24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 12 สิงหาคม 2568
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 12 สิงหาคม 2568
>> ชายแดนไทย – กัมพูชา สงบ ทั้งสองฝ่ายยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่น ขณะที่ประชาชนจากศูนย์อพยพ 4 จังหวัด เดินทางกลับภูมิลำเนาเรียบร้อยแล้ว
07.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ 11 ส.ค. 68 จนถึงเช้าวันนี้ (12 ส.ค. 68) เหตุการณ์บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา 7 จังหวัด ไม่มีเหตุปะทะหรือความรุนแรงเกิดขึ้น
ทั้งนี้ กองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตน โดยฝ่ายไทยยึดมั่นปฏิบัติตามข้อตกลงของการประชุม GBC ที่ผ่านมาอย่างเคร่งครัด และมุ่งมั่นรักษาความสงบเป็นสำคัญ
ขณะเดียวกัน ประชาชนที่เคยอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพทั้ง 4 จังหวัด ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบพื้นที่ที่ยังไม่ปลอดภัยหรือพบวัตถุต้องสงสัย ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ หมายเลข 191 เพื่อประสานหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าดำเนินการ
ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน เพื่อรักษาความสงบและอธิปไตยของไทย พร้อมดูแลและเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนเร่งฟื้นฟูพื้นที่ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้กลับมาเดินหน้าต่อได้เหมือนเดิม
>> นายภูมิธรรม เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลฯ
07.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568
โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหน่วยราชการในพระองค์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพร้อมภริยา หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า และผู้แทนภาคเอกชนร่วมพิธี ณ บริเวณท้อ
งสนามหลวง
>> รถกระบะชนกับรถบรรทุก มีผู้เสียชีวิตในซากรถ จ.ขอนแก่น
08.39 น. รับแจ้งจาก หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างขอนแก่น มีอุบัติเหตุรถกระบะชนกับรถบรรทุก และมีผู้เสียชีวิต บนถนนเส้นทางบ้านป่าส่าน ในพื้นที่ อ.พระยืน จ.ขอนแก่น
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ ฟอร์ด แรนเจอร์ สีขาว ลักษณะชนกับรถบรรทุก อีซูซุ สีขาว แล้วรถบรรทุกพลิกตะแคง ตรวจสอบ พบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ชาย อายุ ประมาณ 36 ปี ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระยืน
>> ทหารเหยียบทุ่นระเบิด บาดเจ็บ 1 นาย บริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม
09.10 น. ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ขอแถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา รับแจ้งว่า กำลังพลหน่วยเฉพาะกิจกองร้อยทหารพรานที่ 2610 ได้จัดกำลังพลลาดตระเวนเส้นทางบริเวณจุบตะโมก พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัยของพื้นที่และป้องกันมิให้เกิดการรุกล้ำอธิปไตย
ระหว่างลาดตระเวนตรวจสอบเส้นทาง กำลังพลได้ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิด ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ในอาณาเขตอธิปไตยของไทย สันนิษฐานเบื้องต้นจากเศษชิ้นส่วนที่พบในที่เกิดเหตุ คาดว่าจะเป็นทุ่นระเบิดชนิด PMN 2 โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ มีจำนวน 1 นาย คือ สิบเอก ธีรพล ได้รับบาดเจ็บ ขาซ้ายขาด ปัจจุบันได้นำกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว
>> รถตู้ชนประสานงากับรถนั่งส่วนบุคคล มีผู้บาดเจ็บสิบกว่าราย ที่ จ.อุดรธานี
09.20 น. รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถตู้ชนกับรถนั่งส่วนบุคคล และมีผู้บาดเจ็บ บนถนนทางหลวงหมายเลข 2022 เส้นทางบ้านดุง - สุมเส้า ในพื้นที่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี
ที่เกิดเหตุ พบรถตู้ โตโยต้า สีขาว ป้ายทะเบียน อุดรธานี ลักษณะชนกับรถนั่งส่วนบุคคล เชฟโลเล็ต สีเทา ป้ายทะเบียน อุดรธานี ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 ราย โดยเป็นชาย 5 รายและหญิง 8 ราย ทางอาสาสมัครให้การช่วยเหลือและนำส่ง รพ.เพ็ญ และ รพ.อุดรธานี
เบื้องต้นทราบว่า มีผู้โดยสาร 7 รายภายในรถตู้ เป็นชาวบ้านแสนอุดม ตำบลนาไหม อำเภอบ้านดุง เดินทางมากับลูกชายเจ้าของรถ ซึ่งเป็นคนขับ เพื่อพาครอบครัวไปเที่ยวเนื่องในวันแม่แห่งชาติ ก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เพ็ญ
>> ตำรวจเมืองเชียงราย สกัดยาไอซ์ 110 กิโลกรัม หลังขับรถหนีด่านตรวจ
10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.มานพ เสานากูล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จว.เชียงราย, พ.ต.อ.โสภน ม่วงเฟื่อง ผู้กำกับการ สภ.เมืองเชียงราย และ พ.ต.ท.ฉันทฤทธิ์ เหล่าไพโรจน์จารี รองผู้กำกับการ ปราบปราม สภ.เมืองเชียงราย ได้ตั้งจุดสกัดป้องกันการลำเลียงยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย ตามโครงการ “No drugs No dealers” บริเวณถนนศรีเวียง เขตเทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย
กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. พบรถยนต์ สีดำ หมายเลขทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ก่อนถึงจุดสกัด เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจสอบ แต่ปรากฏว่ารถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ออกติดตาม
เมื่อถึงบริเวณทางโค้งจุดก่อสร้างทางรถไฟ รถคันดังกล่าวได้เกิดอุบัติเหตุ ก่อนที่ผู้ขับขี่จะวิ่งเข้าไปในพื้นที่ป่าข้างทางและอาศัยความมืหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบภายในรถ พบกระสอบจำนวน 4 กระสอบ ภายในบรรจุยาไอซ์ น้ำหนักรวมประมาณ 110 กิโลกรัม ซึ่งได้ทำการตรวจยึดไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> ทบ. ยิงสลุตหลวงเฉลิมพระเกียรติ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568
12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568
โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 วินาที ซึ่งจะดำเนินการยิงสลุตหลวง โดยพร้อมเพรียงกันทั้ง 3 เหล่าทัพ
การยิงสลุต ถือเป็นธรรมเนียมที่ได้ยึดถือสืบทอดกันมาแต่ครั้งโบราณ ของราชอาณาจักรไทย เพื่อเป็นการแสดงความเคารพให้แก่ชาติหรือบุคคลสำคัญของชาติ สำหรับประเทศไทย โดยทหาร 3 เหล่าทัพ ได้ยึดถือปฏิบัติในห้วงสำคัญ ได้แก่ พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา, พระราชพิธีฉัตรมงคล หรือวันพระราชสมภพสมเด็จพระยุพราช รวมถึงพิธีต้อนรับพระมหากษัตริย์หรือประมุขแห่งรัฐ โดยจะทำการยิงสลุตจำนวน 21 นัด เพื่อแสดงความเคารพอย่างสูงสุด
>> "สุชาติ” จี้ พศ.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ปมปัญหาวัดพระบาทน้ำพุ
12.32 น. นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นภายในวัดพระบาทน้ำพุว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งให้สำนักสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบสำนักพุทธศาสนาประจำจังหวัดที่ตั้งของวัดพระบาทน้ำพุแล้ว โดยยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น และก่อนหน้านี้ตนได้เคยมอบนโยบายให้ พศ. ทำงานเชิงรุก ไม่ใช่ตั้งรับเพียงอย่างเดียว
นายสุชาติ กล่าวว่า ตนได้กำชับให้สำนักงานพระพุทธศาสนา เข้าไปติดตามการทำงานของสำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัด ว่าปฎิบัติหน้าที่หย่อนยานหรือไม่ เพราะสังเกตว่าปัญหาที่เกิดขึ้น มักจะรู้ปัญหาหลังจากที่เกิดเหตุเสมอ ทั้งกรณีที่เกิดขึ้นภายในวัดพระบาทน้ำพุ และกรณีอื่นๆด้วย
“อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นในวัดพระบาทน้ำพุ เราจะดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้กระจ่าง โดยเร็วที่สุด และหากมีการตรวจสอบแล้วพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิด จะดำเนินการตามระเบียบ และกรอบอำนาจที่ที่ทำได้ ผมในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่กำกับดูแล พศ.จะเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการพระสงฆ์ให้เกิดความกระจ่าง เพื่อเรียกความศรัทธาคืนให้กับประชาชน” นายสุชาติ กล่าวย้ำนโยบาย
>> ครูถูกนักเรียน ม.5 ทำร้าย กำลังใจดีขึ้น เปลี่ยนใจไม่ลาออก แต่ขอพักกายพักใจก่อน
13.00 น. นายสิรภพ นิยมเดช นายอำเภอบ้านไร่ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปเยี่ยมคุณครูที่ถูกนักเรียน ม.5 ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส พบว่า วันนี้จิตใจครูดีขึ้นมาก พูดคุยเป็นกันเอง ส่วนความรู้สึกที่ครูอยากลาออก ตอนนี้ครูบอกว่าขอพักก่อน แล้วจะกลับไปสอนเด็กๆ เหมือนเดิม
ส่วนน้องคนก่อเหตุ เบื้องต้นน่าจะเป็นโรค IED คือมีอารมณ์รุนแรงช่วงขณะ ทำให้น้องคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ แต่หลังผ่านไประยะหนึ่งน้องจะรู้สึกตัวว่า ไม่น่าทำเรื่องรุนแรงลงไป ซึ่งก็ต้องให้น้องไปพบจิตแพทย์เพื่อรักษา ซึ่งโรคนี้รักษาให้หายได้
โดยครูที่ถูกนักเรียนทำร้าย เปิดเผยว่า ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้นกว่าตอนแรกเยอะ เพราะมีคนให้กำลังใจอย่างล้นหลาม ส่วนที่มีความคิดว่าอยากจะลาออก ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว เพราะนักเรียนต่างโทรมาให้กำลังใจ และขอให้ครูรีบกลับไป อยากฝากบอกนักเรียนทุกคนว่า รอครูก่อน ตอนนี้ครูขอเวลาอีกสักพัก รักษาสภาพร่างกายและจิตใจ แล้วจะกลับไปสอนนักเรียนเหมือนเดิมแน่นอน
>> เพลิงไหม้บนห้องพักภายในคอนโด ย่านซอยรามคำแหง 52/2 เสียหายวอดทั้งห้อง
13.51 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ คอนโดแห่งหนึ่ง ซอยรามคำแหง 52/2 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 8 ชั้น ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ห้องพักห้องหนึ่ง อยู่ชั้น 7 เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งห้อง ลุกลามชั้นที่ 8 ภายในห้องอีกห้องหนึ่ง เสียหายบางส่วน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 36 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้น สาเหตุเพลิงไหม้ไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งห้อง ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย เป็นเพศชาย อายุประมาณ 30 ปี มีอาการสำลักควัน นำส่งโรงพยาบาลลาดพร้าว พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยหัวหมาก
>> มทภ.4 บินสำรวจแนวชายแดนป่าเขา จ.นราธิวาส หลังพบความเคลื่อนไหวขนอาวุธข้ามแดน เร่งประชุมวางแผนสกัดกั้นเข้ม
15.05 น. พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ขึ้นบินลาดตระเวนทางอากาศเหนือพื้นที่ป่าเขาแนวชายแดนจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับฝ่ายอำนวยการของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อตรวจสอบพื้นที่เสี่ยง หลังได้รับรายงานและปรากฏภาพข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่ลักลอบขนย้ายอาวุธและกระสุนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่พื้นที่ชายแดนไทย
การบินสำรวจในครั้งนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อประเมินเส้นทางลำเลียง การซ่อนเร้น และจุดเสี่ยงที่อาจถูกใช้เป็นช่องทางลักลอบขนอาวุธ พร้อมตรวจสอบความหนาแน่นของพื้นที่ป่า การตั้งฐานที่มั่นของหน่วยลาดตระเวน และความพร้อมของจุดตรวจชายแดน
