ประวัติ ‘แฟรงค์ คาปริโอ’ ผู้พิพากษาแสนใจดีจาก Caught in Providence
ทำความรู้จัก ‘แฟรงค์ คาปริโอ’ (Frank Caprio) ผู้พิพากษาสุดโด่งดังวัย 87 ปีแห่ง Caught in Providence สุดยอดรายการทีวียอดเยี่ยม จากเวที Emmy Awards
เชื่อว่าผู้อ่านเกินกว่าครึ่งในที่นี้คงจะรู้จัก แฟรงค์ คาปริโอ (Frank Caprio) อย่างแน่นอน ชายวัยเกษียณที่ทำงานในตำแหน่งผู้พิพากษา ณ เมืองเล็ก ๆ แถบชนบทของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาได้รับการขนานนามจากผู้ชมรายการ Caught in Providence ทั่วโลกว่าเป็นบุคคลใจดีและแสนอบอุ่นเกินกว่าจะหาใครเทียบได้
แฟรงค์ได้สร้างความประทับใจให้คนมานับไม่ถ้วนจากการรับชมคลิปวีดีโอการพิจารณาคดีของเขา ไม่ว่าจะในสื่อออนไลน์แพลตฟอร์มไหน ๆ คลิปของเขาก็มักจะเรียกรอยยิ้มจากผู้ชมได้เสมอ ซึ่งคลิปของแฟรงค์ในขณะพิจารณาคดีถูกนำไปแปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากมายไม่เว้นแม้แต่ภาษาไทย ด้วยเหตุนี้แฟรงค์จึงได้กลายเป็นที่รักของหลาย ๆ คน ณ ที่นี้
‘แฟรงค์ คาปริโอ’ กับตัวตนนอกบัลลังก์ผู้พิพากษา
‘แฟรงก์ คาปริโอ’ (Frank Caprio) ผู้พิพากษาชาวอเมริกันที่ทำงานในสายกฏหมายมากว่า 40 ปี ขณะนี้ทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษาในศาลระดับท้องถิ่น เมืองพรอวิเดนซ์ รัฐโรดไอแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา แฟรงค์อายุครบ 87 ปีไปเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นับว่าเขาเป็นนักกฏหมายที่อายุเข้าสู่วันเกษียณอย่างเต็มตัว แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่อายุที่มากกลับไม่ใช่อุปสรรคในการทำงานของเขาแต่อย่างใด
แฟรงค์ คาปริโอเติบโตมาในย่านเฟเดอรัล ฮิลล์ รัฐแมรี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา เขาเป็นบุตรคนที่สองของอันโตนิโอ คาปริโอ กับ ฟิโลเมนา ในช่วงเรียนแฟรงค์เข้าเรียน ณ โรงเรียนของรัฐพรอวิเดนซ์ หลังจากสำเร็จการศึกษาเขาได้เข้าทำงานใน Hope High School ที่ตั้งอยู่เมืองพรอวิเดนซ์ โรดไอแลนด์ ในขณะเดียวกันแฟรงค์ก็ได้เรียนภาคค่ำในคณะนิติศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยซัฟโฟล์ค เมืองบอสตัน นับแต่นั้นมาแฟรงค์ก็ได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางสายกฎหมายอย่างเต็มตัว
เส้นทางการทำงานบนถนนสายอาชีพผู้พิพากษาของแฟรงค์ คาปริโอ
ในปี พ.ศ. 2505 แฟรงค์ได้เข้าทำงานในสภาเมืองพรอวิเดนซ์ จนกระทั่งในปีพ.ศ. 2518 เขาได้รับเลือกให้นั่งในตำแหน่งผู้แทนของการประชุมรัฐธรรมนูญแห่งโรดไอแลนด์ แฟรงค์ยังคงทำงาน ณ ศาลระดับท้องถิ่นแห่งนั้นเรื่อยมาภายใต้นโยบายของศาลที่ว่า ในทุก ๆ คดีจะมีการถ่ายทอดสดระหว่างการพิจารณาคดี ผ่านโทรทัศน์ช่องท้องถิ่น เหตุก็เพื่อให้ประชาชนประจักษ์ถึงความโปร่งใสในการตัดสินคดี ซึ่งนโยบายนี้ดำนงอยู่เรื่อยมาเป็นระยะเวลาเกือบ 30 ปี
