20 สิ่งที่ iPhone 17 Pro น่าสนใจและน่าซื้อในช่วงปลายปี 2025
ก่อนการเปิดตัว iPhone 17 ที่กำลังจะมาในช่วงประมาณต้นเดือนกันยายน 2025 มีหลายเรื่องมากมายก่อนที่ iPhone 17 Series จะเปิดตัว รอบนี้ใครที่ไม่อยากอ่านจากทั้งหมดให้ปวดหัว เราได้รวมทั้งหมด 20 ข้อที่คุณควรรู้และมีเหตุผลที่ควรรอมือถือใหม่เครื่องนี้จากทางสื่อเมืองนอกได้สรุปออกมา จะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลยครับ
20 เหตุผลที่ iPhone 17 ยังน่ารอคอย
1. การมาของ iPhone 17 "Air"
มีรายงานว่า Apple จะเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ที่ใช้ชื่อว่า "iPhone 17 Air" ซึ่งจะมาพร้อมดีไซน์ที่ "บางลงอย่างมีนัยสำคัญ" โดย Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ชื่อดังคาดว่าจะมีความหนาเพียง 5.5 มม. และอาจมีการออกแบบใหม่หมดจด ใช้กล้องหลังเดี่ยวในแถบแนวนอน, Dynamic Island ที่แคบลง, ตัวเครื่องอลูมิเนียม, ชิป A19, ปุ่ม Action, ปุ่มควบคุมกล้อง (Camera Control button) และกล้องหน้าความละเอียด 24MP บนหน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว
2. ดีไซน์อลูมิเนียมใหม่ในทุกรุ่น
นอกจากรุ่นที่เปลี่ยนไป มีข่าวลือว่า Apple จะหันกลับมาใช้วัสดุอลูมิเนียมกับ iPhone ทุกรุ่นอีกครั้ง ซึ่งหมายความว่ารุ่น Pro จะเปลี่ยนจากไทเทเนียม (ใน iPhone 15 Pro และ 16 Pro) กลับมาเป็นเฟรมอลูมิเนียม นับเป็นการสร้างเอกภาพด้านดีไซน์ให้กับทุกรุ่นในซีรีส์ เช่่นเดียวกัน
3. การออกแบบกล้องหลังใหม่หมดจด
ในรุ่น Pro จะมีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะโมดูลกล้องหลังที่จะเปลี่ยนจากฐานสี่เหลี่ยมที่คุ้นเคย ไปเป็น "แถบกล้องอลูมิเนียม" ที่พาดตลอดความกว้างของตัวเครื่อง นอกจากนี้ฝาหลังส่วนบนจะเป็นอลูมิเนียม ในขณะที่ครึ่งล่างยังคงเป็นกระจกเพื่อรองรับการชาร์จไร้สายต่อไป
4. ขนาดหน้าจอใหม่
หลังจากที่ iPhone 16 Pro ได้ขยายขนาดจอไปแล้ว ในปี 2025 คาดว่า iPhone 17 รุ่นมาตรฐานจะขยับไปใช้จอขนาด 6.27 นิ้วเท่ากับรุ่น Pro ส่วนรุ่น "iPhone 17 Air" อาจมาพร้อมขนาดจอใหม่ที่ 6.6 นิ้ว จนมองได้ชัดเจนว่ามันคือการอัปเกรดขึ้น
5. จอ ProMotion 120Hz (และ Always-On) ในทุกรุ่น
หลังจากกั้กจนได้ที่แล้วในที่สุด Apple จะนำเทคโนโลยีจอ ProMotion 120Hz มาใส่ใน iPhone ทุกรุ่น ทำให้การเลื่อนหน้าจอและดูวิดีโอลื่นไหลยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมฟีเจอร์ Always-On Display ด้วย อย่างไรก็ตาม มีข่าวลืออีกกระแสแย้งว่ารุ่นธรรมดาอาจได้จอ 120Hz ธรรมดาไม่ปรับ เพื่อรักษาความแตกต่างจากรุ่น Pro
6. ชิป Wi-Fi 7 ที่ Apple ออกแบบเอง
อีกเรื่องที่คาดว่ารุ่น Pro จะเป็นรุ่นแรกที่ได้ใช้ชิป Wi-Fi 7 ที่ Apple พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่อ Wi-Fi เร็วขึ้น, มีความหน่วงต่ำลง และเสถียรมากขึ้นเมื่อใช้กับเราเตอร์รุ่นใหม่ๆ ที่วางขายอยู่
7. เลนส์ Telephoto ความละเอียด 48MP
เลนส์ Telephoto จะได้รับการอัปเกรดเป็น 48MP ทำให้กล้องหลังทั้งสามตัวมีความละเอียด 48MP ทั้งหมดเป็นครั้งแรก ซึ่งจะช่วยให้เก็บรายละเอียดภาพได้ดียิ่งขึ้น และคาดว่าจะทำงานร่วมกับ Apple Vision Pro ได้ดีขึ้นด้วย
8. ซูมออปติคอลสูงสุด 8 เท่า (8×)
นอกจากความละเอียดที่เพิ่มขึ้นเลนส์ Telephoto ที่อัปเกรดใหม่อาจรองรับการซูมแบบออปติคอลได้ไกลถึง 8× (จากเดิม 5× ใน iPhone 16 Pro) โดยอาจมีกลไกที่เลนส์สามารถเคลื่อนที่ได้เพื่อการซูมที่ต่อเนื่องในหลายระยะ
9. รองรับการถ่ายวิดีโอ 8K
อีกส่วนที่จะได้เพิ่มเติมจากกล้องหลังทั้งหมดเป็นเซ็นเซอร์ 48MP ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ iPhone 17 Pro จะรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 8K ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่คู่แข่งหลายรายมีแล้ว และจะช่วยให้การถ่ายวิดีโอมีความยืดหยุ่นในการครอปหรือซูมโดยไม่เสียความละเอียด
