แนะกองทัพ หนุนผู้ประกอบการยุทโธปกรณ์ในประเทศ วิจัยอุตสาหกรรมป้องกันภัยมั่นคง
“อนุฯ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ” แนะกองทัพ ซื้อยุทโธปกรณ์ ใช้จังหวะปะทะกัมพูชา หนุนผู้ประกอบการในประเทศพัฒนาศักยภาพ นำกำไรส่วนเกินไปศึกษาวิจัย ขีดความสามารถอุตสาหกรรมป้องกันภายในประเทศ
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายชยพล สะท้อนดี ส.ส.กทม.พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการ(กมธ.)ศึกษาและแก้ไขกฎหมายอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในกมธ. ทหาร สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ แถลงแนะนำรัฐบาลกรณีการซื้อยุทโธปกรณ์ ว่า ด้วยความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา ที่มีความขัดแย้งกันบริเวณชายแดน ในเรื่องของการส่งกำลังบำรุงที่ทำให้เจ้าหน้าที่ ที่อยู่หน้างานสามารถปฏิบัติงานได้อย่างราบรื่น เช่น อาวุธยุทโธปกรณ์ และอุปกรณ์สนับสนุนต่างๆ เป็นต้น
นายชยพล กล่าวว่า ปัญหาบริเวณชายแดนที่เกิดการปะทะกันระหว่างประเทศไทยและกัมพูชานั้นอาจจะยืดเยื้อต่อไปเรื่อยๆ ทำให้จากเดิมที่คิดว่ามีทรัพยากรเพียงพอ อาจจะไม่พอ อาจจะยืดยาวกว่าที่วางแผนไว้ และไม่ทราบว่าจะยุติลงเมื่อไหร่ ทำให้การส่งกำลังบำรุงยุทโธปกรณ์ ไปยังหน้างานต้องวางแผนกันดีๆ
นายชยพล กล่าวว่า จึงอยากแนะนำไปยังรัฐบาลว่าช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ดี อีกทั้งรมช.กลาโหม กล่าวไว้ว่า หากเหล่าทัพไหนต้องการยุทโธปกรณ์อะไรให้รีบจัดเตรียมทำเรื่องขอมา จะมีการอนุมัติซื้อยุทโธปกรณ์เป็นพิเศษ ถือเป็นโอกาสดีที่จะผนวกใช้แนวคิดเรื่องของ accept policy เพื่อให้เราได้สร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการภายในประเทศไทยสามารถยืนได้ด้วยตัวเองอย่างเข้มแข็งมากขึ้น เพราะถ้าดูจากสถานการณ์ ณ ตอนนี้ มีโอกาสที่ความขัดแย้งจะยกระดับ เป็นที่จับตาดูของประชาคมโลกมากขึ้น เพราะฉะนั้นการที่เราจะหวังพึ่งยุทโธปกรณ์ต่างๆจากต่างประเทศในอนาคตอาจจะเกิดการสะดุดได้ และหากสถานการณ์รุนแรงขึ้นต่างประเทศอาจไม่ขอยุ่งเกี่ยว ดังนั้นระหว่างนี้เราสามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการในไทยได้ ที่จะสนับสนุนยุทโธปกรณ์และทรัพยากรต่างๆ ที่สามารถหาได้ในไทย ซึ่งเป็นโอกาสที่รัฐบาลควรคว้าเอาไว้
“ยุทธภัณฑ์ที่ใช้ในการปะทะที่ผ่านมา โดยเฉพาะเป็นยุทธภัณฑ์สิ้นเปลือง เช่น กระสุน มีการใช้งานไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งอนุกมธ.ฯ เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลจะหันมาสนับสนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศ เพราะประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตกระสุนหลายรายการ และมีหลายโครงการที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน บริษัทเอกชนที่สามารถผลิต กระสุนขนาด 30 มม. กระสุนและอาวุธประจำกาย และกระสุนปืนใหญ่หลายขนาด จึงคิดว่าเป็นโอกาสที่ไทยจะหันมาสนับสนุนยุทธภัณฑ์ภายในประเทศให้จริงจัง เพื่อผู้ผลิตและผู้ประกอบการในประเทศ เพื่อนำกำไรส่วนเกินไปศึกษาวิจัย ขีดความสามารถอุตสาหกรรมป้องกันภายในประเทศให้ต่อยอดมากกว่านี้ โดยเฉพาะสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ เป็นส่วนสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการพึ่งพาอุตสาหกรรมป้องกันภายในประเทศในอนาคต” นายชยพล กล่าว
นายชยพล กล่าวต่อว่า สำหรับร่างกฎหมายเกี่ยวกับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ร่างเสร็จแล้ว แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมความเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาปรับปรุงกฎหมาย ขณะที่ภาคเอกชนก็มีความพร้อมในการผลิตยุทโธปกรณ์ เพียงแต่ขาดกลไกการสนับสนุนบริษัทที่ผลิตยุทโธปกรณ์ให้สามารถพัฒนาขีดความสามารถของตนเองและจับคู่พัฒนายุทโธปกรณ์ร่วมกันได้จากภาครัฐ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แนะกองทัพ หนุนผู้ประกอบการยุทโธปกรณ์ในประเทศ วิจัยอุตสาหกรรมป้องกันภัยมั่นคง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th