เบื้องลึกของ'ไมเคิล อัลฟาโร'เคยทำงานในลาว แทรกแซงเวียดนาม แล้วถูกกัมพูชาจ้างมาใส้ร้ายไทย
คนไทยคงจะทราบแล้วว่า รัฐบาลกัมพูชาปั้นน้ำเป็นตัวด้วยการ 'เชิญ' ล็อบบี้ยิสต์ชาวอเมริกันที่ชื่อ ไมเคิล อัลฟาโร (Michael Alfaro) มาทำทีเป็นผู้สื่อข่าวโดยถึงกับอ้างว่าเป็นผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาว ทั้งที่งานข่าวทำเนียบข่าวของสำนักข่าวต่างๆ จะไม่ส่งคนมาทำงานแนวหน้าของสงคราม ยังไม่นับว่า "การทำข่าว" ของ อัลฟาโร นั้นไม่ใช่การทำข่าวอย่างมืออาชีพเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ (ดูหมายเหตุเกี่ยวกับการกล่าวหาไทยที่ท้ายรายงานนี้)
แท้จริงแล้ว ไมเคิล อัลฟาโร เป็นนักต่อรองด้านนโยบายหรือล็อบบี้ยิสต์ที่ทำงานให้กับบริษัท Capitol Hill & Friends ซึ่งบริษัทนี้ให้บริการ"มอบคำแนะนำและแนวการปรึกษาด้านนโยบายที่ตรงเป้าหมายให้กับลูกค้าในประเด็นสำคัญต่อความสำเร็จของการดำเนินงานของคุณ ซึ่งรวมถึงความเข้าใจในกระบวนการด้านกฎระเบียบและนโยบาย และการระบุแนวโน้มของนโยบายสาธารณะที่อาจส่งผลกระทบต่อโครงการที่สำคัญต่อลูกค้าของเรา" นั่นคือการเข้าไปล็อบบี้หรือเคลื่อนไหวเพื่อผลักดันวาระของลูกค้าให้เป็นนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ นั่นเอง โดยจะรับเงินมาแล้วไปเกลี้ยกล่อมนักการเมืองอดมริกันให้คล้อยตามสิ่งที่ลูกค้าต้องการ เช่น จะเป็นการออกกฎหมายที่เอื้อภาคธุรกิจ หรือทำให้เกิดนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าต่างประเทศ
อย่างที่พวกเขาบอกเองว่า "เรามีความสามารถในการสนับสนุนความต้องการของลูกค้าในด้านกฎหมายและข้อบังคับระดับรัฐบาลกลางและระหว่างประเทศ"
ในเว็บไซต์ของบริษัทบอกว่า ไมเคิล อัลฟาโร เป็น "เจ้าของและผู้ก่อตั้ง" และมีคุณสมบัติเป็น "นักล็อบบี้ยิสต์ของรัฐบาลกลางและที่ปรึกษาด้านการเงินการเมือง" โดยคุณสมบัติอย่างหลังของเขาเน้นที่การช่วยระดมทุนให้ฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยระดมทุนให้กับโดนัลด์ ทรัมป์ ในรัฐอิลลินอยส์ โดยมีตำแหน่งเป็นประธานร่วมของ Trump Victory Finance ประจำอิลลินอยส์ในปี 2020 ซึ่งนี่คือส่วนหนึ่งของ Trump Victory Committee ซึ่งเป็นคณะกรรมการระดมทุนร่วมสำหรับ Donald J. Trump for President (องค์กรรณรงค์หาเสียงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์) คณะกรรมการแห่งชาติของพรรครีพับลิกัน (RNC) และคณะกรรมการพรรครีพับลิกันของรัฐ 11 แห่ง
เขายังเคยมีผลงานการระดมทุนได้สามล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือการอพยพพลเมืองสหรัฐฯ และผู้ถือกรีนการ์ดมากกว่า 14,000 คนที่เหลืออยู่ในอัฟกานิสถานหลังจากที่สหรัฐฯ ถอนตัวออกมา
ดังนั้น นอกจาก อัลฟาโร จะมารับงานโฆษณาชวนเชื้อให้กัมรัฐบาลกัมพูชาแล้ว เขาอาจทำหน้าที่เป็นผู้ระดมทุนให้กับกัมพูชาได้ด้วย
สำหรับค่าจ้างนั้นอาจจะอนุมานจากรายได้เดิมที่ อัลฟาโร เคยได้รับ เช่น เมื่อปี 2024 บริษัทรีไซเคิลที่ชื่อ California Waste Solutions เคยจ้าง อัลฟาโร ให้ล็อบบี้ทางการเมืองให้พวกเขาโดยว่าจ้างเป็นเงิน 40,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,298,680 บาท)
ในปีเดียวกัน บริษัทของเขายังรับงานล็อบบบี้ให้กับ Biodent Inc ซึ่งไม่ทราบประเภทของกิจการ แต่ได้ว่าจ้างเป็นเงิน 40,000 ดอลลาร์ เช่นกัน
