22ก.ค.สทร.ร่วมดินเนอร์ พท.ลั่นศรีสะเกษห้ามแพ้
“วิสุทธิ์” ปูด “ทักษิณ” จะมาร่วมดินเนอร์กับพรรคร่วมรัฐบาล 22 ก.ค. บอกไม่ใช่ครอบงำ แต่มาแนะนำในฐานะผู้มีประสบการณ์ “ก่อแก้ว” ลั่นเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษแพ้ไม่ได้ ขนทัพช่วยหาเสียง “ประธานวิปฯ” ซัดฝ่ายค้านคิดให้ดีเกมนับองค์ประชุม “วิโรจน์” ซัดอย่ามัวโทษคนอื่น ให้ดูตัวเองไม่มีวิธีคุม สส.มาทำหน้าที่
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ก.ค.2568 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการทานข้าวของพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 22 ก.ค. จะมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมงานด้วยหรือไม่ ว่ามีข่าวว่านายทักษิณจะทานข้าวกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย
“นายทักษิณคงได้แนะนำหลายอย่าง พูดแนะนำ ไม่ได้ชี้นำหรือครอบงำ พูดในฐานะผู้มีประสบการณ์ทางการเมือง” นายวิสุทธิ์กล่าว
นายวิสุทธิ์ยังกล่าวถึงการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และ รมว.วัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรค พท.ไปอยู่แล้ว ลูกพรรคหาเสียงหัวหน้าพรรคไม่ไปก็ไม่ได้ โดยยังไม่กำหนดวัน ขณะนี้ยังเหลือเวลาอีกกว่า 10 วัน น.ส.แพทองธารไปแน่นอน
นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องนี้ว่า เลือกตั้งซ่อมครั้งนี้แพ้ไม่ได้ เราต้องรักษาพื้นที่ของเรา เรายกคณะแกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย เลขาบอย (สรวงศ์), คุณสุทิน, คุณอดิศร, คุณบรู๊ค (โฆษก), ครูมานิตย์, คุณเดียร์ ขัตติยา, คุณณัฐวุฒิ, คุณปอย ตรีชฎา, คุณพิพัฒน์ชัย และผมก่อแก้ว ลงพื้นที่หาเสียงในครั้งนี้ เปิดเวทีปราศรัย 2 เวทีใหญ่ ที่ อ.ภูสิงห์ ในเวลา 09.00 น. และที่ อ.ขุนหาญ ในเวลา 13.30 น.
โดยบรรยากาศที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เป็นไปอย่างคึกคัก พรรค พท.เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ เพื่อสนับสนุน น.ส.ภูริกา สมหมาย หรือกุ้ง ผู้สมัคร สส.หมายเลข 1 โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรค ปราศรัยตอนหนึ่งว่า พรรคภูมิใจไทย วันนี้เรียกว่าพรรคภูมิใจขวาง เพราะมีอะไรต้องขวางไปหมด ไม่เว้นแม้แต่ความพยายามของรัฐบาลในการแก้รัฐธรรมนูญผ่านประชามติ เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด พรรคการเมืองอื่นๆ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านยังยกมือเห็นด้วย ยกเว้นเพียงพรรคภูมิใจไทยเพียงพรรคเดียวที่ยกมือสวน ทำให้การแก้รัฐธรรมนูญไม่สามารถเดินหน้าต่อได้
“พรรคการเมืองทั่วไปส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง สส.อย่างโปร่งใส แต่บางพรรคกลับเข้าไปฮั้วกับสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งไม่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทำให้ระบบประชาธิปไตยบิดเบี้ยว วันนี้เรื่องเหล่านี้ยังอยู่ระหว่างคดีความ ทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปได้ยาก จนนำไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้การบริหารประเทศเดินหน้า” นายณัฐวุฒิ กล่าว
