‘รองนายกฯ ประเสริฐ’ เผยผลสำเร็จร่วมประชุม APEC 2025 Digital and AI Ministerial Meeting ชูศักยภาพประเทศ พร้อมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไทยแข็งแกร่ง
‘รองนายกฯ ประเสริฐ’ เผยผลสำเร็จร่วมประชุม ‘APEC 2025 Digital and AI Ministerial Meeting’ ชูศักยภาพประเทศ พร้อมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไทยแข็งแกร่ง เชิญชวน ‘ต่างชาติ’ ลงทุน AI
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงผลการเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ ประจำปี ค.ศ. 2025 (APEC 2025 Digital and AI Ministerial Meeting) ณ Songdo Convensia เมืองอินชอน สาธารณรัฐเกาหลี เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมาว่า การประชุม APEC 2025 Digital and AI Ministerial Meeting จัดขึ้นภายใต้หัวข้อหลัก Digital and AI Transformation toward Prosperity and Sustainable Growth for All โดยมี Mr. BAE Kyunghoon รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และไอซีที สาธารณรัฐเกาหลี ทำหน้าที่ประธานการประชุม และมีผู้แทนระดับรัฐมนตรีและระดับสูงของแต่ละเขตเศรษฐกิจสมาชิกเอเปคเข้าร่วมการประชุม จำนวน 21 เขตเศรษฐกิจ ซึ่งตนร่วมกล่าวถ้อยแถลงระหว่างการประชุมช่วงที่ 1 ในหัวข้อ Facilitating Digital and AI Innovation to Address Challenges ว่า ปัญหาสังคมสูงวัย หนี้ครัวเรือน และกับดักรายได้ปานกลาง ถือเป็นความท้าทายทางเศรษฐกิจของไทย ดังนั้นกระทรวงดีอีจึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ ‘The Growth Engine of Thailand’ ซึ่งเน้นการดำเนินงาน 3 ด้าน ได้แก่ การเพิ่มขีดความสามารถทางดิจิทัล การสร้างความมั่นคงปลอดภัย และการพัฒนาทุนมนุษย์
“ทั้งนี้ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่ง เช่น ระบบ ThaiD และ PromptPay และแพลตฟอร์ม AI ของภาครัฐ ที่จะช่วยดึงดูดนักลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก รวมทั้งการส่งเสริมการลงทุนด้าน AI และการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้แรงงานและผู้สูงอายุ พร้อมส่งเสริม SMEs ในการใช้เทคโนโลยี AI ภายใต้ความร่วมมือในระดับภูมิภาค ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI เพื่อสร้างอนาคตที่ครอบคลุม ปลอดภัย และยั่งยืนสำหรับประชาชนทุกคน” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า ในการประชุมช่วงที่ 3 หัวข้อ ‘Creating a Safe and Trustworthy Digital and AI Ecosystem’ ตนได้นำเสนอต่อที่ประชุมถึงการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ซึ่งมีความจำเป็น ท่ามกลางโอกาสและความท้าทายจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยประเทศไทยมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมีความรับผิดชอบ ควบคู่กับการคุ้มครองสิทธิผู้ใช้และสร้างความเชื่อมั่นผ่านนโยบายด้านความปลอดภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะการจัดตั้งศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ (AOC 1441) ที่ทำงานร่วมกับธนาคารและผู้ให้บริการโทรคมนาคมในการสกัดกั้นบัญชีและเบอร์โทรต้องสงสัยอย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกันประเทศไทยยังสนับสนุนแผนงานของ APEC ด้านความร่วมมือเศรษฐกิจดิจิทัล โดยพร้อมผลักดันการปรับปรุงกฎหมาย การทดลองนวัตกรรมอย่างปลอดภัย และความร่วมมือข้ามพรมแดน เพื่อให้เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI เป็นเครื่องมือที่สร้างความไว้วางใจและประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ในการเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ยังมีโอกาสได้พบและหารือทวิภาคีกับผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐของประเทศต่างๆ อาทิ สิงคโปร์และสาธารณรัฐเกาหลี ถึงความร่วมมือในการพัฒนาด้านเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยในอนาคตด้วย