อนาคตที่ยังคงไม่แน่นอนของ ' วิคเตอร์ โอซิเมน'
ยังคงไม่จบสิ้นเสียทีสำหรับการย้ายทีมของ วิคเตอร์ โอซิเมน กองหน้าทีมชาติไนจีเรียของ นาโปลี ที่ตอนนี้น่าจะเหลือแค่จุดหมายปลายทางเดียวแล้ว นั่นก็คือการย้ายกลับไปที่ กาลาตาซาราย ใน ซูเปอร์ลีกตุรกี สโมสรที่เขาย้ายมาเล่นแบบยืมตัวเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
แต่ที่ยังคงย้ายทีมไม่ได้สักทีนั่นก็เป็นเพราะเรื่องของค่าตัวที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ แม้ว่า กาลาตาซาราย จะพยายามยื่นข้อเสนอที่ใกล้เคียงกับที่ทาง นาโปลี ต้องการแล้วก็ตาม
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเริ่มต้นฤดูกาลที่แล้ว โอซิเมน ที่เคยเป็นกองหน้าตัวความหวังของ นาโปลี มาโดยตลอด กลายเป็นส่วนเกินของทีมหลังการมาของ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือจอมเฮี๊ยบชาวอิตาเลียน แม้ว่าจะไม่ได้มีการเปิดเผยเหตุผลที่แท้จริง แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องของสไตล์การเล่นมากกว่า และ คอนเต้ ชื่นชอบการใช้กองหน้าตัวเป้าร่างใหญ่ จึงเลือกที่จะดึงตัว โรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยียมกลับมาร่วมงานด้วยกันอีกครั้ง หลังเคยประสบความสำเร็จร่วมกันที่ อินเตอร์ มิลาน มาแล้ว
ในช่วงซัมเมอร์ปี 2024 โอซิเมน จึงมีข่าวย้ายทีมอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเวลาดังกล่าวมีรายงานว่า เจ้าตัวได้ตอบตกลงที่จะย้ายไปเล่นให้ อัล อาห์ลี ทีมดังของลีกซาอุดิอาระเบียแล้ว แม้ว่าจะได้รับความสนใจอย่างหนักจาก เชลซี และ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ด้วยก็ตาม
แต่อย่างไรก็ตาม การย้ายทีมต้องล้มเลิกไปเนื่องจาก นาโปลี เปลี่ยนราคาค่าตัวของ โอซิเมน ทำให้ อัล อาห์ลี เปลี่ยนใจไปคว้าตัว ไอแวน โทนี่ย์ กองหน้าชาวอังกฤษของ เบรนท์ฟอร์ด มาร่วมทีมแทนด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์
หลังจากนั้นภายในวันเดียวกัน การย้ายทีมของ โอซิเมน ไปยัง เชลซี ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อีก เนื่องจากตัวนักเตะไม่สามารถบรรลุเงื่อนไขส่วนตัวกับทีมสิงห์บลูส์ได้ ขณะที่โอกาสที่เล่นให้กับ นาโปลี ต่อไปก็แทบจะไม่มีเหลือแล้ว เพราะตัวเขาถูกตัดชื่อออกจากทีมที่จะใช้สู้ศึก กัลโช่ เซเรีย อา ในฤดูกาล 2024-25 อีกทั้งเสื้อหมายเลข 9 ของเขาก็ถูกยกให้กับ ลูกากู ไปเรียบร้อย
นั่นทำให้ โอซิเมน จึงเลือกที่จะย้ายไปเล่นกับ กาลาตาซาราย แบบยืมตัว 1 ฤดูกาล ในวันที่ 3 กันยายน 2024 ก่อนที่จะเขาจะโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง ยิงประตูได้อย่างถล่มทลาย หลังทำไปถึง 37 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 41 เกมรวมทุกรายการ แถมยังช่วยให้ กาลาตาซาราย คว้าดับเบิ้ลแชมป์มาครองได้อีกด้วย นั่นคือแชมป์ ซูเปอร์ลีกตุรกี และ เตอร์กิช คัพ