ส่วน น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี โฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีพรรค พท.ขนทัพใหญ่ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีษะเกษ ว่า พรรคภูมิใจไทยลงทัพใหญ่ก่อนตั้งแต่วันแรกที่สมัคร เราเป็นทัพใหญ่ นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พา น.ส.จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม สส. เบอร์ 2 เดินหาเสียงและปราศรัยใหญ่ตั้งแต่วันแรก วันนี้ถือว่าเป็นสีสันของอีกพรรคหนึ่งที่ลงไป ในส่วนพรรคภูมิใจไทยเราเน้นการหาเสียงในพื้นที่ และมี สส.หลายคนช่วยลงพื้นที่หาเสียงตลอด
น.ส.แนน บุณย์ธิดากล่าวอีกว่า รัฐบาลบอกว่าเราคือฝ่ายแค้น แต่ท่าทางท่านน่าจะแค้นมากกว่าเรา ออกมาโจมตีเราตลอดเวลาทุกวัน คิดว่าคงไม่ใช่แค่เรื่องวันที่ 14 ก.ค. อาจเป็นตั้งแต่เราออกจากพรรคร่วมรัฐบาลมาอยู่ฝั่งตรงข้าม ก็มีข่าวให้ร้ายเราตลอด วันที่ 14 ก.ค. อาจเป็นวันสมัครและเป็นวันตอกย้ำอีกวันหนึ่งว่า หลายๆ อย่างที่รัฐบาลได้ทำพลาดในช่วงหลังๆ ชาวบ้านได้รับทราบ รับรู้ และได้เห็น ได้พิจารณาในใจแน่นอนว่าวันเลือกตั้งจะเป็นแบบไหน
เมื่อถามว่า หลังจากที่นายทักษิณพุ่งเป้าโจมตีมาที่นายอนุทินและพรรคภูมิใจไทย นส.แนน บุณย์ธิดากล่าวว่า ต้องกลับไปถามนายทักษิณเองว่าสิ่งที่ออกมาโจมตีทุกวันรู้สึกอย่างไร พรรค ภท.ไม่ได้รู้สึกอะไรกับสิ่งที่ฝ่ายไหนก็ตามพยายามโจมตีเรา เรายืนยันชัดเจนว่าใช้ผลงานการทำงานสื่อให้เห็นว่าทำไมต้องกลัวเราแทน
วันเดียวกัน นายวิสุทธิ์ยังกล่าวถึงฝ่ายค้านใช้วิธีขอนับองค์ประชุมจนเกือบทำให้สภาล่มว่า ในวันพุธเราก็ขอให้ทุกคนมาหมด ทั้งรัฐมนตรีและ สส. ให้มาช่วยกันเต็มที่ แต่พอเป็นวันพฤหัสบดีรัฐมนตรีก็อั้นงานไว้ไม่ไหว จึงต้องออกไปทำภารกิจบ้าง และ สส.บางคนก็ต้องอยู่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ต่างๆ ซึ่งเข้าใจว่าฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่ เพราะการตรวจสอบองค์ประชุมเป็นเรื่องปกติ แต่ก็อยากให้คิดดีๆ ถึงความเสียหายสารพัดอย่าง
“ถ้าเขาจะดิสเครดิตรัฐบาลแบบนี้ก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นสิทธิ์ที่เขาทำได้ แต่จะเหมาะสมหรือไม่ ก็ให้ประชาชนตัดสินเอง” นายวิสุทธิ์ระบุ
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวโต้ว่า การที่จะไม่ผลาญงบประมาณก็คือการมาประชุม ลองคิดดูถ้าไม่มีการนับองค์ประชุมก็จะไม่มีใครรู้ว่า สส.ฝ่ายรัฐบาลไม่มาทำงานเยอะขนาดไหน ซึ่งข้าวปลาอาหารที่เขาเตรียมไว้ ทำไมเขาต้องเตรียมไว้ให้กับคนที่ไม่มาหรือมาเซ็นชื่อแล้วกลับบ้านด้วย อย่างนี้ไม่เรียกว่าเป็นการผลาญงบประมาณหรือ
“นายวิสุทธิ์ไปแก้ปัญหาพา สส.ของฟากฝ่ายตัวเองโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยมาทำงานดีกว่า หรือการที่นายวิสุทธิ์มาวิพากษ์วิจารณ์พรรคอื่นที่เขานับการประชุมโดยชอบ เป็นเพราะว่าไม่มีความสามารถ ไม่มีสติปัญญาในฐานะประธานวิปรัฐบาลที่จะจูงใจหรือออกระเบียบเพื่อให้ สส.พรรคเพื่อไทยมาประชุมแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้น นายวิสุทธิ์ก็ต้องพิจารณาตัวเองว่ายังเหมาะสมเป็นประธานวิปรัฐบาลอยู่หรือไม่ ทั้งหมดทั้งมวลไม่ต้องไปเพ่งโทษคนอื่น แต่ให้ดูตัวเอง” นายวิโรจน์กล่าว.