โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

กต.แจงทูตทั่วโลก ทุ่นระเบิดกัมพูชา ไทยประท้วงให้รับผิดชอบ

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 19 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา

23 ก.ค. 2568 ที่กระทรวงการต่างประเทศ(กต.) ได้จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย และผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีเอกอัครราชทูต และผู้แทนจากสถานทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย จำนวน 93 คน จาก 68 ประเทศเข้าร่วมรับฟัง โดยสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมรับฟังการบรรยายสรุปในครั้งนี้ แม้กระทรวงการต่างประเทศได้ออกหนังสือเชิญเข้าร่วม

สำหรับผู้ชี้แจง ประกอบด้วย นาง เอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ น.ส.พินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ พล.อ.ศักดิ์สิทธิ์ แสงชนินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ หรือ TMAC (ที-แมกซ์) และพล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยรายละเอียดการบรรยายสรุปในครั้งนี้ว่า กต.ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อชี้แจงท่าทีประเทศไทยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และเป็นการบรรยายต่อเนื่องจากการบรรยายของกองทัพบกต่อผู้ช่วยทูตทหาร ที่ได้มีการบรรยายไปเมื่อวานนี้ (22 ก.ค.) เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีกำลังพลกองทัพบก 3 นาย ประสบเหตุเหยียบกับระเบิด หลังลาดตระเวนบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ซึ่ง กต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงศูนย์ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้ยืนยันผลการตรวจสอบ และออกแถลงการณ์แล้วหลายฉบับ

ทั้งนี้ในช่วงต้น ปลัด กต.ได้ชี้แจงวัตถุประสงค์ เพื่อให้คณะทูต และผู้ช่วยทูตทหารฯ ได้รับทราบความคืบหน้าจากหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะประเด็นทุ่นระเบิด เพื่อยืนยันจุดยืนไทย และการแก้ปัญหาอย่างสันติผ่านการเจรจาทวิภาคี

ขณะที่ พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษก ศบ.ทก.ได้ชี้แจงข้อเท็จจริง และการดำเนินการของหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ พร้อมย้ำว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในดินแดนอธิปไตยของไทย และผู้อำนวยการ TMAC (ที-แมกซ์) ได้ย้ำบทบาทของศูนย์ TMAC โดยเฉพาะตามอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ค.ศ.1997 หรือ อนุสัญญาออตตาวา และการดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยศูนย์ TMAC ในครั้งนี้

พร้อมยืนยันว่า ทุ่นระเบิดเป็นของกัมพูชา และเรียกร้องให้กัมพูชาให้ความร่วมมือเก็บกู้วัตถุระเบิด และสืบสวนข้อเท็จจริง รวมถึงอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ได้ย้ำพันธกรณีของไทย ตามอนุสัญญาออตตาวา ที่ไทยเป็นรัฐภาคี พร้อมแสดงการประท้วงของไทยต่อกัมพูชา หลังการรวบรวมหลักฐานในพื้นที่

มอบหนังสือประท้วงถึงทูตกัมพูชา

โฆษก กต.เปิดเผยด้วยว่า ปลัด กต.ยังได้ชี้แจง 5 ประเด็นหลัก โดยไทยยืนยันว่า จากการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าทุ่นระเบิดไม่มีการใช้ และไม่มีในคลังอาวุธไทย และเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ โดยเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศร้ายแรง รัฐบาลไทย มีแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงที่สุด ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตย และขัดหลักการกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นการกระทำที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาอย่างชัดเจน

จากการรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ในวันนี้ (23 ก.ค.) กต.ได้มอบหนังสือประท้วงถึงเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ถึงการละเมิดอธิปไตย ไม่ปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวา และขอให้กัมพูชารับผิดชอบ และเยียวยาผู้เสียหาย รวมถึงเก็บกู้วัตถุระเบิดตามที่เคยมีการตกลงกันไว้

รวมทั้ง กต.โดยเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเจนีวา สหประชาชาติ ได้มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาแล้ว ซึ่งมีเนื้อหาที่สอดคล้องกับหนังสือประท้วงที่ส่งไปยังสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยเป็นสมาชิกรัฐภาคี ที่มีความรับผิดชอบต่อนานาประเทศ จึงต้องรายงานการละเมิดอนุสัญญาฯ ของกัมพูชา

ทั้งนี้ ปลัด กต.ยังได้เน้นย้ำจุดยืนของไทยที่สอดคล้องสากล กฎหมายระหว่างประเทศ พันธกรณีต่างๆ ที่ประเทศไทย ยังคงพร้อมพูดคุยหาทางออกกับกัมพูชาอย่างสันติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่

