จับตานายกฯคนที่ 32-รัฐบาลใหม่ เดินหน้า ‘นโยบายเศรษฐกิจ’ หรือหยุดแค่นี้
หลังจากเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 6 ต่อ 3 เสียงให้ "แพทองธาร ชินวัตร" ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะ โดยต้องเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งต้องจับตาดูว่าจะยังคงเป็นขั้วรัฐบาลเดิม นำโดย "พรรคเพื่อไทย" หรือเปลี่ยนขั้วที่นำโดย "พรรคภูมิใจไทย"
นโยบายของรัฐบาลเดิม "พรรคเพื่อไทย" โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญอาจเกิดเหตุให้สะดุด หากมีการปรับเปลี่ยนรัฐบาลที่มีการเปลี่ยนขั้ว และยังไม่นับรวมกรณี "ยุบสภา" นั่นเท่ากับว่าทุกอย่างต้องเริ่มต้นใหม่
นโยบายเศรษฐกิจสำคัญ รัฐบาลเพื่อไทย
1.นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
- นโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เดิมมีกำหนดว่าจะเริ่มใช้ได้ในวันที่ 1 ต.ค.2568 เป็นต้นไป แต่ล่าสุด สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ออกมาขอโทษประชาชนที่ทำไม่ทัน โดยจะเลื่อนเริ่มใช้ 20 บาทตลอดสายไปช่วงกลางเดือน พ.ย.2568
- สาเหตุที่ 20 บาทตลอดสายทำไม่ทัน 1 ต.ค. และต้องเลื่อนไป เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดความล่าช้าของกระบวนการในสภา ทำให้กฎหมายมีความล่าช้าออกไป ประกอบด้วย พ.ร.บ.กรมการขนส่งทางราง, พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. …. (พ.ร.บ.ตั๋วร่วม) และ พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ.2543 (พ.ร.บ.รฟม.)
2.นโยบายการแก้ปัญหาหนี้
- การแก้ปัญหาหนี้ เป็นนโยบายของทุกรัฐบาลที่พยายามเดินหน้าแก้ปัญหาให้ได้ แต่ความช่วยเหลือที่ผ่านมา เห็นเด่นชัด คือการช่วยเหลือผ่านการปรับโครงสร้างหนี้, โครงการคุณสู้เราช่วย, การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ และช่วยเหลือให้ประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจ รวมทั้งเอสเอ็มอี ได้เข้าถึงแหล่งเงิน
- ก่อนหน้านี้ รัฐบาล ผ่านแนวคิดของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องการให้มีการจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือ AMC ขึ้นมาใหม่ โดยรับซื้อหนี้จากประชาชน เพื่อเป็นการแยกหนี้ดีและหนี้เสีย NPL ออกจากกัน
3.นโยบายสนับสนุนการจัดตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ (NaCGA)
- NaCGA เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาหนี้ โดยการปลดล็อกให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงแหล่งเงิน ได้รับสินเชื่อเพื่อให้นำมาใช้หมุนเวียนประกอบธุรกิจ เพราะถ้ามีตัวช่วยในการค้ำประกัน จะทำให้สถาบันการเงินตัดสินใจปล่อยกู้ได้ง่ายมากขึ้น
[* ล่าสุด ร่างพ.ร.บ.NaCGA อยู่ระหว่างให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่าง และเตรียมเข้าสู่การพิจารณาในสภาต่อไป ]
4.นโยบายหวยเกษียณ
- เป็นนโยบายสำคัญเพื่อสร้างหลักประกันทางด้านการเงินให้กับประชาชน ซึ่งมีการปรับแก้กฎหมายของ พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ ให้สามารถออกหวยเกษียณได้
[ * หวยเกษียณ คือ สลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ , * เงินค่าซื้อสลาก หรือหวยเกษียณ จะเป็นเงินออม และคืนให้ทั้งหมดเมื่ออายุครบ 60 ปีรวมเงินค่าซื้อสลาก และผลตอบแทนการลงทุน , * ความคืบหน้าล่าสุด กฎหมายผ่านวาระ 1 ในชั้นวุฒิสภา และตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ก่อนเข้าสู่การพิจาณาวาระ 2\-3 คาดเริ่มได้ภายในปี 2568 ]
5.นโยบายผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน (Financial Hub)
- รัฐบาลเพื่อไทยพยายามผลักดัน พ.ร.บ.ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน เพื่อเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค เช่น ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นต้น
[ * ความคืบหน้าล่าสุด พ.ร.บ. Financial Hub เตรียมเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ]
6.นโยบายแลนด์บริดจ์
- เป็นนโยบายโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และผลักดันให้เกิดการลงทุนขนาดใหญ่ ให้ประเทศไทยไปสู่ฮับการขนส่งทางเรือในภูมิภาค
[ * ความคืบหน้าล่าสุด เตรียมนำเสนอร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือ SEC เข้าสู่ที่ประชุม ครม. เพื่อนำเข้าสู่สภาภายในปี 2568 และเปิดประมูลโครงการในปี 2569 ]
7.ภาษีทรัมป์
- แม้อัตราภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐที่เรียกเก็บจากไทย 19% จะเป็นที่สิ้นสุดแล้ว แต่ยังมีในรายละเอียดที่ต้องมาตกลงกันในเรื่องประเด็นการสวมสิทธิแหล่งกำเนิดสินค้า สัดส่วนโลคัลคอนเทนต์ ที่ผลิตในประเทศว่าจะสัดส่วนมากน้อยเพียงใด เพราะจะถูกจัดเก็บภาษี Transshipment rate อัตรา 40%
[ * ร่างถ้อยแถลงที่จะยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ 0% ที่มีประมาณ 10,000 รายการ โดยต้องเข้าสู่สภาเพื่อรับทราบโดยทั่วกัน ก่อนจะมีตัวแทนเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ หรือ ทีมไทยแลนด์ เซ็นอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรกับสหรัฐ ]
8.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
- เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อไทยที่พยายามผลักดันมาโดยตลอด แต่เป็นอันต้องเลื่อนออกไป โดยให้เหตุผลว่า มีเรื่องต้องทำความเข้าใจกับประชาชนและสังคม ซึ่งต้องใช้เวลา
[ * ที่ผ่านมารัฐบาลแพทองธาร ยืนยันไม่ได้ยกเลิกอย่างเป็นทางการ เพียงแค่เลื่อนการพิจารณาในสภาออกไปก่อน ]
ในเวลานี้ยังต้องจับตาว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่ คนที่ 32 จะเป็นใคร และทีมรัฐบาลที่จะถูกจัดตั้งขึ้นมาใหม่ จะมีการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจและผลักดันงานที่ต้องสานต่อจากรัฐบาลชุดเดิมอย่างไรบ้าง เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อทั้งในไทยและเวทีโลก
แต่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล "เพื่อไทย" หรือ "ภูมิใจไทย" ทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับข้อเสนอของ "พรรคประชาชน" ที่ต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน เพื่อเลือกตั้งใหม่