พิษรักพาซวย! "ทิดจอร์จ" แอบซุกเมียหลายคน จุดชนวนกิ๊กใหม่หึงออกมาแฉ
วันนี้ (27 ส.ค. 68) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับอดีตพระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีการบริหารจัดการเงินมูลนิธิไม่โปร่งใสว่า จุดเริ่มต้นของการสืบสวนมาจากความขัดแย้งส่วนตัว โดยเฉพาะ “เรื่องหึงหวง” จากบุคคลใกล้ชิด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ในตอนแรกตนเองยังมองว่า อดีตพระอลงกตมีส่วนในการทำความดี และอาจทำให้มองข้ามบางประเด็นไปได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อสืบสวนลึกลงไป พบว่าโครงสร้างการบริหารของมูลนิธิมีปัญหาอย่างมีนัยสำคัญ โดยอดีตพระอลงกตเป็นผู้มีอำนาจเพียงผู้เดียวในการสั่งการเรื่องการใช้เงินทั้งหมดของมูลนิธิ ซึ่งถือว่า “ไม่ใช่กิจของสงฆ์” และเลยเถิดจากเจตนาตั้งต้น
“แม้ตอนแรกจะมองว่าเป็นการทำความดี แต่เมื่อขยายผลจริงจัง กลับพบการใช้อำนาจบริหารโดยลำพัง ทำให้เกิดข้อสงสัยจำนวนมาก” พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังระบุอีกว่า จุดเริ่มต้นของการเปิดโปงข้อมูลในคดีนี้ มาจากความหึงหวงของหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าเป็น “กิ๊กใหม่” ของอดีตพระอลงกต โดยเกิดจากความไม่พอใจที่อดีตพระมีภรรยาหลายคน และสุดท้ายจึงนำข้อมูลภายในออกมาเปิดเผย
ในส่วนของ “หมอบี” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่า ไม่ใช่ผู้กระทำหลักในคดี แต่เป็นเพียง “จุดเริ่มต้น” ที่โยงเข้าสู่ขบวนการตรวจสอบที่ใหญ่ขึ้น พร้อมระบุว่า กรณีที่มีข่าวว่า “หมอบี” นำเงินไปซื้อรถให้นักร้องนั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจน แต่ข้อมูลเบื้องต้นตรงกับข้อเท็จจริงประมาณ 70%
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กำลังขยายผลไปยังบุคคลที่ยังถือครองทรัพย์สินของวัด โดยเฉพาะที่ดินและทรัพย์สินอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิ ซึ่งยังไม่ถูกส่งคืนให้ทางราชการหรือเจ้าของที่ถูกต้อง
“เรารู้หมดแล้วว่าทรัพย์สินอยู่ที่ใคร ที่ดินอยู่กับใครบ้าง มีคนจำนวนหนึ่งที่ยังไม่คืน ตอนนี้อยู่ระหว่างการเตรียมตั้งข้อหาฟอกเงิน” พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าว พร้อมเตือนว่า หากบุคคลใดไม่มีเจตนาในการถือครองโดยมิชอบ ควรรีบเข้ามาพบเจ้าหน้าที่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หากยังนิ่งเฉยและไม่คืนทรัพย์ อาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขอบคุณที่มา : รายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