ศึกล้างบางอาณาจักรสีน้ำเงิน
เริ่มนับหนึ่งกับ “รัฐบาลแพทองธาร” 1/2 ที่ขณะนี้ทุกย่างก้าวต้องลุ้นเพราะสถานะเรียกได้ว่าเป็น “ลูกผีลูกคน” ด้วยสภาพการเมืองสามารถถูกเขย่าได้ตลอดเวลา
หลังเกิดวิกฤติหนักหน่วง “นายกฯอิ๊งค์” ถูก “ศาลรัฐธรรมนูญ” รับพิจารณาปมคลิปเสียงอังเคิลฮุนเซน ด้วยมติเอกฉันท์ พร้อมสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ด้วยจำนวนเสียง 7 ต่อ 2 และ สั่ง ให้ทำคำชี้แจงกลับมาภายใน 15 วัน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า ปลายทางให้น้ำหนักไปในทางร่อแร่
ในสถานการณ์เช่นนี้ จึงประเมินว่า “พรรคสีแดง” จะลากรัฐบาลไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า อาจจะลำบาก หากเปรียบเป็นคน ก็เหมือนป่วยหนักจนต้องต้องใส่เครื่องช่วยหายใจเพื่อยื้อให้มีชีวิตต่อ
ด้วยการพยายามหาทางดิ้นรน ปลุก “ชัยเกษม นิติสิริ” แคนดิเดตนายกฯของพรรคแดง คนสุดท้ายหาก “นายกฯอิ๊งค์” มีอันเป็นไปทางการเมือง
อีกด้านหนึ่งก็ต้องเตรียมจัดการศัตรูคู่แค้น อย่าง “พรรคภูมิใจไทย” หลังที่ผ่านมา “เครือข่ายสีแดงและสีน้ำเงิน” ซ่อนดาบ และมีโอกาสทิ่มแทงกันมาตลอด เข้าตำราคู่แค้นแห่งปีและสายสัมพันธ์ได้ขาดสะบั้นลง
เมื่อ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร สั่งให้ “พรรคเพื่อไทย” ยึดเก้าอี้ “กระทรวงมหาดไทย” มาดูแลเอง
จน “พรรคสีน้ำเงิน” ต้องประกาศถอนตัวออกจากการเป็น “พรรคร่วมรัฐบาล” ทำให้เสถียรภาพของ “รัฐบาลปริ่มน้ำ” ทันที เสียอำนาจต่อรองให้ “พรรคร่วมฯ” รุมทึ้งเก้าอี้ แม้แต่ “พรรค 3 เสียง” ยังต่อรองได้เก้าอี้ไปชื่นชม รวมถึง “กฎหมายกาสิโนเรือธง” มีแนวโน้มต้องถูกพับเก็บเข้าลิ้นชัก
สร้างความโกรธให้แก่ “นายใหญ่ ” ส่งต่อดีเอ็นเอเหล่านี้ ให้แก่ “มท.อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย ที่นั่งเก้าอี้ “มท.1” ตามความฝัน และมาพร้อมกับการสางภารกิจสำคัญเตรียมพร้อมการเลือกตั้ง และ ทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
“มท. อ้วน” ไม่ได้มีอำนาจใน “มหาดไทย” เท่านั้น ยังควบอำนาจ “รักษาราชการนายกฯ” ของ “นายกฯอิ๊งค์” ที่ว่ากันว่ามีอำนาจเทียบเท่า “นายกฯ” ทุกประการ
ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย “มท.อ้วน ” วันแรกที่ปักหมุดทำงานเมื่อวันที่ 4 ก.ค. ได้มอบนโยบายให้กับข้าราชการระดับสูง
“อยากจะเห็นภายใน 3 เดือนนี้มีรูปธรรมที่จับต้องได้ ก่อนถึงเดือน ก.ย. จะขอปรับกำลังใหม่ เพื่อให้ได้คนที่เหมาะกับงาน คนเกียร์ว่าง แปลว่า ไม่อยากทำงาน ก็ต้องทำให้ไม่ได้ทำงาน” ภูมิธรรมกล่าว
นอกจากนี้ ได้มอบนโยบาย อยากเห็นความเป็นปึกแผ่น ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน “ไม่มีสิงห์ดำ สิงห์แดง สิงห์ขาว สิงห์เขียว สิงห์ทอง หรือสิงห์น้ำเงิน มีแต่สิงห์มหาดไทย”
ซึ่งต้องยอมรับว่าตอน “มท.หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล เป็น มท.1 ได้วางขุมอำนาจไว้ จนใครๆก็รู้ว่าในกระทรวงมหาดไทยมี ข้าราชการสีน้ำเงิน ซึ่งล้อกับสีประจำพรรค “ภูมิใจไทย”
หลังก่อนหน้านี้ ได้แสดงความยิ่งใหญ่ที่ สนามช้างอารีน่า อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดย “ครูใหญ่”ค่ายเซาะกราว “เนวิน ชิดชอบ” ระดมทัพปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตบเท้าเข้าร่วมงาน พรึ่บ ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นการเขย่าขวัญ “นายกฯอิ๊งค์” เพราะได้เดินทางไปร่วมงานด้วย
ฉะนั้นหากมองไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า หากต้องการชนะคู่แค้นอย่าง “พรรคภูมิใจไทย” สิ่งที่ต้องทำประการแรก คือ “ล้างบาง สลายขั้ว เครือข่ายสีน้ำเงิน” จัดการเรื่อง “ที่ดินเขากระโดง” และ “คดีฮั้วสว.”
ขณะเดียวกันก็ต้องจับตาว่า จะใช้โอกาสนี้ช่วยเหลือ “นายน้อย” ที่มีชนักปักหลัง เรื่องที่ “ดินอัลไพน์” หลังบริษัทใน “ตระกูลชิน” ถือหุ้นอยู่หรือไม่ จึงต้องจับตาว่าการเดินเครื่องเร็วของ “พรรคเพื่อไทย” ในสถานการณ์ภูมิคุ้มกันบกพร่องจะผลักดันนโยบายต่างๆ เตรียมพร้อมเลือกตั้ง และ ปะฉะดะ ฝ่ายตรงข้ามได้หรือไม่ หรือ ถูกนิติสงครามเล่นงานตกจากอำนาจไปก่อน