เมื่อเจอของจริง ความจริงจึงปรากฏ วอลเลย์บอลหญิงเวียดนามยังห่างชั้นจากระดับโลก
ไม่ว่าจะมองมุมไหน แม่นางตู้เย็นแห่งวงการลูกยางญวน ทะมัดทะแมงมีกล้ามเนื้อแข็งแกร่งเหมือนดั่งบุรุษอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับมีส่วนสำคัญในการพาทัพตบสาวเวียดนาม ทำผลงานได้ดีด้วย
ทั้งการคว้าแชมป์เอวีซีชาลเลนจ์คัพ 2024 เมื่อปีที่แล้ว ต่อเนื่องมาจนถึงการคว้าแชมป์เอวีซีเนชั่นส์คัพ 2025 และซีวีลี 2025 สนามที่ 2 ในปีนี้
โดยในศึกซีวีลีกสนามที่ 2 เวียดนามยังสามารถเอาชนะทีมชาติไทยเป็นครั้งแรกในรอบหลาย 10 ปีอีกด้วย โดย เหงียน ทิ บิค เตวียน ยังตบกระจาย ด้วยการทำคนเดียวถึง 45 แต้มอีกต่างหาก
จากมาตรฐานที่สูงขึ้น เริ่มได้แชมป์ระดับนานาชาติในย่านเอเชียมากขึ้น แถมยังสามารถโค่นทีมชาติไทย ที่ครองตำแหน่งราชินีลูกยางอาเซียนมาร่วมๆ 3 ทศวรรษ
จึงทำให้ทัพลูกยางสาวเวียดนาม รวมไปถึงแฟนลูกยางญวนทั้งประเทศ เกิดความรู้สึกเหิมเกริมและผยองพองขน คิดว่าตัวเองเจ๋งพอที่จะอยู่ในระดับเดียวกับทีมชาติไทยแล้ว
พร้อมกับตั้งธงไว้ว่า ในอนาคตอีกไม่ไกล ทัพตบสาวญวนจะเป็นทีมที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ แถมยังจะก้าวขึ้นไปเป็นทีมระดับโลก ที่ได้สิทธิ์เล่นศึกเนชั่นส์ลีกเป็นประจำทุกปี เหมือนดั่งวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย
โดยเป้าหมายระยะสั้น เวียดนามได้ตั้งเป้าที่จะคว้าชัยชนะประวัติศาสตร์ให้ได้ ในศึกชิงแชมป์โลก 2025 ที่บ้านเราเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม - 7 กันยายน 68
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่ม ผู้เล่นตัวเก่งอย่าง เหงียน ทิ บิค เตวียน ที่ถูกแฟนลูกยางบ้านเราสงสัยมาโดยตลอดว่าเป็นผู้หญิงจริงหรือไม่ ได้ถอนตัวก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มอย่างน่ากังขา ทั้งๆที่เวียดนาม ได้ผ่านเข้ามาแข่งขันศึกชิงแชมป์โลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
การที่นักกีฬาจะได้ลงแข่งขันในศึกชิงแชมป์โลก ซึ่งเป็นรายการที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาล มันเป็นเกียรติแก่ตัวนักกีฬาและวงศ์ตระกูล ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะถอนตัวดื้อๆเยี่ยงนี้
ส่งผลให้แฟนลูกยางจากหลายชาติ ต่างคาดเดาไปในทางเดียวกันว่า "แม่นางตู้เย็น" กลัวสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ(FIVB) ตรวจเพศสภาพอย่างแน่นอน
เหมือนดั่งที่เพิ่งเกิดขึ้นในศึกวอลเลย์บอลหญิงรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีชิงแชมป์โลก 2025 ที่อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ ซึ่ง 2 นักกีฬาเวียดนามอย่าง ดัง ทิ ฮอง กับ เหงียน เฟือง กวิ่ญ มีกล้ามเนื้อถึกบึกบึนเหมือนดั่งผู้ชาย จนตรวจเพศสภาพไม่ผ่าน ส่งผลให้ทัพลูกยางญวนยู-21 โดนปรับแพ้ทุกแมตช์ที่ 2 คนนี้ลงแข่งขัน
เมื่อไม่มี เหงียน ทิ บิค เตวียน ร่วมทัพมาด้วย จึงทำให้เวียดนามมีผู้เล่นลุยศึกชิงแชมป์โลก 2025 เพียง 13 คนเท่านั้น โดยพวกเธออยู่กลุ่ม จี ร่วมกับ โปแลนด์, เยอรมัน และ เคนยา ซึ่งแข่งขันที่ยิมเนเซียม 4,000 ที่นั่ง ศูนย์กีฬาสะพานหิน จังหวัดภูเก็ต
ความพ่ายแพ้ต่อโปแลนด์ 1-3 เซตในแมตช์แรก และปราชัยต่อเยอรมัน 0-3 เซตในนัดที่ 2 มิใช่เรื่องเกินความคาดหมายแต่อย่างใด
ทว่าแมตช์ 3 กับเคนยา ที่เวียดนามตั้งธงจะคว้าชัยชนะนัดแรกในประวัติศาสตร์จากแมตช์นี้ในศึกชิงแชมป์โลกให้ได้ มันไม่ได้เป็นดั่งที่คิด
เมื่อพวกเธอแพ้เคนยาแบบราบคาบ 0-3 เซต ชนิดที่สู้กันแบบไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เพราะเคนยาที่ถูกมองว่าเป็นรองเวียดนามก่อนแข่งหลายขุม มีลูกหนักและหน้าบล็อกที่สูงใหญ่เล่นงานทัพตบสาวญวนตลอดทั้งเกม
แถมผู้เล่นที่เป็นตัวความหวังอย่าง เจิ่น ธิ ทันห์ ทุย กัปตันทีมในตำแหน่งบอลหัวเสา ทำได้เพียง 6 คะแนนเท่านั้นตลอดทั้งเกม แบ่งเป็นเซตแรก 3 คะแนน, เซต 2 เพียง 2 คะแนน และเซตที่ 3 แค่คะแนนเดียว เพราะขึ้นตีแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่จะติดบล็อกคู่แข่งจนเสียแต้ม
เมื่อผู้เล่นตัวหลักทำแต้มไม่ได้จนเล่นไม่ออก สิ่งที่เห็นตามมาก็คือ เหงียน ตวน เคียต โค้ชของทีมชาติเวียดนาม ก็มิอาจแก้เกมให้ทีมกลับมาได้ รูปแบบการเล่นก็ยังเดิมๆ จึงพ่ายแพ้ให้กับเคนยา ตัวแทนจากทวีปแอฟริกาที่ถูกมองว่าอ่อนสุดในสาย จี ไปอย่างย่อยยับ พร้อมกับมีสถิติแพ้รวด 3 นัด จบทัวร์นาเมนต์แบบไร้คะแนน ได้เพียงเซตเดียวจากโปแลนด์กลับบ้านเท่านั้น
ความพ่ายแพ้ในศึกชิงแชมป์โลกหนนี้ทั้ง 3 แมตช์ โดยเฉพาะความปราชัยต่อเคนยา คงจะทำให้ทัพวอลเลย์บอลหญิงเวียดนาม รวมถึงแฟนลูกยางของพวกเธอ ลดความผยองพองขนลงไปไม่มากก็น้อย และคงจะตาสว่างขึ้น พร้อมกับได้ทราบถึงความจริงอันเจ็บปวดที่ว่า พวกเธอห่างไกลกับคำว่า "ระดับโลก"