ทักษิณ เททองหล่อหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ที่สุด ให้ศรัทธาพระพุทธศาสนา มีพระดี 99%
วันที่ 19 กรกฎาคม 2568
บรรยากาศที่วัดบ้านไร่ ตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา เต็มไปด้วยความคึกคักและศรัทธา เนื่องในพิธีทอดผ้าป่ามหากุศลและพิธีเททองหล่อฐานรูปเหมือน “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” องค์ใหญ่ที่สุด โดยมี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานในพิธี ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มมวลชนเสื้อแดงที่เดินทางมาร่วมงานจากทั่วสารทิศ
นายทักษิณ เดินทางมาถึงวัดในเวลา 13.30 น. ก่อนเข้าสักการะพระพุทธรูปและเยี่ยมชมกุฏิหลวงพ่อคูณ ซึ่งเคยใช้จำวัดในอดีต พร้อมนั่งสามล้อพ่วงข้าง นำขบวนไปยังพิธีเททองหล่อฐานพระ ซึ่งจัดขึ้นในเวลา 14.00 น. โดยมีบุคคลสำคัญร่วมงานหลายราย อาทิ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาโครงการฯ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี, นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ฯลฯ
พิธีเททองในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการวัดบ้านไร่ สร้างองค์หลวงพ่อคูณ บริสุทธิ์ องค์ใหญ่” ที่มุ่งสร้างรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ องค์ใหญ่ที่สุด ขนาดหน้าตัก 16 เมตร สูง 24.9 เมตร เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความศรัทธา และแหล่งเรียนรู้คำสอนของหลวงพ่อคูณในอนาคต
นายทักษิณ กล่าวในพิธีว่า “ผมดีใจมากที่ได้กลับมาวัดบ้านไร่อีกครั้ง ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เคยมานอนค้างที่นี่ และสนทนาธรรมกับหลวงพ่อคูณ ท่านเป็นพระที่เรียบง่าย ไม่เน้นไสยศาสตร์ แต่สอนให้คนอยู่กับความเป็นจริง ใครมีธรรมะในใจก็คือผู้ศักดิ์สิทธิ์”
นอกจากนี้ อดีตนายกฯ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับพระสงฆ์ในปัจจุบันว่า แม้จะมีบางกรณีที่ทำให้ประชาชนผิดหวัง แต่ขอให้ทุกคนยังคงมีศรัทธาในพระพุทธศาสนา เพราะพระดีมีอยู่ 99% ส่วนพระไม่ดีก็เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
ทางด้าน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ในฐานะประธานที่ปรึกษาโครงการ กล่าวว่า โครงการสร้างหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ เกิดจากแรงศรัทธาของประชาชนชาวโคราช และพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศที่ร่วมบริจาคแรงกายแรงใจตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยเริ่มวางศิลาฤกษ์ตั้งแต่ปี 2561 และมีการจัดพิธีเททองในแต่ละช่วงเพื่อหล่อองค์ประกอบต่าง ๆ ขององค์พระอย่างต่อเนื่อง
คาดว่าจะสามารถยกองค์พระประดิษฐานได้ในช่วงปลายปีนี้
“หลวงพ่อคูณ สอนพวกเราว่า ‘ยิ่งให้ยิ่งมี อย่าให้เงินเป็นเจ้านาย’ และ ‘ถ้าขับรถเกินร้อย ต่อให้คล้องหลวงพ่อคูณ ท่านก็โดดลงก่อน’ นี่คือ คำสอนที่เราอยากให้ลูกหลานได้เรียนรู้ต่อไป” สุวัจน์ ลิปตพัลลภ
ปัจจุบันวัดบ้านไร่ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมสำคัญของประเทศ มีอุโบสถเซรามิกอันวิจิตรงดงาม พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ และวิหารกลางน้ำ “เทพวิทยาคม” ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเมื่อองค์หลวงพ่อคูณองค์ใหญ่แล้วเสร็จในอนาคต คาดว่าจะช่วยเสริมความสำคัญของวัดบ้านไร่ในฐานะแหล่งเรียนรู้หลักธรรมคำสอน และแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาระดับชาติ