CEA สงขลา หนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ชูธง เทศกาลงานออกแบบปักต์ใต้ 2025

มูลค่าของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในภาคใต้ปี 2565 อยู่ที่ 85,306 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมหลายสาขาที่สร้างมูลค่ามากสุด ได้แก่ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว มีมูลค่าสูงถึง 68,170 ล้านบาท สะท้อนบทบาทของ CEA ในการเป็นส่วนหนึ่งยกระดับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของภาคใต้ ผ่านการจัดเทศกาลสร้างสรรค์ ทั้งเทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้, เทศกาลฉาด เฟสติวัล ที่จังหวัดพัทลุง และการยกระดับศักยภาพของนักสร้างสรรค์ภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัด ผ่านการจัดตั้ง CEA และ TCDC สงขลา ดูแลภาพรวมและส่วนท้องถิ่น TCDC ภูเก็ต และ TCDC ปัตตานี โดยในปี 2569 จะมีการเปิดรับสมัคร TCDC ส่วนภูมิภาคเพิ่ม

นายฆฤณ กังวานกิตติ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สงขลา (CEA สงขลา) เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์และบทบาทของ CEA และ TCDC ในภาคใต้ ว่า ไฮไลต์ของงานเทศกาลสร้างสรรค์ภาคใต้ หรือ “เทศกาลงานออกแบบปักต์ใต้ 2025” Pakk Taii Design Week 2025 (PTDW2025) ภายใต้แนวคิด “South Paradise มาใต้ บายใจให้ถึงหวัน” ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม – 7 กันยายน 2568 จังหวัดสงขลา ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 หลัง 2 ปีแรกปูพื้นจากการนำเสนอเอกลักษณ์วัฒนธรรมพหุชนชาติไทย–จีน–มุสลิม และต่อยอดสู่ธุรกิจสร้างสรรค์ด้านอาหาร สถาปัตยกรรม เมือง และภาพยนตร์

การจัดงานในปีนี้ขยายผลครอบคลุมครบทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ว่า ‘ปักษ์ใต้มีดี’ และ ‘มีโอกาส’ พร้อมโอบรับทุกความเป็นไปได้ ทั้งความสุข ความสบายใจ สู่การเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยโอกาสใหม่ ๆ ส่วนพื้นที่จัดงานยังคงที่เมืองเก่าสงขลา แต่ขยายจากถนนสายบุรีถึงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และเปิดโซนใหม่ถนนเพชรคีรี Slow Food รวมถึงถนนเสน่หานุสรณ์ หาดใหญ่ เพื่อสร้างกิจกรรมเชื่อมย่าน การจัดงานจะจัดภายใต้ธีม “เศรษฐกิจแห่งความสบายใจ” แนวคิดดังกล่าวสะท้อนความต้องการใหม่ของโลกหลังโควิด ที่ผู้คนแสวงหาความสงบ ผ่อนคลาย การปลดปล่อยพลัง และการพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง

งานจึงถูกออกแบบให้มี 4 ส่วนหลัก ได้แก่ 1. นิทรรศการ Economy of Comfort ถ่ายทอดแนวคิดเศรษฐกิจแห่งความสบายใจ 2. 14 Potential Spaces แสดงศักยภาพของแต่ละจังหวัด เช่น นครศรีธรรมราช “เมืองแห่งศรัทธา” 3. South Market ตลาดสร้างสรรค์ที่รวมสินค้าอัตลักษณ์และตลาดเครือข่ายกว่า 5 แห่ง และ 4. South Pollination ความร่วมมือกับท้องถิ่น เช่น โครงการปรับภูมิทัศน์เมืองเก่าสงขลา และทดลองระบบเข้าถึงย่านการค้าด้วยรถรางและโปรโมชั่นข้ามร้าน

