‘ชาวเขมร’ อดอยาก! จับได้ทุกวัน คนกัมพูชาลักลอบข้ามแดน สวนทางคำโม้ ‘ฮุนเซน’
ปากท้องสำคัญกว่า! คืนเดียวจับ 15 ชีวิตแรงงานเขมร อดอยากในบ้านเกิด ยอมเสี่ยงมุดข้ามแดนกลับมาตายดาบหน้าที่ตลาดโรงเกลือ
10 กรกฎาคม 2568 - กองทัพบก Royal Thai Army รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา กองกำลังบูรพา, ฉก.อรัญประเทศ , ชค.ทพ.12 โดยร้อย.ทพ.1201 เเละ ร้อย ทพ. 1206 ได้เข้าสกัดจับกุมชาวกัมพูชาที่ลักลอบข้ามแดน 2 กลุ่มใหญ่ในเวลาไล่เลี่ยกัน รวมทั้งหมด 15 ชีวิต (รวมเด็กหญิง 2 ขวบ) โดยเบื้องหลังการจับกุมสะท้อนภาพความจริงที่น่าสลดใจ เมื่อพวกเขาทั้งหมดต่างเป็นอดีตแรงงานในตลาดโรงเกลือที่จำใจต้องเสี่ยงภัยกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทยอีกครั้ง เพราะทนความอดอยากและไม่มีงานทำในบ้านเกิดไม่ไหว
เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมกลุ่มชาวกัมพูชา 9 คน ที่ลักลอบเดินเท้าเข้ามาทางบ้านดงงู ต.ป่าไร่ จากการสอบสวนทั้งหมดให้การว่า เคยทำงานซักซ่อมรองเท้ามือสองในตลาดโรงเกลือ แต่เมื่อมีการปรับเปลี่ยนมาตรการชายแดนในเดือนมิถุนายน ก็กลัวว่าจะกลับประเทศไม่ได้จึงเดินทางกลับไปก่อน แต่เมื่อกลับไปก็ต้องเผชิญกับภาวะไม่มีงานทำและขาดรายได้ ด้วยความคุ้นเคยเส้นทางจากที่เคยทำงานมานานหลายปี จึงตัดสินใจชักชวนกันเดินเท้าลุยป่าข้ามแดนกลับมาเองโดยไม่จ้างผู้นำทาง
ในเวลาไล่เลี่ยกันที่ ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ เจ้าหน้าที่อีกชุดได้เข้าจับกุมอีกกลุ่ม เป็นครอบครัวชาวกัมพูชา 6 คน ซึ่งมีเด็กหญิงวัยเพียง 2 ขวบรวมอยู่ด้วย ขณะกำลังเดินลัดเลาะในไร่อ้อย โดยผู้นำพา 2 คนได้วิ่งหลบหนีไปได้ กลุ่มนี้ให้การว่าเคยค้าขายในตลาดโรงเกลือ และจำเป็นต้องกลับมาดูแลร้านเนื่องจากข้าวของเสียหาย แต่เนื่องจากไม่มีรายได้จึงต้องยอมจ่ายเงินค่าจ้างให้ผู้นำพาถึงคนละ 4,000 บาท เพื่อพาลักลอบข้ามแดน
เรื่องราวของทั้ง 15 ชีวิตที่ถูกจับกุมในคืนเดียว สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบอย่างรุนแรงจากปัญหาชายแดน ที่บีบคั้นให้แรงงานผู้หาเช้ากินค่ำต้องนำพาครอบครัวและแม้กระทั่งลูกเล็กมาเสี่ยงอันตรายเพื่อความอยู่รอด เบื้องต้นทั้งหมดถูกนำตัวส่งให้ สภ.คลองลึก และ สภ.คลองน้ำใส เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยการลักลอบเข้าเมืองต่อไป