ภายหลังภารกิจทางอากาศ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ร่วมประชุมเร่งด่วนกับ ชุดควบคุมสุริโยทัย และหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เพื่อกำหนดแผนปฏิบัติการสกัดกั้นในพื้นที่สำคัญ เน้นการปิดเส้นทางลำเลียง การเพิ่มกำลังลาดตระเวนภาคพื้นดินทั้งกลางวันและกลางคืน และการทำงานประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้าน
โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ย้ำว่า การควบคุมพื้นที่ชายแดนในสถานการณ์ปัจจุบันมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของชาติ พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยในพื้นที่ดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง และใช้ข้อมูลข่าวกรองเป็นตัวขับเคลื่อนแผนปฏิบัติ เพื่อป้องกันมิให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมีโอกาสเสริมศักยภาพด้วยอาวุธหรือยุทโธปกรณ์ใดๆ ได้
>> ไฟไหม้บ้านช่างก่อสร้างวอดทั้งหลัง เงินเก็บ-เครื่องมือทำมาหากินสูญหมด
15.30 น. รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ หมู่ 7 ตำบลนาท่อม อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง
ที่เกิดเหตุลักษณะ เป็นบ้านไม้ครึ่งปูนชั้นเดียว ของนายสุทธิ อายุ 48 ปี ซึ่งอาศัยอยู่กับนายชอบ พี่ชาย ทั้งคู่ประกอบอาชีพรับจ้างงานก่อสร้าง ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้าน เพื่อนบ้านที่ขับรถผ่านสังเกตเห็นควันและเปลวไฟลุกจากตัวบ้านอย่างรุนแรง จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองพัทลุงเข้าช่วยเหลือ แต่เนื่องจากเส้นทางเข้าซอยแคบ ประกอบกับมีลมกระโชกแรง ทำให้เพลิงลุกลามรวดเร็ว โดยเฉพาะจากจุดต้นเพลิงภายในห้องนอน
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมกำลังและใช้น้ำฉีดสกัดนานกว่า 15 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ตัวบ้านและทรัพย์สินภายในถูกเผาวอดเกือบทั้งหมด ทั้งเครื่องมือช่างก่อสร้างที่ใช้ทำมาหากิน และเงินสดกว่า 25,000 บาท ซึ่งเป็นเงินเก็บจากน้ำพักน้ำแรงและจากการขายวัว 1 ตัว ที่ตั้งใจสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉินและลงทุนในอนาคต
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุสันนิษฐานว่าเพลิงน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรในห้องนอน ซึ่งมีสิ่งของติดไฟง่ายอยู่จำนวนมาก ทำให้ไฟลุกลามรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง พร้อมประเมินมูลค่าความเสียหายต่อไป
>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ มีผู้บาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.
18.12 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ จ.กาญจนบุรี มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนหมายเลข 3081 ช่วงก่อนถึงทางแยกต่างระดับท่าม่วง 1 กม. ในพื้นที่ เขตเทศบาลท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ดรีม สีแดง ลักษณะชนกับ รถกระบะ โตโยต้า รีโว่ สีดำ ใกล้กันพบร่างของผู้บาดเจ็บ 1 ราย มีอาการสาหัส ทางอาสาสมัครเร่งช่วยเหลือและประสานรถพยาบาลมาร่วมดำเนินการ นำผู้บาดเจ็บส่ง รพ.มะการักษ์ และรับแจ้งว่าได้เสียชีวติในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 46 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าเรือ
>> นายภูมิธรรม เป็นประธาน พิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง
20.05 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568
โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง
โอกาสนี้ ได้ทูลเกล้าฯ วางพานพุ่มทอง พานพุ่มเงิน ถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล จากนั้นกล่าวกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล และกล่าวนำถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระฉายาลักษณ์ฯ พร้อมรับมอบโคมเทียนและร่วมร้องเพลงสดุดีพระแม่ไทย