เทศกาลนี้ไม่ใช่อีเวนต์ชั่วคราว แต่เป็น “ห้องทดลองเมือง” ที่ต่อยอดได้จริง เช่น ตลาดชุมชนบ้านบนพัฒนาสินค้าอาหารฮาลาลรองรับนักท่องเที่ยวมาเลเซีย และการจัดเวิร์กช็อปสร้างเมนูใหม่จากวัตถุดิบท้องถิ่น ขณะเดียวกันยังมีการแลกเปลี่ยนกับเทศกาลสร้างสรรค์ต่างประเทศและภูมิภาคอื่น เพื่อผสานจุดแข็งด้านพื้นที่กับแนวทาง Business Matching ให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจชัดเจน เทศกาลสร้างสรรค์ในแต่ละภูมิภาคมีเป้าหมายเดียวกันคือสร้างฐานเศรษฐกิจใหม่ แม้แต่ละแห่งจะมีจุดเน้นแตกต่างกัน โดยภาคใต้ใช้ “เมืองและพื้นที่” เป็นเวทีหลักเพื่อดึงดูดการท่องเที่ยว ปีนี้ตั้งเป้าผู้เข้าร่วมกว่า 200,000 คน

นายฆฤณ กล่าวต่อว่า โครงการสร้างสรรค์ภาคใต้ก้าวสู่ปีที่ 3 ด้วยเป้าหมายการสร้างแพลตฟอร์มแสดงศักยภาพของนักสร้างสรรค์และผู้ประกอบการท้องถิ่น เพื่อนำทรัพยากรธรรมชาติและทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอดเป็นสินค้าและบริการใหม่ ยกระดับเศรษฐกิจเมืองและคุณภาพชีวิตประชาชน ภารกิจหลักเน้น 2 ด้าน คือผลักดันความคิดสร้างสรรค์ให้เป็นขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และทำให้เมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นผ่านกิจกรรมสาธารณะและประสบการณ์ใหม่ที่ดึงดูดทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว

หัวใจของโครงการคือการเชื่อมนักสร้างสรรค์กับภาคธุรกิจ นำวัตถุดิบ ภูมิปัญญา และอัตลักษณ์ท้องถิ่นมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และบริการเชิงสร้างสรรค์ รวมถึงการใช้พื้นที่ที่ถูกมองข้ามให้กลายเป็น “ห้องทดลองเมือง” ผ่านนิทรรศการและกิจกรรม เพื่อพิสูจน์ศักยภาพด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวคุณภาพ การดำเนินงานอาศัยเครือข่ายจากภาครัฐ เอกชน ชุมชน มหาวิทยาลัย และนักสร้างสรรค์ ร่วมกันพัฒนาและต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่

เป้าหมายคือการสร้างเรื่องเล่าเฉพาะถิ่น ยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการ เข้าถึงตลาดใหม่ และกระจายรายได้กลับสู่ชุมชน เมื่อเข้าสู่ปีที่ 3 โครงการจะเน้นการต่อยอดและวัดผลอย่างจริงจัง โดยใช้ตัวชี้วัด เช่น จำนวนธุรกิจที่เกิดขึ้นจริง รายได้จากการจับคู่ทางธุรกิจ จำนวนผู้เข้าร่วมงาน และการใช้พื้นที่ต่อเนื่อง เพื่อยืนยันผลลัพธ์เชิงรูปธรรมว่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์สามารถขับเคลื่อนเมืองและการท่องเที่ยวคุณภาพได้จริง

ความสำเร็จของโครงการอาศัยเครือข่ายความร่วมมือแบบบูรณาการระหว่างภาครัฐ เอกชน ชุมชน มหาวิทยาลัย และนักสร้างสรรค์ โดยมี CEA และ TCDC สงขลาเป็นหน่วยงานหลักดูแลภาพรวม ขณะที่ TCDC ภูเก็ตและ TCDC ปัตตานีดูแลระดับท้องถิ่น ทั้งนี้ในปี 2569 จะมีการเปิดรับสมัคร TCDC ส่วนภูมิภาคเพิ่มเติม

การดำเนินงานเน้นการนำทรัพยากรธรรมชาติและทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอดเป็นสินค้าและบริการใหม่ ผ่านการเชื่อมต่อนักสร้างสรรค์กับภาคธุรกิจ และการใช้วัตถุดิบ ภูมิปัญญา และอัตลักษณ์ท้องถิ่นพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์

หากโครงการสร้างสรรค์ภาคใต้สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ จะกลายเป็นต้นแบบสำคัญของการใช้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายผลไปยังภูมิภาคอื่นๆ ในอนาคต

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,128 วันที่ 4 - 6 กันยายน พ.ศ. 2568