งัดมาตรการใหม่หวังปิดอาชญากรรมการเงิน แบงก์ชาติดักทางตั้งเงินโอนต่อวันสูงสุด 50,000 บาทกับลูกค้าใหม่ใช้โมบายแบงก์กิ้ง เริ่ม ส.ค. 68 นี้ จ่อขยายคลุมลูกค้าปัจจุบันในสิ้นปี 68
BTimes
อัพเดต 19 สิงหาคม 2568 เวลา 23.53 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • อัพเดตข่าวหุ้น ธุรกิจ การเงิน การลงทุน การตลาด การค้า สุขภาพ กับ บัญชา ชุมชัยเวทย์ - BTimes.Bizนางอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ชี้แจงว่า มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายหลัก คือ (1) จำกัดไม่ให้มิจฉาชีพสามารถโอนเงินออกจากบัญชีได้ครั้งละจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพถ่ายโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดได้เร็ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะกักเงินของผู้เสียหายไว้ได้ทัน และ (2) จำกัดความเสียหายของประชาชนที่อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของมิจฉาชีพ
ธนาคารจะพิจารณากำหนดวงเงินการโอนและชำระเงินต่อวันให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและพฤติกรรมการทำธุรกรรมในอดีตของลูกค้า โดยวงเงินเริ่มต้นอยู่ที่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน หลักการกำหนดวงเงินที่เหมาะสมกับลูกค้า จะแบ่งการกำหนดวงเงินต่อวันไว้ที่ 3 ขนาด ดังนี้
* S วงเงินต่อวัน ไม่เกิน 50,000 บาท
* M วงเงินต่อวันไม่เกิน 200,000 บาท
* L วงเงินต่อวันเกิน 200,000 บาท
และจัดกลุ่มลูกค้าเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเสี่ยงที่เป็นบัญชีต้องสงสัย ลูกค้าที่ใหม่ไม่เคยมีประวัติกับธนาคาร ไม่เคยยืนยันแหล่งที่มารายได้ จะถูกกำหนดวงเงินในกลุ่ม S คือวงเงินต่อวัน ไม่เกิน 50,000 บาท
กลุ่มต่อมาเป็นลูกค้าของธนาคารอยู่แล้ว และมีประวัติการใช้ผลิตภัณฑ์/บริการ หรือมีสินทรัพย์กับธนาคารก็จะอยู่ในกลุ่มลูกค้าทั่วไป – รู้จักดี สามารถกำหนดวงเงินได้ทั้ง 3 รูปแบบ ซึ่งในการเปลี่ยนแปลงวงเงินยังต้องสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนเช่นเดิม
ส่วนกลุ่มสุดท้ายเป็นลูกค้าเปราะบาง เช่น เด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี และผู้สูงอายุ เช่นกลุ่มอายุ มากกว่า 65 ปี ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ เช่น มีการแจ้งเตือนหากพบว่าจะทำธุรกรรมที่สุ่มเสี่ยง แต่หากแจ้งเตือนแล้วยังยืนยันจะทำธุรกรรมที่เสี่ยงอยู่ดี ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบความเสียหายนั้นเอง
ทั้งนี้ ธปท. ได้กำหนดให้ธนาคารต้องมีแนวทางลดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ต่อลูกค้าด้วย เช่น มีกระบวนการรองรับกรณีลูกค้ามีความจำเป็นฉุกเฉินต้องโอนเงินหรือชำระเงินสูงกว่าวงเงินต่อวันที่โอนได้ โดยให้ธนาคารดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวกับกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เพิ่งเปิดใช้บริการ mobile banking หรือ internet banking ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2568 และกลุ่มลูกค้าปัจจุบันภายในสิ้นปี 2568