แก๊งลัก จยย.เกี่ยวกันล้ม ก่อนไปฟาดกระบะ โดนทับดับ 1
ช่วงเช้าวันที่ 5 กรกฎาคม 2568 นายสิทธิชัย สัมฤทธิ์ ประธานชุมชนนาพร้าว หมู่ 5 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจาก นายวิชา อายุ 29 ปี ลูกบ้าน ว่าเกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์แหกโค้ง ล้มด้วยตนเอง ที่บริเวณโค้งปากซอยถนนศรีราชา-หนองค้อ เส้นวัดห้วยยายพรหม-นาพร้าว หมู่ 5 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มคว่ำอยู่ริมถนน ปากซอยที่เกิดเหตุ โดยพบว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไม่มีเบาะ และเปลือกรถด้านข้างหายไป
ผู้แจ้งเปิดเผยว่า ตนเองขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านพอถึงที่เกิดเหตุได้เห็นกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ตามกันมาประมาณ 3 คัน เป็นวัยรุ่นซ้อนรถจักรยานยนต์มาคันละ 2 คน ขี่มาด้วยความเร็วและเลี้ยวโค้ง โดยมี 1 คันในนั้นเลี้ยวไม่เข้าหลุดโค้ง รถจักรยานยนต์ไปคว่ำอยู่ริมถนน แล้วเพื่อนอีก 2 คันก็วนกลับมารับ ซึ่ง 1 ในนั้นได้ไปที่รถจักรยานยนต์คันที่ล้มแล้วงัดเบาะเพื่อเอาเอกสารรถออกมา รวมทั้งแกะเปลือกข้างรถจักรยานยนต์คันที่ล้มเอาติดมือไปด้วย ก่อนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อนที่ขี่มาด้วยกันหลบหนีไป โดยทิ้งรถจักรยานยนต์ที่ล้มไว้ข้างทางทิ้งไว้อย่างนั้น
ผู้สื่อข่าวจึงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุพบว่า มีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์กันมา 3 คัน โดยคันแรกขี่ซ้อนกันมา 2 คน เป็น จยย.สีน้ำเงิน ส่วนคันที่สองซึ่งเป็นคันที่ล้มขี่มาคนเดียว เป็นรถจักรยานยนต์ สีแดงดำ และคันที่สามเป็นรถจักรยานยนต์สีน้ำเงินขี่ซ้อนกันมา 2 คน หลังจากนั้นมีเพื่อนที่ขี่มาด้วยกันจอดรถวิ่งข้ามถนนไปช่วยเหลือคนล้มและวิ่งข้ามถนนกลับมาเตรียมขึ้นรถจักรยานยนต์ของเพื่อนหลบหนี แต่มีอีก 1 คน ที่วิ่งข้ามกลับไปที่รถเพื่องัดเบาะเอาเอกสารรถจักรยานยนต์คันที่ล้ม รวมทั้งเบาะที่นั่งและเปลือกด้านข้างของรถจักรยานยนต์คันที่ล้มไปด้วย ก่อนขึ้นรถจักรยานยนต์ของเพื่อนขี่หลบหนีไป โดยที่จักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุถูกทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ
หลังจากนั้นประมาณ 20 นาที ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุแจ้งเหตุหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา จังหวัดชลบุรี แจ้งว่ามีเหตุรถจักรยานยนต์ชนกันล้มหลายคัน และไปชนกับรถยนต์กระบะ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบริเวณถนนสายวัดพรมมาวาส (วัดห้วยยายพรหม)- สุสานกังเฮ่ หมู่ 4 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุแรกประมาณ 2 กิโลเมตร จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พยาบาลกู้ชีพโรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน รุ่นเดียวกัน สีเดียวกันทั้งสามคัน ต่อสายตรง ไม่มีกุญแจ และไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เกี่ยวกันล้มลงอยู่กลางถนน โดยมีรถยนต์กระบะ จอดหันหัวเอนเข้าริมถนน โดยมีร่างผู้เสียชีวิตเป็น ชาย (ไม่ทราบชื่อ) ไม่พบหลักฐานประจำตัว อายุประมาณ 20-30 ปี ในสภาพศีรษะแตกเลือดไหลนองเต็มพื้นอยู่หน้ารถยนต์กระบะคันดังกล่าว ไม่พบเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ล้มอีก 2 คัน ว่าหลังเกิดเหตุไปไหน
คนขับรถยนต์กระบะได้เล่าเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ได้ฟังว่า ตอนเกิดเหตุขับมาตามเส้นทางปกติ ขณะนั้นช่วงทางโค้งมีรถจักรยานยนต์ขี่เป็นกลุ่มมากันหลายคน เกือบ 10 คัน ขี่สวนมา พอมาถึงที่เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ได้เกี่ยวกันล้มลงประมาณ 5 คัน และผู้เสียชีวิตกระเด็นล้มลงศีรษะมาชนกับรถยนต์ตัวเองจนเสียชีวิต ส่วนเพื่อน ๆ ที่มาด้วยกันพยายามขยับเอารถจักรยานยนต์ออกมาจากที่กองรวมกันอยู่ โดยเอาออกไปได้ 2 คัน ส่วนอีก 3 คันแกะเอาออกไปไม่ได้ คนที่เหลือจึงวิ่งหนีเข้าไปในป่า แล้วยังมีเพื่อน ๆ ที่ขี่รถจักรยานยนต์มาขี่ตามมาอีก 2-3 คัน โดยทั้งหมดใส่ชุดสีดำเหมือนกันทั้งหมด แล้วขี่หลบหนีกันไป
จากการตรวจสอบเบื้องต้นรถจักรยานยนต์ทั้งหมดไม่มีกุญแจ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จึงได้ตรวจสอบหลักฐานรถ พบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาเมื่อคืนก่อนเกิดเหตุในหลายพื้นที่ของอำเภอศรีราชาทั้งหมด จึงคาดว่าแก๊งนี้น่าจะเป็นแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ตามใบสั่งรายใหญ่ในพื้นที่ศรีราชา หลังจากก่อเหตุตระเวนลักรถจักรยานยนต์มาแล้ว ก็จะเตรียมนำรถจักรยานยนต์ไปส่งให้กับคนที่สั่งโดยเป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ตัวท๊อปของรุ่นทั้งหมด แต่กลับมาประสบเหตุเสียก่อน หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีราชา ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลรายละเอียดหลักฐานต่าง ๆ เพื่อจะดำเนินการสืบสวนจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์กลุ่มนี้มาดำเนินการตามกระบวนกฎหมายต่อไป.