“คมนาคม” เผยน้ำท่วมกระทบถนน 192 จุด เร่งฟื้นฟูต่อเนื่อง
กระทรวงคมนาคมรายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศ โดยระบุว่า ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2568 พบโครงข่ายที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยรวมทั้งสิ้น 192 แห่ง แบ่งเป็นทางหลวง 152 แห่ง และทางหลวงชนบท 38 แห่ง ในจำนวนนี้มีจุดที่ยังไม่สามารถสัญจรผ่านได้รวม 28 แห่ง
ในส่วนของทางหลวงที่ไม่สามารถผ่านได้ มีทั้งหมด 8 แห่ง ครอบคลุม 3 จังหวัด ได้แก่
จังหวัดเชียงราย เช่น ทล.1173 ช่วง กม.ที่ 45+950 – 47+133, ทล.1155 และ ทล.1093 ซึ่งเป็นพื้นที่ใน อ.ปอ และ อ.เทิง
จังหวัดน่าน เช่น ทล.1256, ทล.1243 รวมหลายช่วงทางใน อ.ปัว, อ.เวียงสา และ อ.นาน้อย
จังหวัดสุโขทัย เช่น ทล.101 และ ทล.1195 รวมระยะทางกว่า 4.7 กิโลเมตร ใน อ.เมือง และ อ.ศรีสำโรง
ขณะที่ ทางหลวงชนบท ได้รับผลกระทบสะสม 38 แห่ง และยังไม่สามารถผ่านได้ 10 แห่ง ใน 2 จังหวัด ได้แก่
จังหวัดน่าน เช่น นน.4022, นน.3007, นน.4020, นน.3019 และสายทางใน อ.ภูเพียง, อ.เวียงสา, อ.ท่าวังผา และ อ.เมืองจัง
จังหวัดแพร่ เช่น พร.4013 และ พร.001 ใน อ.ลอง และ อ.หนองม่วงไข่
กระทรวงคมนาคมระบุว่า ด้าน สถานีขนส่งผู้โดยสาร จังหวัดน่าน และแพร่ ยังคงเปิดให้บริการได้ตามปกติ และยังไม่พบรายงานการหยุดให้บริการหรือเส้นทางเดินรถสาธารณะที่ถูกตัดขาดจากภัยพิบัติในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กำชับให้ กรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เร่งดำเนินการฟื้นฟูและซ่อมแซมโครงข่ายที่ได้รับความเสียหายอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งติดตั้งป้ายเตือนจุดอันตราย และนำเครื่องจักรกลขนาดใหญ่เข้าดำเนินการซ่อมแซมผิวทาง ตัดต้นไม้ล้ม ทำความสะอาด และจัดการสิ่งกีดขวาง เพื่อเปิดการจราจรให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นอกจากนี้ ยังกำชับให้ทุกหน่วยงานภายใต้กระทรวงคมนาคมร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่น และหน่วยบรรเทาสาธารณภัยในการดูแลความปลอดภัยประชาชน และอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางตลอดจนบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจในพื้นที่ประสบภัยอย่างใกล้ชิด จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายและกลับสู่ภาวะปกติ