แม้ว่าจะไม่เป็นที่ต้องการของ นาโปลี แล้ว แต่ฝีเท้าของเขายังเชื่อใจได้ ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่า การย้ายทีมของ โอซิเมน ในช่วงซัมเมอร์นี้น่าจะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก และเขาน่าจะเนื้อหอม มีหลายทีมรุมจีบไปร่วมทีมอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยวัยเพียงแค่ 26 ปี กับฟอร์มการเล่นแบบนี้ โอซิเมน ยังเป็นต้องการของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่แน่ๆ
แต่เมื่อช่วงปิดฤดูกาลมาถึง แม้ว่าจะมีข่าวเชื่อมโยงกับทีมใหญ่ๆ อยู่บ้าง โดยเฉพาะสองทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง อาร์เซน่อล และ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ไปๆ มาๆ ทีมเหล่านั้นกลับมองไปที่เป้าหมายอื่นกันหมด โดย อาร์เซน่อล เลือกที่จะเดินหน้าไล่ล่าตัว วิคตอร์ โยเคเรส กองหน้าทีมชาติสวีเดนของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ที่ตอนนี้การย้ายทีมใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ขณะที่ทีมปีศาจแดง ก็เลือกที่จะเดินหน้าในดีลของ ไบรอัน เอ็มเบวโม่ ของ เบรนท์ฟอร์ด มากกว่า
ส่วนทีมอย่าง เชลซี ที่เคยสนใจ โอซิเมน เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว พวกเขาเลือกคว้าตัว เลียม ดีแล็ป กองหน้าดาวรุ่งจาก อิปสวิช ที่ตกชั้น รวมถึง ชูเอา เปโดร จาก ไบรท์ตัน ทำให้โอกาสมา เชลซี ปิดประตูลงอย่างสิ้นเชิง
กลายเป็นเหลือแค่ ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่ร่วมลีกที่ยังคงสนใจ แต่ปัญหาของพวกเขาคือไม่มีงบประมาณมากพอที่จะคว้าตัว โอซิเมน มาร่วมทีมได้ ส่วนข้อเสนอจากซาอุดิอาระเบียก็ยังคงมีอยู่ แต่ท้ายที่สุดแล้ว โอซิเมน เลือกที่จะไม่ย้ายไปเล่นที่นั่น เนื่องจากยังต้องการที่จะค้าแข้งในลีกระดับสูงของยุโรปต่อไปก่อน
ในเมื่อตัดสินใจแบบนี้แล้ว โอซิเมน จึงเหลือทางเลือกอีกไม่มากนัก แต่กลายเป็นว่าทีมใหญ่ในยุโรปแทบจะไม่มีทีมไหนสนใจเขาอย่างจริงจังเลย สุดท้ายแล้วกลายเป็น กาลาตาซาราย ทีมที่ โอซิเมน ไปเล่นแบบคั่นเวลาเมื่อปีก่อน เป็นทีมเดียวที่ต้องการคว้าตัวเขาไปร่วมทีมแบบเป็นการถาวร แม้จะรู้ว่าค่าตัวที่ นาโปลี ต้องการนั้นสูงมากก็ตาม
ตามรายงานข่าวอ้างว่า นาโปลี นั้นต้องการค่าตัวของ โอซิเมน ที่เหลือสัญญาอีกเพียงแค่ 1 ปีสูงถึง 75 ล้านยูโร หรือราว 2,839 ล้านบาทเลยทีเดียว ขณะที่ กาลาตาซาราย นั้น พยายามยื่นข้อเสนอให้ใกล้เคียงมากที่สุดคือประมาณ 70 ล้านยูโร โดยจะขอผ่อนจ่ายทั้งหมด 5 งวด ซึ่งแน่นอนว่าถูก นาโปลี ปฏิเสธทันที
สิ่งที่ นาโปลี ต้องการนั้น คือการจ่ายเงินก้อนแรกก่อนที่ 40 ล้านยูโร โดยจะต้องการเป็นการจ่ายก่อนทันที ส่วนอีก 35 ล้านยูโรที่เหลือนั้น จะต้องจ่ายให้ครบภายในปี 2026 หรือก็คือมีเวลาผ่อนจ่ายแค่ปีเดียว เท่านั้นยังไม่พอ นาโปลี ยังต้องการเงื่อนไข sell-on clause หรือส่วนแบ่งจากการขายต่อในอนาคตอีกด้วย
นั่นทำให้ กาลาตาซาราย ต้องเจอกับปัญหาทันที เพราะพวกเขาไม่ได้มีเงินมากพอขนาดนั้น โดยล่าสุดได้ทำการต่อรองไปว่าพวกเขาจะจ่ายเงินก้อนแรกให้ก่อนที่ 35 ล้านยูโร ส่วนที่เหลืออีก 40 ล้านยูโรนั้น พวกเขาจะขอแบ่งจ่ายภายในเวลาสองปี หรือจนถึงปี 2027 และปฏิเสธที่จะให้มีเงื่อนไข sell-on clause อย่างที่ นาโปลี ต้องการ
นั่นทำให้ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ แต่กระนั้นดีลยังไม่ถือว่าล่ม เนื่องจาก นาโปลี ยังคงต้องการขาย โอซิเมน ออกจากทีม ทำให้ยังมีโอกาสที่จะเจรจากันได้อยู่
นอกจากนี้ ยังไม่มีเหตุผลอะไรที่ นาโปลี จะทำให้ดีลนี้ล่มลงด้วย เพราะถ้าหากขาย โอซิเมน ในตลาดรอบนี้ไม่ได้ จากที่จะได้อย่างน้อย 70 ล้านยูโรแน่ๆ อาจจะไม่เหลืออะไรเลย เพราะอีกแค่ไม่ถึง 6 เดือน ในเดือนมกราคมปีหน้า โอซิเมน จะสามารถคุยสัญญาย้ายทีมล่วงหน้ากับทีมอื่นได้ตามกฎบอสแมน และจะย้ายทีมได้แบบไม่มีค่าตัวในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า
ดังนั้น กาลาตาซาราย ยังคงถือไพ่เหนือกว่า และพวกเขายังเป็นทีมเดียวในเวลานี้ที่แสดงความสนใจ โอซิเมน อย่างจริงจัง ขณะที่ทีมใหญ่อื่นๆ ในยุโรปกลับไม่มีใครเข้ามาในดีลนี้เลย ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกไม่น้อย
ก่อนหน้านี้ ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตตำนานกองหลังทีมชาติอังกฤษและ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยออกมาไลฟ์ในช่องทางส่วนตัว และพูดถึงกรณีของ โอซิเมน ว่า เขาไม่เข้าใจว่าทำไมทีมปีศาจแดงถึงไม่เดินหน้าเจรจาเพื่อคว้าตัวมาร่วมทีม เพราะนี่คือกองหน้าที่มีค่าตัวเหมาะสม เมื่อมองจากผลงานและอายุ ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากเชียร์ให้ทีมเก่าของเขาลองมองไปที่ โอซิเมน บ้าง แต่ก็เป็นแค่ความคิดส่วนตัวของเขาเท่านั้น
เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว โอซิเมน น่าจะได้ย้ายออกจาก นาโปลี ในช่วงซัมเมอร์นี้ค่อนข้างแน่ และปลายทางก็น่าจะเป็น กาลาตาซาราย นี่แหละ เพราะดูจากแนวโน้มเวลานี้แล้ว ไม่มีโอกาสที่จะพลิกไปเป็นทีมอื่นเลย เพราะแทบไม่มีทีมไหนเลยที่พร้อมยื่น 75 ล้านยูโรเพื่อคว้าตัวเขาในขณะที่เหลือสัญญาแค่ปีเดียว
ในอีกมุมหนึ่ง มันก็อาจจะเป็นไปได้ว่าทีมใหญ่อื่นๆ สนใจที่จะรอจับฟรีมากกว่า เพราะ 75 ล้านยูโรกับสัญญาแค่ปีเดียว ถือเป็นค่าตัวที่ดูมากเกินไป
แต่ถึงกระนั้นสำหรับศูนย์หน้าที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มฉกรรจ์ และมีสถิติการพังประตูระดับ 151 ประตูจากการลงเล่น 265 เกมตลอดอาชีพการค้าแข้ง แถมยังเคยคว้าแชมป์ เซเรีย อา มาครองได้แล้ว กลับไม่มีทีมใหญ่ๆ ทีมไหนเลยให้ความสนใจอย่างจริงจังในตลาดรอบนี้ ถือว่าเป็นอะไรที่แปลกไม่น้อย และสุดท้ายแล้วคงเป็นเรื่องน่าแปลกจริงๆ หากว่าเขาต้องย้ายไปเล่นให้ กาลาตาซาราย ซึ่งไม่อยู่ใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปเลย…
ข่าวที่เกี่ยวข้อง