อนุ กมธ.จัดการน้ำฯ เชื่อร่าง พ.ร.บ.WEEE ช่วยสางปมขยะอิเล็กทรอนิกส์
กทม.10ก.ค. – คณะอนุกรรมาธิการบริหารจัดการน้ำฯ เชื่อร่าง พ.ร.บ.จัดการซากผลิตภัณฑ์ฯ จะช่วยสางปมขยะอิเล็กทรอนิกส์ล้นเมืองอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยใช้หลักผู้ผลิตต้องรับผิดชอบ และภาครัฐไม่ต้องแบก
นายไพบูลย์ ณ บุตรจอม ประธานคณะอนุกรรมาธิการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบมลพิษและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ได้รับฟังบรรยายสรุปจากกรมควบคุมมลพิษ และหลายหน่วยงาน จึงให้ความสนในต่อร่างพระราชบัญญัติจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. (ร่าง พ.ร.บ.WEEE) อย่างจริงจัง
โดยร่าง พ.ร.บ.WEEE ฉบับนี้ มีหัวใจสำคัญอยู่ที่หลักการความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility : EPR) หมายความว่า ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าสินค้าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ง่ายต่อการรีไซเคิล ไปจนถึงการรวบรวมซากผลิตภัณฑ์กลับคืนจากผู้บริโภค เพื่อนำไปถอดแยกชิ้นส่วน และนำกลับมาใช้ประโยชน์ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) รวมถึงกำจัดของเสียที่เหลืออย่างถูกวิธี
คณะอนุกรรมาธิการฯ เห็นพ้องว่าถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องมีกฎหมายที่เข้มแข็งมาจัดการปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างเป็นระบบ เชื่อว่าร่าง พ.ร.บ.WEEE ฉบับนี้ จะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไป โดยเฉพาะการบังคับใช้หลัก EPR ที่จะทำให้ผู้ผลิตมีส่วนร่วมและรับผิดชอบมากขึ้น เพราะมีบทลงโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น ปรับไม่ขึ้นทะเบียน 1 ล้านบาท เป็นต้น ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะและส่งเสริมการรีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษได้เสนอร่าง พ.ร.บ.WEEE นี้ต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้วเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 และกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา เพื่อผลักดันให้กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด หากกฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้จะถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างเป็นระบบและยั่งยืน.-319-สำนักข่าวไทย