นับตั้งแต่ที่ภาพตัวตนของแฟรงค์และบรรยากาศแสนผ่อนคลายในขณะพิจารณาคดีของเขาได้ปรากฏบนจอแก้วทุกบ้านเรือนในเมืองเล็ก ๆ นี้ ชื่อของ ‘แฟรงค์ คาปริโอ’ ก็เป็นที่รู้จักมากขึ้น ต่อมาการถ่ายทอดสดขณะพิจารณาคดีได้กลายมาเป็นรายการโทรทัศน์ที่มีชื่อว่า “Caught in Providence” ซึ่งเป็นรายการที่นำเอาภาพบรรยากาศในการพิจารณาคดีของผู้พิพากษาแฟรงค์มาออกอากาศให้ผู้คนทั่วโลกได้รับชม
นับวันรายการ Caught in Providence ก็ได้รับความนิยมจากผู้ชมมากขึ้นเรื่อย ๆ คลิปวีดีโอการพิจารณาคดีของแฟรงค์ได้ทำให้รายการนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากจนสามารถคว้ารางวัลรายการทีวียอดเยี่ยม จากเวที Emmy Awards มาครอง
ปัจจุบันรายการนี้ได้เผยแพร่บนจอโทรทัศน์และช่องทางออนไลน์ ซึ่งขณะนี้รายการ Caught in Providence มีผู้ติดตามบนยูทูบกว่า 2,540,000 คน ซึ่งผู้ชมจะสามารถรับชมกระบวนการพิจารณาคดีที่เกิดขึ้นจริงแบบตรงไปตรงมาและเที่ยงธรรม ควบคู่ไปกับการทำงานในตำแหน่งผู้พิพากษาที่ยึดถือหลักการทำความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ แต่ยังไว้ซึ่งความมีเหตุผล
สุดยอดการพิจารณาคดีที่ตรึงใจผู้ชม
แฟรงค์ คาปริโอ มักจะทำงานด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความเห็นอกเห็นใจต่อจำเลยและความพยามยามที่เข้าใจเหตุผลของผู้ถูกฟ้องความ ลักษณะการทำงานของแฟรงค์เช่นนี้ปรากฏให้เห็นในหลาย ๆ คดี หนึ่งในนั้นก็คือ คดีเกี่ยวกับกฎหมายจราจร
หลังผู้ต้องหาขึ้นให้การแก่ศาลในคดีค้างค่าปรับคดีจราจร 4 ใบ พร้อมอธิบายเหตุผลที่หนักแน่นมากพอในการกระทำของตนว่า “ชีวิตในช่วงนั้นต้องพบกับมรสุมร้ายแรง หลังจากการที่ลูกชายถูกฆ่าจนเสียชีวิต เธอก็ต้องคอยแก้ปัญหาที่ไม่จบสิ้นเหล่านั้น”
คำกล่าวนี้สามารถพิสูจน์ให้ถึงความน่าเห็นใจที่เกิดขึ้นกับสถานการณ์ขณะนั้น แฟรงค์จึงตัดสินบทลงโทษว่า “ได้รับการยกเว้นโทษ” ด้วยเหตุที่เขาต้องการให้ผู้ต้องหาได้กลับไปทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและเริ่มต้นใหม่กับชีวิต มากกว่าที่จะมุ่งไปที่การลงโทษจนหมดหนทางในการมีตัวตนต่อไปในสังคม
“ถ้าคุณจ่ายค่าปรับ 50 ดอลลาร์ไปและจะเหลือเงินเพียง 5 ดอลลาร์ สำหรับประทังชีวิต ผมจะยกเลิกค่าปรับทุกอย่างให้คุณ เราขออวยพรด้วยความปรารถนาดี และหวังอย่างยิ่งว่าทุกสิ่งในชีวิตคุณจะกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง ขอให้คุณโชคดีครับ”
‘แฟรงค์ คาปริโอ’ กับการต่อสู้โรคมะเร็งตับอ่อนที่ต้องการเพียงคำอวยพร
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ผู้พิพากษา ‘แฟรงค์ คาปริโอ’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอบนอินสตาแกรมส่วนตัว therealfrankcaprio พร้อมเล่าถึงอาการป่วยเป็นโรคมะเร็งตับอ่อนของเขา