10. กล้องหน้า 24MP
iPhone 17 ทุกรุ่นอาจได้รับการอัปเกรดกล้องหน้าเป็น 24MP พร้อมชุดเลนส์ 6 ชิ้น (จากเดิม 12MP เลนส์ 5 ชิ้น) ทำให้ภาพเซลฟี่ยังคงคมชัดแม้จะซูมหรือครอป และเก็บรายละเอียดได้ดีขึ้น
11. หน้าจอป้องกันรอยขีดข่วนและลดแสงสะท้อน
สายใช้งานและกลัวรอยก็มีข่าวว่า iPhone 17 จะมาพร้อมหน้าจอที่ทนรอยขีดข่วนได้ดีกว่า Ceramic Shield และมีชั้นเคลือบพิเศษเพื่อป้องกันแสงสะท้อน (Anti-Reflective) อย่างไรก็ตาม
12. RAM ที่มากขึ้น
ส่วนเรื่อง RAM คาดว่า iPhone 17 Pro และ Pro Max จะมาพร้อม RAM ขนาด 12GB (จากเดิม 8GB ใน iPhone 16) เพื่อรองรับการทำงานแบบ Multitasking และฟีเจอร์ Apple Intelligence ที่ต้องใช้หน่วยความจำสูง
13. Dynamic Island ที่เล็กลง
ในการเปลี่ยนแปลงอีกชิ้นที่ทำให้เห็นได้ชัดในรุ่นท็อปสุดอย่าง iPhone 17 Pro Max อาจมี Dynamic Island ที่แคบลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจาก Apple จะเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยี "Metalens" สำหรับระบบ Face ID ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเดิม
14. ชิปประมวลผล A19
ลือกันแบบหนาหูว่า iPhone 17 Series จะมาพร้อมชิป A19 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 3 นาโนเมตรที่ได้รับการปรับปรุง (N3P) ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพและความประหยัดพลังงานที่ดีขึ้น แต่ในรุ่น Pro จะใช้ชิป A19 Pro
15. ระบบระบายความร้อนแบบใหม่
ส่วนระบบระบายความร้อนมีรายงานว่า iPhone 17 ทุกรุ่นจะใช้ระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber ซึ่งช่วยกระจายความร้อนได้ดีขึ้น ป้องกันปัญหาเครื่องร้อนจนประสิทธิภาพตก (Thermal Throttling)
16. การชาร์จไร้สายย้อนกลับ (Reverse Wireless Charging)
ปล่อยให้คู่แข่งมีมานานมากสำหรับระบบจ่ายไฟย่อนกลับให้อุปกรณ์ในที่สุด ก็มีข่าวลือว่า Apple กำลังทดสอบฟีเจอร์นี้ ซึ่งจะทำให้ iPhone 17 Pro สามารถชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์อื่นแบบไร้สายได้ เช่น AirPods หรือ Apple Watch ด้วยกำลังไฟ 7.5W
17. แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น
แบตเตอรี่เป็นอีกเรื่องที่สำคัญหลายคนก็อยากให้ iPhone เพิ่มขนาดแบตฯ แน่นอนว่าก็มีข่าวลือว่า iPhone 17 Pro Max จะมีความหนาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย (ประมาณ 0.475 มม.) ซึ่งคาดว่าเป็นการเพิ่มพื้นที่สำหรับแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นและใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม
18. MagSafe มาตรฐาน Qi2.2 ชาร์จสูงสุด 50W
iPhone 17 อาจเป็นอุปกรณ์รุ่นแรกที่รองรับมาตรฐานการชาร์จไร้สาย Qi2 เจเนอเรชันใหม่ที่ให้กำลังไฟสูงสุดถึง 25W (จากเดิม 15W) และอาจรองรับ MagSafe ได้สูงสุดถึง 50W (เมื่อใช้กับอะแดปเตอร์ที่รองรับ) ซึ่งจะทำให้การชาร์จเร็วขึ้นอย่างมาก
19. สีใหม่
สีสันปีนี้ก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นโดยรุ่นมาตรฐานอาจมีสีใหม่ 4 สีคือ เทา Steel Gray, เขียว, ม่วง, และฟ้าอ่อน ส่วน iPhone 17 Air อาจมีสีฟ้าอ่อนและทองอ่อน ขณะที่รุ่น Pro อาจมีสีใหม่เป็น น้ำเงินเข้ม (Dark Blue) และ สีส้ม (Orange)
20. ความจุเริ่มต้น 256GB สำหรับรุ่น Pro
หลังจากใน iPhone 16 Pro มีความจำเริ่มต้น 128GB ให้เลือก แต่ปีนี้อาจจะต้องโบกมือลาเพราะข่าวลือคาดว่า iPhone 17 Pro จะเริ่มต้นที่ความจุ 256GB (จากเดิม 128GB) ซึ่งจะทำให้สอดคล้องกับรุ่น Pro Max และมอบความคุ้มค่าให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น แม้อาจมีการปรับราคาเริ่มต้นขึ้นเล็กน้อย
ทั้งหมดนี้จะเป็นจะเป็นจริงหรือไม่ต้องรอติดตามกันต่อไป