กรมประมงทุ่มงบแก้ ‘ปลาหมอคางดำ’ รับซื้อเพิ่ม 6 จังหวัดกว่า 5.5 แสนกิโลกรัม
เมื่อวันที่ 16 ส.ค. นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง ในฐานะโฆษกกรมประมง เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลจัดงบกลางเร่งด่วน เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ สำนักงบประมาณได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณ จำนวน 97,817,400 บาท ให้แก่กรมประมง เพื่อให้เร่งแก้ไขปัญหา ภายใต้ 2 มาตรการหลัก ดังนี้มาตรการที่ 1 การควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำทุกแห่งที่พบการแพร่ระบาด จำนวน 89,045,456 บาท และมาตรการที่ 3 การนำปลาหมอคางดำที่กำจัดออกจากระบบนิเวศไปใช้ประโยชน์ จำนวน 8,771,944 บาท
กรมประมงได้ดำเนินการจัดสรรโควตาให้กับทางจังหวัด เพื่อรับซื้อปลาหมอคางดำตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 ผ่านจุดรับซื้อในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ระยอง กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี นครปฐม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา แบ่งเป็นราคารับซื้อปลาหมอคางดำ 15 บาท/กิโลกรัม (จ่ายให้กับชาวประมงหรือผู้จับปลา มาขาย) และราคาค่าขนส่งและค่าบริหารจัดการรวบรวม 5 บาท/กิโลกรัม (จ่ายให้กับผู้รวบรวมหรือแพปลาที่เข้าร่วมโครงการฯ)
ในช่วงที่ผ่านมา กรมประมงได้รับซื้อปลาหมอคางดำจากบ่อเพาะเลี้ยงของเกษตรกรและจากธรรมชาติ โดยได้จัดส่งให้กรมพัฒนาที่ดินและการยางแห่งประเทศไทยนำไปผลิตเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อในภาคเกษตร รวมแล้วกว่า 2,897,999 กิโลกรัม จากเป้าหมายเดิม 3,000,000 กิโลกรัม และขณะนี้ มีการเพิ่มโควตาอีก 554,000 กิโลกรัม
สำหรับจังหวัดที่จำนวนโควตารับซื้อปลาหมอคางดำเต็มแล้ว และจากการสำรวจยังพบปลาหมอคางดำตกค้างอยู่ในพื้นที่อีกพอสมควร รวมเป็นเป้าหมายใหม่ 3,554,000 กิโลกรัม (ข้อมูล ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2568) มีรายละเอียดดังนี้
- สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับการจัดสรรโควตาการรับซื้อเพิ่ม 170,000 กิโลกรัม สามารถเริ่มรับซื้อโควตาเพิ่มเติมได้ ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568
- สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับการจัดสรรโควตาการรับซื้อเพิ่ม 50,000 กิโลกรัม
- สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับการจัดสรรโควตาการรับซื้อเพิ่ม 184,000กิโลกรัม เริ่มรับซื้อโควตาเพิ่มเติมแล้ว เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568
- สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับการจัดสรรโควตาการรับซื้อเพิ่ม 100,000 กิโลกรัม เริ่มรับซื้อโควตาเพิ่มเติมแล้ว เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568
- สำนักงานประมงจังหวัดเพชรบุรี ได้รับการจัดสรรโควตาการรับซื้อเพิ่ม 30,000 กิโลกรัม
- สำนักงานประมงจังหวัดชุมพร ได้รับการจัดสรรโควตาการรับซื้อเพิ่ม 20,000 กิโลกรัม เริ่มรับซื้อโควตาเพิ่มเติมแล้ว เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568
อย่างไรก็ตาม สำหรับจังหวัดที่มีโควตารับซื้อเหลืออยู่และจังหวัดที่ได้รับโควตาเพิ่มนั้น เกษตรกร ประชาชน ยังสามารถนำปลาหมอคางดำมาขายได้ต่อไปจนกว่าจะเต็มจำนวนตามที่กำหนด หรือถึงวันที่ 30 กันยายน 2568 เว้นแต่จังหวัดนครปฐมและจังหวัดราชบุรี ที่มีการยุติการรับซื้อ เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่พบว่ามีการระบาดค่อนข้างเบาบางไม่มีปริมาณปลาหมอคางดำมากพอที่จะนำมาขายให้กับแพปลาผู้รวบรวม รวมถึงเกษตรกร ประชาชนในพื้นที่มีการนำไปใช้ประโยชน์ในครัวเรือน ทั้งนี้ หากเกษตรกรหรือประชาชนต้องการขายปลาหมอคางดำสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานประมงจังหวัดในพื้นที่
นอกจากนี้ สำหรับกรณีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำนั้นกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้มีการประกาศเขตภัยพิบัติในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในพื้นที่เขตบางขุนเทียน และเขตทุ่งครุ มีเกษตรกรได้รับผลกระทบจำนวน 726 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับความเสียหาย 3,511.31 ไร่ วงเงินความเสียหาย 41,297,575 บาท สำหรับจังหวัดอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการเเพร่ระบาดของปลาหมอคางดำนั้น การประกาศเขตภัยพิบัติยังคงเป็นอำนาจของทางจังหวัด ซึ่งจะต้องตรงตามหลักเกณฑ์ที่กรมประมงได้เสนอผ่านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย