SM รุกเต็มสูบอีคอมเมิร์ซ ครึ่งปีหลังปูพรมเพิ่มสินค้า
#SM #ทันหุ้น - SM ปรับกลยุทธ์เบนสู่สินเชื่อเช่าซื้อสินค้าแทนจำนำทะเบียน ระบุตลาดยังเป็นโหมดอีซี่แถมผลตอบแทนดีกว่า 2 เท่า และหนี้เสียแค่ 1% เศษ พร้อมใช้แพลตฟอร์ม e-Commerce เริ่มรุกขยายฐานลูกค้าวงกว้างตั้งแต่ไตรมาส 3 นี้ และส่องหาพันธมิตรผสานความร่วมมือขยายจุดขายครอบคลุมทั่วประเทศโดยไม่ต้องลงทุนสาขาเอง หนุนรายได้รวมปีนี้โต 10-15% หวังเป็นนิวไฮ
นายชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์มันนี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SM ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกัน รวมถึงจำหน่ายสินค้าประเภทไอที เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งในรูปแบบเงินสดและเงินผ่อน เปิดเผยกับ “ทันหุ้น”ว่า บริษัทมีการปรับกลยุทธ์ธุรกิจรองรับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ทั้งผลกระทบปัจจัยภายนอกประเทศประเด็นภาษี และสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ยังไม่แน่นอน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่องบประมาณและการใช้จ่ายของประชาชน
@เน้นสินเชื่อเช่าซื้อ
ครึ่งปีหลัง 2568 บริษัทจะมุ่งเน้นสินเชื่อเช่าซื้อสินค้าอย่างโทรศัพท์มือถือและเครื่องใช้ไฟฟ้าแทนพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียน โดยโทรศัพท์มือถือและเครื่องใช้ไฟฟ้า โน้ตบุ๊กอันเป็นตลาดที่มีการแข่งขันน้อยกว่า อัตราผลตอบแทนสูงกว่า อัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อไม่ถูกจำกัดโดยเพดานดอกเบี้ย และอัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ต่ำมาก อยู่ที่ประมาณ 1% ต้นๆ
ในขณะที่สินเชื่อกู้ยืมจำนำทะเบียนพบการแข่งขันสูง ผลตอบแทนไม่จูงใจ มีรายใหญ่ที่จำนวนสาขามากกว่าเข้ามารุกตลาด
“บริษัทมีธุรกิจหลัก 2-3 อย่าง ได้แก่ สินเชื่อเงินกู้ยืม สินเชื่อเช่าซื้อ และธุรกิจประกันภัย ซึ่งในมุมสินเชื่อจำนำทะเบียนนั้นบริษัทถือเป็นตัวเล็กในสนามใหญ่จึงไม่เน้นในด้านนี้ แต่จะปรับไปสินเชื่อเช่าซื้อซึ่งดอกเบี้ยดีกว่าเกือบ 2 เท่า และบริษัทชำนาญอยู่แล้ว และอยู่ในตลาดนี้เป็นเจ้าแรกๆ ในภาคตะวันออกซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับดีลเลอร์และแบรนด์ต่างๆ”
@หยุดเพิ่มสาขา
สำหรับแนวทางขยายตลาดใหม่ๆ บริษัทจะไม่ลงทุนเพิ่มสาขา เนื่องจากไม่ต้องการเพิ่มต้นทุนค่าใช้จ่าย แต่จะใช้โมเดลขยายธุรกิจแบบ Light Asset Model โดยใช้ช่องทางออนไลน์และ e-Commerce เป็นหลักซึ่งช่องทางออนไลน์มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาก และสามารถขยายธุรกิจได้รวดเร็วกว่า
อนึ่งปัจจุบันมีประมาณ 98 สาขา แบ่งเป็น สาขาหลักให้บริการทั้งจำหน่ายสินค้า ประเภทขายสดและขายผ่อนชำระ โดยมีคลังสินค้าประจำสาขา รวมถึงให้บริการปล่อยสินเชื่อ 16 สาขา, สาขาย่อยให้บริการประเภทขายสดและขายผ่อนชำระ รวมถึงให้บริการปล่อยสินเชื่อ 71 สาขา และ สาขา Express ให้บริการเหมือนสาขาหลัก แต่จะมีขนาดที่เล็กกว่า 8 สาขา
@e-Commerce
ด้านช่องทางแพลตฟอร์ม e-Commerce คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ภายในไตรมาส 3/2568 ซึ่งเริ่มมีการทดลองระบบออนไลน์แล้วพร้อมกับกำลังเจรจาหาพันธมิตรใหม่ๆ หลายราย ทั้งคู่ค้าทางด้านพลังงานทดแทน, ตู้แช่เชิงพาณิชย์, เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญครบวงจร เป็นต้น เพื่อผสานความร่วมมือธุรกิจได้ในไตรมาส 4/2568 ขยายการเข้าถึงคาดหวังให้มีจุดขายครอบคลุมทั่วประเทศโดยไม่ต้องลงทุนสาขาเอง สนับสนุนให้รายได้ปีนี้ก้าวสู่การเติบโต 10-15% กลายเป็นจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง