โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สิทธิผู้บริโภคบนจานและขวดยา รับมือโฆษณาหลอกยุคสุขภาพบูม

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา
โฆษณาหลอกลวงอาหารเสริม–ยา พุ่งกว่า 5,800 รายการในปีเดียว ผู้เชี่ยวชาญชี้กฎหมายโทษต่ำ เสนอเพิ่มบทลงโทษและให้แพลตฟอร์มร่วมรับผิด

กระแสสุขภาพที่พุ่งแรงพร้อมความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่

กระแสการดูแลสุขภาพกลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ของสังคมไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สินค้ากลุ่มอาหารเสริม วิตามิน ยาลดน้ำหนัก และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพส่วนบุคคล เติบโตอย่างก้าวกระโดด ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่ามูลค่าตลาดอาหารเสริมในปี 2567 สูงกว่า 240,000 ล้านบาท และมีอัตราขยายตัวเฉลี่ยต่อปีร้อยละ 7 ถึง 10 การขยายตัวนี้ดึงดูดทั้งผู้ประกอบการที่ตั้งใจทำธุรกิจอย่างสุจริต และผู้ขายที่ใช้กลยุทธ์หลอกลวงเพื่อแสวงหากำไร

ในสภาพที่ตลาดเติบโตเร็วเช่นนี้ การแข่งขันด้านการตลาดยิ่งทวีความดุเดือด โฆษณาหลายชิ้นจงใจใช้ข้อความหรือภาพที่เกินจริง เพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่กำลังแสวงหาความหวังด้านสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานและผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อสูง

ตัวเลขที่ชี้ให้เห็นปัญหา

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา รายงานว่าปี 2567 มีการตรวจจับโฆษณาผิดกฎหมายมากกว่า 5,800 รายการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จากปีก่อน กลุ่มที่พบมากที่สุดคือยาลดน้ำหนักปนเปื้อนสารไซบูทรามีน อาหารเสริมที่อ้างว่ารักษาโรคได้ และผลิตภัณฑ์ดีท็อกซ์ที่มีสารระบายสูงเกินมาตรฐาน

นอกจากความเสี่ยงทางสุขภาพ ผลวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังประเมินว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการใช้สินค้าที่ไม่มีคุณภาพและมีโฆษณาหลอกลวงสูงกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปี ทั้งค่าเสียโอกาสและค่ารักษาพยาบาล ขณะเดียวกัน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพพบว่าร้อยละ 30 ของผู้ป่วยที่แพ้อาหารเสริมหรือยาจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาแบบฉุกเฉิน

ข้อกฎหมายและช่องโหว่ที่เปิดทางให้การหลอกลวงดำเนินต่อ

แม้ประเทศไทยมีกฎหมายหลักอย่างพระราชบัญญัติอาหาร พระราชบัญญัติยา และพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค แต่บทลงโทษหลายข้อยังต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับผลกำไรที่ผู้กระทำผิดได้รับ การปรับเพียงหลักหมื่นหรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี ไม่เพียงพอจะยับยั้งธุรกิจมูลค่าหลายร้อยล้านบาท

การโฆษณาผิดกฎหมายผ่านโซเชียลมีเดียยังเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย เนื่องจากแพลตฟอร์มส่วนใหญ่ตั้งอยู่ต่างประเทศ การควบคุมและการสั่งลบเนื้อหายังต้องผ่านขั้นตอนที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน ส่งผลให้โฆษณาหลอกลวงแพร่กระจายได้รวดเร็วและกว้างขวาง

พฤติกรรมผู้บริโภคที่เพิ่มความเสี่ยง

ผลสำรวจจาก Thai Health Watch ปี 2567 พบว่าร้อยละ 72 ของผู้บริโภคได้ข้อมูลสินค้าอาหารเสริมจากโซเชียลมีเดีย และร้อยละ 46 ซื้อสินค้าจากรีวิวของอินฟลูเอนเซอร์โดยไม่ตรวจสอบเลขอนุญาตจาก อย. ขณะที่มีเพียงร้อยละ 27 ที่ตรวจสอบข้อมูลสินค้ากับหน่วยงานรัฐก่อนซื้อ ข้อมูลนี้ชี้ว่าช่องทางออนไลน์กลายเป็นพื้นที่เปราะบางที่ผู้ขายสามารถใช้เข้าถึงผู้ซื้อได้โดยตรง และยังยากต่อการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล

บทเรียนจากต่างประเทศที่ไทยควรศึกษา

หลายประเทศได้พัฒนากลไกการคุ้มครองผู้บริโภคที่เข้มแข็งเพื่อต่อสู้กับปัญหานี้ สหภาพยุโรปมีระบบ Safety Gate ที่อัปเดตรายการสินค้าที่ไม่ปลอดภัยทุกสัปดาห์และส่งต่อข้อมูลไปยังผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว สหรัฐอเมริกาให้อำนาจองค์การอาหารและยาสั่งเรียกคืนสินค้าที่ไม่ปลอดภัยได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคำสั่งศาล ส่วนเกาหลีใต้กำหนดให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องรับผิดชอบร่วม หากมีการขายสินค้าผิดกฎหมายผ่านระบบของตน

