Sizzler โตแรง! สวนทางเศรษฐกิจ พร้อมอัปเกรดเพิ่มเมนู ‘สลัดบาร์’ สู่ Superfood ย้ำขายราคาเดิม หวังดึงคนเข้าร้าน
ในยุคที่เศรษฐกิจทั่วโลกเต็มไปด้วยความผันผวน ธุรกิจร้านอาหารนับเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เจอแรงกดดันไม่น้อย โดยเฉพาะภาวะเงินเฟ้อ ที่มีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภค หลายแบรนด์ต้องปรับตัวกันอย่างหนัก ไม่เว้นแม้แต่ ‘Sizzler’ ร้านอาหารที่สร้างภาพจำจาก สลัดบาร์ ล่าสุดกำลังเดินเกมใหม่เพื่อยกระดับจุดแข็งที่มีอยู่ให้แข็งแกร่งมากขึ้น
อนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็มเอฟ คาเฟ่ แอนด์ เรสเตอรองต์ จำกัด หรือร้าน Sizzler กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารต้องเผชิญความท้าทายของภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังปั่นป่วน ทั้งกำแพงภาษี สงคราม มีผลต่อเศรษฐกิจในประเทศ เห็นได้ชัดว่าผู้บริโภคมีกำลังซื้อน้อยลง ซึ่งอาจทำให้ออกมากินข้าวนอกบ้านลดลงด้วยเช่นกัน
หากสังเกตจะเห็นว่าหลายๆ แบรนด์ร้านอาหารเริ่มชะลอตัว ส่วนภาพรวม Sizzler สองไตรมาสแรกผ่านไป ถือว่าได้รับสัญญาณที่ดี จากการที่มีลูกค้าใหม่ เพิ่มขึ้น 24% ถ้าเทียบกับปี 2023
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ใครก็แทนที่ไม่ได้! Sizzler ปั้นแบรนด์เลิฟผ่าน Mascot Branding ‘น้องชีสโทสต์’
- ปิดตำนาน 24 ปี Sizzler สาขาสยามเซ็นเตอร์ ต้องโบกมือลา 12 ม.ค. เป็นวันสุดท้าย
- Sizzler ติดใจอาร์ตทอย สั่งผลิตเพิ่ม 10 เท่า จาก 3,000 ตัวเป็น 30,000 ตัว
ปัจจัยที่ทำให้ Sizzler เติบโต ส่วนหนึ่งมาจากจุดแข็งของสลัดบาร์ ที่กลายเป็น ภาพจำและจุดขายหลักของแบรนด์ ประกอบกับปีที่ผ่านมา ได้รีแบรนด์ให้ทันสมัยมากขึ้น พร้อมกับเปิดตัวแพลตฟอร์มเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น
ยิ่งในปีนี้ยังพบว่าเทรนด์ของอาหารสุขภาพมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากตลาดอาหารสุขภาพไทย ในปี 2567 มีมูลค่าราว 4.5 พันล้านบาท และในปี 2568 คาดว่าเพิ่มเป็น 5.2 พันล้านบาท หรือเติบโต 15–20%
จากโอกาสดังกล่าว Sizzler จึงสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ด้วยการยกระดับ ‘สลัดบาร์’ ที่เป็นหัวใจหลักของแบรนด์ โดยไตรมาส 3 ได้เพิ่มเมนูที่มีส่วนผสมใหม่ๆ เพิ่มมาอีก 5 รายการ ซึ่งจะทำให้เมนูสลัดบาร์มีเมนูรวมกว่า 50 รายการ และไฮไลต์ในปีนี้ตั้งใจจะเปลี่ยนจากสลัดทั่วไปเป็น Superfood มากขึ้น ควบคู่กับการเปิดตัวเมนูสเต๊กระดับพรีเมียมอีกหลายเมนู เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป
อนิรุทร์ กล่าวต่อไปว่า แม้ที่ผ่านมาหลายคนจะเลือกไป Sizzler เพื่อกินสลัดบาร์ แต่ไม่ได้อยากกินอาหารจานหลักมากนัก แต่เมื่อได้เข้ามาแล้วสุดท้ายก็ต้องสั่ง และในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ได้เปิดให้สมาชิกซื้อคูปองกินสลัดบาร์จำนวน 5 ใบ จ่ายครั้งเดียวในราคา 749 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับดีมาก อาจเป็นเพราะราคาคุ้มกว่าการมาทานหน้าร้านปกติที่ต้องจ่ายราคา 199 บาท เรียกได้ว่ากลยุทธ์นี้เพิ่มความถี่ในการเข้าร้านได้ถึง 3 เท่า
พร้อมยังย้ำว่า ปัจจุบัน Sizzler มีสาขาทั้งหมด 65 สาขา ในปีนี้ยังไม่มีแผนเปิดสาขาใหม่ แต่ในปี 2569 จะมีเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล การขยับขยายธุรกิจต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะในวันนี้ทุกอย่างท้าทายไปหมด อะไรที่เคยคาดเดาได้ง่ายก็กลายเป็นยาก