จี้กัมพูชาแก้ไข หลังละเมิดข้อตกลง

โฆษก กต.ยังเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รมว.การต่างประเทศ อยู่ระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูง ว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก และได้มีโอกาสพบผู้แทนระดับสูงจากต่างประเทศ จึงได้ใช้โอกาสนี้ ยืนยันจุดยืนประเทศไทยต่อประชาคมโลกในการแก้ปัญหาอย่างสันติ และการเจรจาผ่านกรอบทวิภาคี

ในวันนี้ (23 ก.ค.) ได้พบรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การต่างประเทศปากีสถาน ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ประจำเดือนกรกฎาคม รวมถึงยังได้พบ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประเทศปานามา ซึ่งจะเป็นประธาน UNSC ในเดือนสิงหาคม ซึ่งทั้งฝ่ายปากีสถาน และปานามา เห็นพ้องในการแก้ปัญหาของไทย ที่จะใช้กลไกทวิภาคี และหากมีการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ก็จะต้องมีการแก้ไข

ส่วนไทยจะมีการพิจารณามาตรการตอบโต้ให้เข้มข้นขึ้น หลังมีการยั่วยุบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มากกว่าการออกเอกสารประท้วง เช่น การเชิญเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญกลับไทย หรือการให้เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยกลับไปหรือไม่นั้น โฆษก กต.ยืนยันว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น ซึ่งในการบรรยายสรุปแก่คณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย และผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย ก็มีการสอบถามถึงการเชิญทูตกลับ แต่ยังไม่ถึงจุดนั้น เพราะประเทศไทย ยังย้ำการแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ผ่านการเจรจาทวิภาคี และเอกอัครราชทูต ก็เป็นกลไกสำคัญในการเปิดช่องให้มีการเจรจาทวิภาคี ดังนั้น ฝ่ายไทยจึงยังไม่มีการพิจารณาถึงจุดนั้น

รัฐบาลไทยลดความสัมพันธ์ ตอบโต้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลาต่อมา หลังเกิดเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดเป็นครั้งที่สอง (23ก.ค.) หน่วยลาดตระเวน ชุด ลว.พัน.ร.14 เหยียบกับระเบิดในพื้นที่ห้วยบอน ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ ขาขวาขาด 1 นาย คือ จ.ส.อ.พิชิตชัย บุญโคราช นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ระบุว่า เราจะลดระดับทางการทูต โดยเรียกเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศไทย และส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยคืนกลับไปเช่นกัน แล้วจะพิจารณาระดับความสัมพันธ์เพิ่มเติม

พร้อมทั้งสั่งการให้ดำเนินการตามที่ กองทัพภาคที่ 2 และกองทัพบก ได้ทำเรื่องขอเสนอให้ปิดด่านชายแดนของกองทัพภาคที่ 2 ทั้งหมด โดยนักท่องเที่ยวห้ามเข้าเด็ดขาด และสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ ยื่นหนังสือประท้วง ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นระเบิดใหม่ ดังนั้นเรายกระดับการตอบโต้ที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

‘ภูมิธรรม’ เรียก ประชุม ‘สมช.’ บ่ายนี้ รับมือปะทะชายแดนกัมพูชา

24 นาทีที่แล้ว

ทบ.ประณาม ทหารกัมพูชา ยิง BM-21 โจมตีพลเรือน เจ็บ 3 คน เป็นเด็ก1 คน เร่งอพยพ

26 นาทีที่แล้ว

'สส.ศรีสะเกษ พท.' ชงญัตติด่วน หารือปมปะทะเดือดชายแดนไทย-กัมพูชา

27 นาทีที่แล้ว

บีโอไอเผยครึ่งปีแรก ยอดลงทุนทำสถิติพุ่งกว่า 1 ล้านล้าน

35 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

‘ภูมิธรรม’ เรียก สมช. ถกด่วน ชี้สถานการณ์ชายแดนยังไม่ถึงขั้นปะทะ

ไทยโพสต์

รมว.ศึกษาฯ สั่งปิด ร.ร.ชายแดนสุรินทร์ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

PostToday

กัมพูชา ยิงจรวด BM-21 ใส่ชายแดนสุรินทร์ เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ 3 ราย

TNN ช่อง16

ด่วน! ชาวบ้านเจ็บแล้ว 3 ราย กองทัพบกประณามเขมรใช้อาวุธ จรวด BM-21 โจมตีพลเรือนไทย

สยามนิวส์

เพิ่งตื่น!’อิ๊งค์’ แชร์สตอรี่แถลงการณ์เพื่อไทยประณามเหยียบกับระเบิด

ไทยโพสต์

ภูมิธรรม เรียก สมช. ถกด่วน ปมเหตุปะทะไทย-กัมพูชา ย้ำปกป้องอธิปไตยเต็มที่

Khaosod

ข่าวและบทความยอดนิยม