อัลฟาโร นั้นทำงาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รอบๆ ไทยมาแล้ว โดยอ้างไว้ในเว็บไซต์ของบริษัทว่าเคยทำ "การช่วยเหลือเด็กที่หมดสติที่เขื่อนพังถล่มระหว่างการสืบสวนคดีค้ามนุษย์ในลาว ต่อมาเขาได้ช่วยสร้างโรงพยาบาลในท้องถิ่นขึ้นใหม่ อำนวยความสะดวกด้านบริการสุขภาพที่ดีขึ้น ด้วยจำนวนเตียงโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และอุปกรณ์ทางการแพทย์ใหม่ๆ เช่น เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า เครื่องฟักไข่เด็ก และเครื่องตรวจเลือด"
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการระบุข้อมูลว่าโรงพบาบาลที่เขาอ้างว่าช่วยสร้างนั้นอยู่ที่แห่งไหนในประเทศ สปป.ลาว อีกทั้งการอ้างว่าได้ "ช่วยเหลือเด็กที่หมดสติที่เขื่อนพังถล่ม" ก็เพียงแค่ภาพของเขาอุ้มเด็กคนหนึ่งโดยไม่มีรายละเอียดที่มาที่ไปของเรื่องราวเบื้องหลัง
นอกจากเรื่องราวที่คลุมเครือในลาวแล้ว เขายังอ้างว่าได้ "ใช้เวลาสองปีที่ผ่านมาในการทำงานเพื่อปรับปรุงความโปร่งใสของรัฐบาลในเวียดนาม และรับประกันภาระรับผิดชอบ (accountability ของเวียดนาม) ต่อผู้บริจาคและนักลงทุนชาวอเมริกัน"
ล่าสุด หลังจากที่ไปยุ่มย่ามในลาวและเวียดนาม อัลฟาโร ก็ถูกว่าจ้างโดยกัมพูชาให้เล่นงานไทย
ในวันที่ อัลฟาโร เดินทางไปรับงานที่ชายแดนไทย-กัมพูชาเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่เลวร้ายให้กับไทยนั้น ก็ได้รับการตอบสนองอย่างดีจากชาวเขมรที่หมู่บ้านเปรยจัน ตำบลโอเบยโจน อำเภอโอชรอฟ ซึ่งตะโกนด่าทอทหารไทยว่า
"โจรสยาม"
โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better
หมายเหตุท้ายรายงาน - การโฆษณาชวนเชื่อโดยรัฐบาลกัมพูชาผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตประจำบัลแกเรียที่เอ่ยถึงการ "รายงานข่าว" ของ อัลฟาโร
15 สิงหาคม 2568 ไมเคิล บี. อัลฟาโร: เราอยู่ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
ไมเคิล บี. อัลฟาโร ผู้สื่อข่าวสหรัฐฯ ประจำทำเนียบขาว รายงานสดจากชายแดนกัมพูชาและไทย ระหว่างการเยือนกัมพูชาครั้งนี้
อัลฟาโร ท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำ เผยให้เห็นลวดหนามและเศษยางรถยนต์ที่กองทัพไทยปิดกั้นไว้ในหมู่บ้านต่างๆ ภายในเขตแดนกัมพูชา
อัลฟาโรยังแสดงให้เห็นความทุกข์ยากของครอบครัวคนไร้บ้านที่ต้องหลบภัยอยู่ใต้เต็นท์ชั่วคราวที่เปียกฝน
อัลฟาโรเล่าเพิ่มเติมว่ากองทัพไทยหลอกลวงทหารกัมพูชา 20 นายอย่างไร หลังจากการประกาศหยุดยิง (29 กรกฎาคม) ซึ่งพวกเขาถูกจับกุมและคุมขังจนถึงปัจจุบัน
อัลฟาโรเล่าอย่างหนักแน่นว่าไทยยังคงคุกคามกัมพูชาอย่างต่อเนื่องด้วยการบุกรุกดินแดนกัมพูชาอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อพลเรือนหลายพันคน
อัลฟาโรปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทยต่อกัมพูชาเรื่องการวางทุ่นระเบิดใหม่ว่าเป็น “เรื่องโกหกครั้งใหญ่”
อัลฟาโรเตือนว่าการกระทำที่ผิดกฎหมายของไทยเป็นการดูหมิ่นความคิดริเริ่มของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการบังคับใช้การหยุดยิงอย่างชัดเจน
อัลฟาโรเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ นักข่าวต่างประเทศทุกคน และประเทศอื่นๆ ทั่วโลกเข้าแทรกแซงและบังคับใช้มาตรการที่ไทยยังคงโจมตีประเทศเล็กๆ อย่างกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเคลื่อนกำลังทหารและการบุกรุกดินแดนอธิปไตยของกัมพูชาอย่างผิดกฎหมาย