“วันเกิดปีนี้แตกต่างไปจากวันเกิดอื่น ๆ ที่ผ่านมาเล็กน้อย เมื่อไม่นานมานี้ผมรู้สึกไม่สบายจึงได้เข้ารับการตรวจร่างกาย ซึ่งผลการตรวจก็ออกมาไม่ค่อยดีนัก ผมได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับอ่อน ตอนนี้ผมอยู่ท่ามกลางคุณหมอเก่ง ๆ มากมาย และเข้ารับการรักษาตัวเป็นที่เรียบร้อย เช่นนั้นแล้วขอให้ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง
ผมอธิษฐานกับพระเจ้า ขอให้พระองค์ช่วยอวยพรให้การรักษาผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ผมรู้ว่าต่อจากนี้มันอาจจะเป็นหนทางอันแสนยาวไกล แต่ผมจะเตรียมตัวเองให้ดี เพื่อสู้ให้เต็มที่เท่าที่จะเป็นไปได้
หลาย ๆ คนสอบถาม และกล่าวว่าอยากให้ความช่วยเหลือ สิ่งแรกเลยก็คือผมอยากจะขอบคุณทุกข้อความ รวมถึงทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามา แต่สิ่งที่ผมอยากจะขอจากทุกคนจริง ๆ ก็คือ ขอให้ทุกคนอวยพรให้ผม เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ผมเพียงต้องการคำอวยพรเหล่านั้น ซึ่งผมเชื่อว่ากำลังใจจากทุกคนจะกลายเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดที่จะทำให้ผมมีชีวิตต่อไปได้”
View this post on Instagram
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ผู้พิพากษา ‘แฟรงค์ คาปริโอ’ กำลังเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งตับอ่อนอยู่ ณ สถาบันมะเร็งดานา-ฟาร์เบอร์ (Dana-Farber Cancer Institute’s Office) ภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลแมสซาชูเซตส์ เจเนอรัล ประเทศสหรัฐอเมริกา
สุดท้ายนี้ ผู้อ่านทุกท่านสามารถร่วมส่งกำลังให้ผู้พิพากษาแสนใจดีคนนี้ได้ทางอินสตาแกรม therealfrankcaprio พร้อมกับอวยพรให้ ‘แฟรงค์ คาปริโอ’ ผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตนี้ และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง อายุยืนยาวอีกนานแสนนาน
แฟรงค์ คาปริโอ ผู้พิพากษาใจดี เสียชีวิตแล้วในวัย 88 ปี หลังต่อสู้มะเร็งร้าย
วงการยุติธรรมและผู้ชมทั่วโลกร่วมอาลัย แฟรงก์ คาปริโอ (Frank Caprio) ฉายา ผู้พิพากษาใจดี ขวัญใจชาวเน็ตจากรายการ Caught in Providence หลังทีมงานโพสต์ประกาศผ่านบัญชีเฟซบุ๊กทางการว่าเขา เสียชีวิตอย่างสงบในวัย 88 ปี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ภายหลังต่อสู้กับ มะเร็งตับอ่อน มาอย่างยาวนาน
ข้อความดังกล่าวระบุว่า แฟรงค์ คาปริโอเป็นที่รักของคนนับล้านจากความเมตตา ความอ่อนน้อม และความเชื่อมั่นในความดีงามของผู้คน เขาได้ทิ้งไว้ซึ่งร่องรอยที่ไม่อาจลบเลือนด้วยความอบอุ่น อารมณ์ขัน และความมีน้ำใจ และจะถูกจดจำในฐานะผู้พิพากษาที่น่านับถือ รวมถึงสามี พ่อ และเพื่อนที่อุทิศตน
ด้วยความเมตาใจดีและเป็นกันเอง นั่นจึงทำให้ คาปริโอ ถูกจดจำ ไม่ใช่เพียงฐานะผู้พิพากษาที่ได้รับความเคารพ แต่ยังเป็น สามี พ่อ ปู่ ทวด และสหายที่แสนดี ของคนรอบข้าง และสำหรับผู้คนนับไม่ถ้วนที่รู้จักเขาผ่านหน้าจอ คือบทพิสูจน์ว่า ความยุติธรรมไม่จำเป็นต้องปราศจากความกรุณา ตรงกันข้าม ความเมตตาต่างหากที่ทำให้กฎหมาย เข้าถึงชีวิตจริง ของมนุษย์นั่นเองครับ