หนุ่ม กรรชัย ฟาดประโยคเด็ด ยันไม่เกี่ยวกับดราม่า ฟิล์ม-ดีเจแมน
เล่นเอาหลายคนแอบเป็นห่วง เมื่อพิธีกรชื่อดัง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ต้องแอดมิดด่วนเข้าโรงพยาบาล หลังมีอาการเหนื่อยล้าอย่างหนักจากการทำงานจนรู้สึกว่าร่างจะแหลกสลาย! ล่าสุดออกมาเปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเคลียร์ชัดประเด็นร้อนที่หลายคนโยงเจ้าตัวเข้าไปเอี่ยวคดี ฟิล์ม รัฐภูมิ vs ดีเจแมน พัฒนพล
โดยหนุ่มเล่าว่า วันนั้นหลังจากเสร็จจากการจัดรายการ ก็รู้สึกอ่อนเพลียมาก จนต้องไปหาหมอทันที และผลวินิจฉัยคือ “ไข้หวัดใหญ่” หมอสั่งพักร่างด่วน! เจ้าตัวจึงต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 2-3 วัน และถือโอกาสปิดทุกช่องทางข่าวสารทั้งหูและตาแบบจริงจัง เพื่อพักฟื้นร่างกายอย่างแท้จริง
“พักร่างครั้งนี้คือพักจริงจัง ไม่แม้แต่จะเปิดข่าวดู เพราะหมออยากให้พักทุกอย่าง พักหู พักตา พักใจ ส่วนงานก็ยังทำได้บางส่วน แต่ร่างกายบางทีก็เครียดแบบไม่รู้ตัวเพราะเรารับปัญหาคนอื่นเยอะ”
ในขณะที่เจ้าตัวยังไม่ทันหายดีเต็มร้อย ก็ถูกโยงดราม่าเข้าไปเป็น “คนกลาง” ในคดีที่ ฟิล์ม รัฐภูมิ ได้ยื่นฟ้อง ดีเจแมน พัฒนพล ฐานหมิ่นประมาท โดยฟิล์มระบุว่าดีเจแมนมี “ตัวกลาง” คอยฟังและเตือนเรื่องต่าง ๆ ทำให้หลายคนเดาว่าอาจเป็นหนุ่ม
งานนี้ หนุ่มไม่ปล่อยให้ข่าวลือเล่นงานนาน ออกมาเคลียร์แบบไม่มีฟิลเตอร์ว่า “ไม่รู้จักคนกลาง ไม่ใช่ และไม่เคยคุยอะไรกับดีเจแมนเรื่องนี้!” พร้อมชี้ว่า เรื่องทั้งหมดเกิดจากมดดำ คชาภา ที่พูดในรายการ ทำให้ดีเจแมนมาเล่าให้ฟัง ตนก็ทำหน้าที่ในฐานะพิธีกร รับฟัง–ถาม–จบ ไม่มีการพาดพิงถึงใครเป็นบุคคลที่สาม
หากในอนาคตดีเจแมนร้องขอให้เป็นพยาน หนุ่มก็บอกว่า “ยินดีเป็นพยานให้” เพราะตนไม่ได้มีส่วนได้เสียในเรื่องนี้
ไม่หมดเท่านั้น หนุ่มยังพูดถึงคดีของตัวเองที่ได้ฟ้อง ฟิล์ม และ กฤษอนงค์ กลับในข้อหาหมิ่นประมาท ปมคลิปเสียงเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้ทนายความเป็นผู้ดูแล เจ้าหน้าที่สอบไป 2–3 ครั้ง และได้มีการส่งมอบหลักฐานบางส่วนแล้ว พร้อมย้ำชัดว่า ฝั่งฟิล์มยังไม่มีการฟ้องกลับ ไม่มีหมายศาลมาถึงตัว
และเมื่อถูกถามถึงการไกล่เกลี่ย หนุ่มก็พูดอย่างตรงไปตรงมาแบบไม่อ้อมค้อมว่า
“ไม่คิดจะไกล่เกลี่ย เพราะมันเกินไป ล้ำเส้นเกินที่คนควรยอมได้” พร้อมทิ้งท้ายสุดแซ่บด้วยประโยคที่กลายเป็นไวรัลทันที:
“คนกลางไม่รู้จัก รู้จักแต่นิ้วกลาง”
งานนี้ทั้งชัด ทั้งจบ ทั้งแสบแบบไม่ต้องตีความ ใครเป็นใคร ใครพูดความจริง ก็คงต้องรอให้กระบวนการกฎหมายทำหน้าที่ของมันต่อไป…