สรุป ‘ประท้วงอินโดนีเซีย’: จากเหตุไม่พอใจค่าเบี้ยเลี้ยงนักการเมือง สู่ ‘ตำรวจขับรถชนไรเดอร์’ และการเผาสถานที่ราชการ
สัปดาห์ที่ผ่านมา เราจะเห็นภาพเหตุการณ์ประท้วงจากประเทศอินโดนีเซีย ตั้งแต่การใช้ธงจากธงจากซีรีส์อนิเมะญี่ปุ่นเรื่องวันพีซเป็นสัญลักษณ์ของการประท้วง การสลายการชุมนุมโดยเจ้าหน้าที่รัฐ และการก่อเหตุเผาอาคารราชการหลายแห่งในประเทศ
บทความนี้ The MATTER จะสรุปเหตุการณ์ดังกล่าว ว่ามีจุดเริ่มต้นจากอะไร มีเหตุการณ์สำคัญอะไรบ้าง และการประท้วงครั้งนี้สิ้นสุดอย่างไร
การชุมนุมมีเหตุจากความไม่พอใจกรณีสมาชิกรัฐสภาได้รับเบี้ยเลี้ยงค่าที่พักรายเดือน 50 ล้านรูเปียห์ (ประมาณ 98,000 บาท) ซึ่งมากกว่าค่าแรงขั้นต่ำของในจาการ์ตาเกือบ 10 เท่า และ 20 เท่าของเงินเดือนขั้นต่ําในพื้นที่ยากจนของประเทศ
ประกอบกับความไม่พอใจในนโยบายเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งรัฐบาลประกาศมาตรการตัดงบประมาณด้านการศึกษา โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน และงบประมาณด้านสาธารณสุข ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
เหล่านี้ทำให้ผู้ชุมนุมนิยามนโยบายที่เอื้อผลประโยชน์ต่อกลุ่มทุนและกองทัพของรัฐบาลประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต ว่า “ชนชั้นนำคอร์รัปชัน (Corrupt Elites)” และถูกใช้อย่างกว้างขวาง
การชุมนุมเริ่มขึ้นตั้งแต่ 25 สิงหาคม 2568 กลุ่มนักศึกษาและประชาชนหลายร้อยคนชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภาอินโดนีเซีย เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา ก่อนรัฐจะปราบปรามด้วยรถฉีดน้ำแรงดันสูงและแก๊สน้ำตา ด้านผู้ชุมนุมใช้ก้อนหินและพลุไฟในการโต้ตอบ
28 สิงหาคม 2568 สหภาพแรงงานอินโดนีเซียกว่า 10,000 คน ได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้มีการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำตามอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากภาษีและอัตราเงินเฟ้อไม่สัมพันธ์กับค่าครองชีพที่สูงขึ้น
ขณะที่การประท้วงทวีความรุนแรงหลังรถหุ้มเกราะของตำรวจชนคนขับรถจักรยานยนต์จนเสียชีวิต ทำให้เกิดความสะเทือนใจและกระตุ้นความรู้สึกโกรธแค้นของประชาชน พร้อมเรียกร้องให้มี ‘การปฏิรูปตำรวจ’
ด้านปราโบโวได้ออกมาแถลงให้มวลชนใจเย็น และเชื่อมั่นต่อกระบวนการของรัฐในการให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 7 นาย ถูกควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมเป็นเวลา 20 วัน แต่ยังไม่ระบุว่าใครคือผู้ขับรถหุ้มเกราะพุ่งชนไรเดอร์
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เข้าร่วมการชุมนุมมากขึ้น โดยขยายตัวไปหลายเมืองทั่วอินโดนีเซีย เช่น จาการ์ตา, สุราบายา, ยอกยาการ์ตา, บันดุง และมาเกซซาร์
นอกจากนั้น ยังมีการวางเพลิงอาคารรัฐสภาประจำภูมิภาคใน 3 จังหวัด ได้แก่ นูซาเติงการาตะวันตก, เมืองเปอกาโลงัน จังหวัดชวากลาง, และเมืองซิเรบอน จังหวัดชวาตะวันตก รวมถึงการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ การขว้างปาระเบิดเพลิง และการปล้นสะดม (Looting) หรือทำลายทรัพย์สินราชการในบางพื้นที่และบ้านพักของนักการเมือง
การชุมนุมดำเนินต่อไป กระทั่ง 30 สิงหาคม 2568 มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมอย่างน้อย 3 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง จากเหตุประท้วงจุดไฟเผาอาคารสภาแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกของอินโดนีเซีย
31 สิงหาคม 2568 รัฐบาลมีมติลดสวัสดิการของสมาชิกรัฐสภา เพื่อหวังลดแรงกดดันจากผู้ชุมนุม พร้อมออกคำสั่งให้กองทัพและตำรวจใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับผู้ก่อความไม่สงบและกลุ่มคนที่ออกปล้นสะดมทรัพย์สินในบ้านพักของนักการเมืองและอาคารราชการ
ล่าสุด วันนี้ (1 กันยายน 2568) หลังการประท้วงต่อเนื่อง 1 สัปดาห์ กลุ่มนักศึกษาและเครือข่ายภาคประชาสังคมในอินโดนีเซียประกาศยุติการชุมนุมประท้วงชั่วคราว เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย หลังการประกาศใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดของรัฐบาล
ถึงกระนั้น ตลาดหุ้นอินโดนีเซียได้ร่วงลงมากว่า 3% คาดว่าเป็นผลจากการชุมนุมในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจอินโดนีเซียมองว่า เศรษฐกิจของประเทศจะยังมีความมั่นคงจากพื้นฐานที่วางไว้อย่างแข็งแกร่ง และจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่วางแผนไว้ในอนาคต
ทั้งนี้ สำนักงานช่วยเหลือทางกฎหมายจาการ์ตา (Jakarta Legal Aid) เรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัว 600 คนที่ถูกจับกุมระหว่างการประท้วง ตั้งแต่ 29 สิงหาคม 2568 และปัจจุบันยังไม่มีการรายงานความคืบหน้าว่ามีประชาชนถูกจับกุมจากการประท้วงกี่คน
อ้างอิงจาก