'คลัง' ร่วมงาน 'ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่' เหยียบคันเร่งนโยบายเงิน-คลัง
วันที่ 22 ก.ค.2568 ที่กระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่วันนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ นายวิทัย รัตนากร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ (ธปท.) ว่า ที่ผ่านมา นโยบายการเงินและการคลังมีการปรับจูนเข้าหากันด้วยดี มีการทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยยังคงยึดหลักการแลกเปลี่ยนข้อมูลและร่วมกันแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยการดำเนินนโยบายการเงินที่มีความเหมาะสม ก็มีความอิสระที่ ธปท. สามารถตัดสินใจดำเนินการ
ข้อกังวลว่าการทำงานระยะต่อไปจะเป็นการชี้นำจากทางการเมืองหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า สไตล์การทำงานของตนไม่กดดัน เราพูดกันด้วยเหตุและผล ทำงานด้วยความเข้าอกเข้าใจ ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาแน่นอน เมื่อเข้ามาแล้วผู้ที่เป็นผู้ว่า ธปท. ต้องรับผิดชอบองค์กร และงานตัวเอง
“เขาต้องมีความอิสระเรื่องการทำงาน และแนวคิด ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีมีปัญหาหลากหลายจริงๆ อย่างไรก็ตาม หวังว่าการทำงานนโยบายการคลัง ต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน เพื่อปรับนโยบายการเงินให้สอดคล้อง และเป็นอิสระทางความคิด”
ส่วนการเข้ามาของ ผู้ว่า ธปท. คนใหม่ คาดหวังจะเห็นคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ยนโยบายลงหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องการพิจารณาของ กนง. เชื่อว่า กนง. คงประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมา เหตุการณ์ปัจจุบัน รวมถึงนโยบายภาษีสหรัฐด้วย เพื่อกำหนดนโยบาย ซึ่งเราไม่ควรคิดแทนล่วงหน้า
ขณะที่ตลาดหุ้นตอบรับ ผู้ว่า ธปท. คนใหม่ ดัชนีหุ้นแบงก์ปรับลดลง เพราะกังวลการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้น นายพิชัย กล่าวว่า ผลประกอบการแบงก์สะท้อนตามภาวะเศรษฐกิจ หากร่วมกันผักดันให้ภาวะเศรษฐกิจดี ผลประกอบการแบงก์ก็จะดีตามไปด้วย ทั้งนี้ มองว่า หากทิศทางของดอกเบี้ยลดลง ไม่ได้แปลว่าส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (NIM) จะต้องลดลงเสมอไป เนื่องจากเป็นเรื่องความเสี่ยงที่สถาบันการเงินต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับการปล่อยสินเชื่อ
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า อยากเห็นกระทรวงการคลังและ ธปท. มีการหารือกันมากขึ้น เพื่อทำให้นโยบายการคลังและนโยบายการเงินเดินไปในทิศทางเดียวกันหรือสอดประสานกัน และมีสมดุลระหว่างการรักษาเสถียรภาพและศักยภาพเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการพิจารณาถึงความเหมาะสมของกฎเกณฑ์เรื่องการกระจายสินเชื่อและการเข้าถึงแหล่งเงินของประชาชน
“เวลาออกเกณฑ์ต่างๆ ถ้าระมัดระวังเรื่องความเสี่ยงของเสถียรภาพการเงินเป็นหลักมากเกินไป ไม่เปิดรับความเสี่ยงเลย แม้จะทำให้แบงก์แข็งแรงแต่ก็ทำให้ศักยภาพลดลง การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินลดลง เงินไม่ลงสู่ระบบ ดังนั้นก็ต้องสร้างสมดุลระหว่างเสถียรภาพกับศักยภาพ“
นายผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เงินเฟ้อของไทยอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป ดังนั้นภาคนโยบายการเงินและนโยบายการคลังก็ต้องช่วยกันเหยียบคันเร่ง ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้นก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องดูแลให้เหมาะสม
"วันนี้ในที่ประชุมครม. กระทรวงการคลังมีการเสนอชื่อผู้ว่า ธปท. คนใหม่ โดบ ครม. เห็นชอบ และไม่ได้มีข้อโต้แย้ง"