานแต่งงานของคู่รักของนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มนี้ ที่สามารถจัดขึ้นได้ในประเทศไทยด้วยความสะดวก ปลอดภัย และยั่งยืน

นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม Booking.com ได้พัฒนาโครงการ “Travel Proud” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่พักที่ผ่านการฝึกอบรมให้ต้อนรับนักท่องเที่ยว LGBTQIA+ ได้อย่างเปิดกว้าง เป็นธรรม และเท่าเทียม

หัวใจของ Booking.com ไม่ใช่เทคโนโลยี แต่คือ “ผู้คน”

แม้จะเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก กลับยืนยันหนักแน่นว่า จุดแข็งขององค์กรไม่ใช่ระบบหรือผลิตภัณฑ์ล้ำสมัย แต่คือคนและความเข้าใจในท้องถิ่น ขณะเดียวกันกว่า 90 ประเทศที่มีสำนักงานของ Booking.com ส่วนใหญ่ดำเนินงานโดยคนท้องถิ่น เพราะไม่มีใครเข้าใจตลาดได้ดีเท่ากับคนที่อยู่ในพื้นที่จริง ๆ

อีกหนึ่งจุดเด่นของ Booking.com คือการลงทุนด้านงานวิจัยและรายงานด้านพฤติกรรมนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในเรื่องความยั่งยืน เช่น 60% ของนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางและทิ้งสถานที่นั้นไว้ให้ดีกว่าเดิม และ 60% ของนักท่องเที่ยวใช้ AI เพื่อค้นหาประสบการณ์ในท้องถิ่น

แม้ AI จะเป็นที่ถกเถียงในแง่ของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ข้อมูลที่ได้กลับช่วยสร้างแนวทางในการออกแบบประสบการณ์ที่มีความหมายและยั่งยืนมากขึ้น

“เราหวังว่า ข้อมูลเหล่านี้จะกลายเป็นข้อมูลเชิงลึกที่ทุกท่านสามารถนำไปใช้ต่อได้จริง”

ท้ายที่สุด ข้อถกเถียงหนึ่งที่ยังไม่มีคำตอบแน่ชัดคือ “ความยั่งยืนหน้าตาเป็นอย่างไร ?“ เพราะคำตอบนั้นแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ตามวัฒนธรรม และบริบทของแต่ละพื้นที่ ตัวอย่างเช่น ในขณะที่ผู้บริโภคบางกลุ่มพยายามใช้ถุงผ้าและหลีกเลี่ยงพลาสติก ประเทศต้นทางของพวกเขาอาจยังคงนำเข้าขยะจากต่างประเทศอย่างเป็นระบบ

อย่างไรก็ตาม หากมองไปยังอนาคต คนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z คือนักเดินทางรุ่นถัดไปที่กำลังเปลี่ยนโลก พวกเขาไม่เพียงต้องการ “เที่ยว” แต่ยังต้องการ “เข้าใจ” และ “สัมผัส” โลกอย่างแท้จริง ต้องการประสบการณ์ที่ของแท้ และชุมชนเป็นศูนย์กลาง

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : Booking.com ดัน ‘Travel Proud’ ต้อนรับนักท่องเที่ยว LGBTQIA+ อย่างเท่าเทียม

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...