แนวทางแก้ปัญหาเชิงระบบ

ผู้เชี่ยวชาญเสนอให้ไทยปรับปรุงบทลงโทษให้สอดคล้องกับมูลค่าความเสียหาย บังคับให้แพลตฟอร์มออนไลน์ในประเทศและต่างประเทศรับผิดชอบร่วม ตรวจสอบและถอดโฆษณาผิดกฎหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด รวมถึงพัฒนาฐานข้อมูลกลางของ อย. สคบ. และหน่วยงานความมั่นคงเพื่อใช้ตรวจสอบอย่างบูรณาการ

นอกจากนี้ การให้ความรู้ประชาชนผ่านสื่อมวลชน โรงเรียน และช่องทางดิจิทัลเกี่ยวกับการอ่านฉลาก การตรวจเลขอนุญาต และการระวังโฆษณาเกินจริง จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ผู้บริโภคในระยะยาว

บทบาทของประชาชนในฐานะกำแพงป้องกันด่านแรก

แม้ภาครัฐและผู้ประกอบการที่สุจริตจะมีบทบาทหลัก แต่ผู้บริโภคเองคือกำแพงป้องกันด่านแรก การตรวจสอบข้อมูลก่อนซื้อ การเก็บหลักฐานโฆษณาที่ผิดกฎหมาย และการแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน อย. 1556 หรือ สคบ. 1166 สามารถช่วยหยุดการแพร่กระจายของสินค้าที่ไม่ปลอดภัยได้

ในบางจังหวัดมีการรวมกลุ่มเฝ้าระวังโฆษณาสุขภาพออนไลน์ที่ดำเนินการโดยอาสาสมัคร ทำหน้าที่คัดกรองข้อมูลและรายงานให้หน่วยงานรัฐ นับเป็นตัวอย่างของการมีส่วนร่วมของชุมชนที่ช่วยปิดช่องโหว่ในระบบ

ทางรอดในตลาดสุขภาพที่ซับซ้อน

เมื่อขอบเขตระหว่างข้อมูลสุขภาพที่ถูกต้องและการตลาดที่เกินจริงเริ่มพร่าเลือน การสร้างระบบคุ้มครองผู้บริโภคที่ทันสมัย รวดเร็ว และมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายจึงเป็นเรื่องจำเป็น การทำให้สิทธิของผู้บริโภคบนจานอาหารและขวดยาเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ต้องอาศัยทั้งกฎหมายที่เข้มงวด กลไกกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพ และความรู้เท่าทันของประชาชนเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

ภูมิใจไทยยันโหวตงบปี 69 รายมาตรา จี้รัฐเร่งเยียวยาชายแดน–น้ำท่วม

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

โอเปกเพิ่มคาดการณ์ดีมานด์น้ำมันปี 69 ลดซัพพลายนอกกลุ่ม

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สื่ออินโดฯ เผยตบสาวเวียดนามถูกตรวจเพศ สมาคมฯ ออกโรงโต้แค่เรียกตรวจเอกสารเพิ่ม

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"สมศักดิ์" หนุนยกระดับมาตรฐาน อย.ไทย สู่ Medical & Wellness Hub

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักหลายจังหวัด พายุโพดุล ขึ้นฝั่งไม่กระทบไทย

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

กองทัพภาคที่ 2 แจ้งเตือนอย่าตื่นตระหนก สถานการณ์ยังปกติ

Khaosod

สนั่นโซเชียล! ดราม่าร้อน "ป๊ายปาย โอริโอ้" ปมผู้จัดซีรี่ย์

สยามรัฐ

“กชเบล” คุกเข่ากราบอกแม่น้ำตาคลอ! ในงานวันแม่แห่งชาติ ย้ำชัด! รางวัลแห่งความภูมิใจนี้มอบให้ “แม่” คนเดียวเท่านั้น

tvpoolonline.com

ผู้นำสหภาพยุโรป ค้านการบังคับเปลี่ยนแปลงพรมแดนยูเครน

JS100

“แม่เป้ย” สุดชื่นใจ! โชว์โมเมนต์หวานชื่นกับ “น้องโปรด-น้องปาลิน” ฉลองวันแม่ อบอุ่นหัวใจทั้งครอบครัว!

tvpoolonline.com

สวนกระแส "พัฒนเดช" ดึงสติ ปมเรียกร้องต่ออายุราชการ แม่ทัพภาค 2

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์
วิดีโอ

เครื่องบินฝึก JL-10 ของจีนพัฒนาเสร็จพร้อมใช้งานทั้งฝึกและโจมตีระยะใกล้ บรรทุกได้ 3.5 ตัน.

BRIGHTTV.CO.TH

ข่าวและบทความยอดนิยม

เบเบ้ ธันย์ชนก ขอยึดความถูกต้อง! แถลงการณ์ยุติทุกความเกี่ยวข้องบริษัทดัง

TNN ช่อง16

แฟนเพลงตกใจ! กระต่าย พรรณนิภา กิน"คอลลาเจน"เกินลิมิต ต้องหามส่งรพ.ด่วน

TNN ช่อง16

สารเร่งเนื้อแดง ในหมูนำเข้า เสี่ยงสุขภาพ กระทบสิทธิผู้บริโภคไทย

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...