ลูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบุกวัดขโมยปัจจัยพระเกลี้ยงกุฏิเหตุมาจากยาเสพติดพ่อไม่ทนแจ้งจับหวังให้หลาบจำในพื้นที่ต.หนองนาคำ
ลูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแผลงฤทธิ์บุกวัดอาศัยช่วงพระทำวัตรเย็น กวาดปัจจัยพระเกลี้ยงกุฏิก่อนล่องหน วงจรปิดจับภาพได้ชัดหลักฐานชัดเจน หัวอกคนเป็นพ่อบอกก็รักแต่ต้องโทรตร.แจ้งจับลูกชายต้องเด็ดขาดยาเสพติดทำลายชีวิตลูกชายสิ้น หวังให้ลงโทษหนักเพื่อเป็นบทเรียน
วันที่ 13 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายบุกเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในกุฏิพระสงฆ์ ในวัดแห่งหนึ่ง ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพผู้ก่อเหตุได้อย่างชัดเจน เปิดเผยให้เห็นชายรูปร่างผอมสูง อายุประมาณ 20-30 ปี สวมเสื้อยืดและกางเกงสีดำ เดินเข้ามาภายในบริเวณวัดใน เป็นช่วงที่พระทุกรูปกำลังทำวัตรเย็นที่ศาลา
โดยชายคนดังกล่าวเดินเข้ามาทางประตู ก่อนเดินไปส่องในศาลาว่ามีพระอยู่กันครบไหมและกำลังทำอะไร เมื่อพบว่าพระอยู่ในศาลาครบและกำลังกำลังทำวัตรเย็น ได้เดินก้มต่ำเข้าไปในกุฎิพระสงฆ์นานหลายนาทีก่อนออกมา ขากลับออกมาเดินเลาะริมรั้ววัดและเดินออกจากวัดไป กว่าพระเจ้าของกุฎิจะรู้ก็สายไปเสียแล้ว โดยคนร้ายรายนี้ได้กวาดเอาปัจจัยเงินสดที่ศรัทราญาติโยมถวายให้ไป 300-400 บาท เมื่อดูภาพวงจรปิดพระสงฆ์และชาวบ้านในพื้นที่ต่างระบุว่า ผู้ก่อเหตุมีลักษณะคล้ายชายที่รู้จักเป็น ลูกชายของผช.ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเคยก่อเหตุลักทรัพย์หลายครั้งในวัดแห่งนี้ ทางพระที่วัดจึงได้โทรบอกพ่อให้รับรู้ และพาลูกมาให้พระอบรมแทนการรับโทษ แต่ช่วงเช้าวันนี้ผู้เป็นพ่อเปลี่ยนใจโทรแจ้งตำรวจให้มาจับลูกตัวเอง
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ระบุว่า ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานและดึงภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบแล้ว พร้อมเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเตือนให้วัดในพื้นที่เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อลดโอกาสเกิดเหตุซ้ำ
ส่วนพระลูกวัด เปิดเผยว่า หลังทำวัตรเย็นเสร็จขึ้นมาบนกุฎิกลับพบว่าย่ามหันสลับด้าน โดยเป็นย่ามที่ใช้เก็บเงิน เมื่อรู้ว่าเงินหายก็รู้สึกตกใจและเสียใจเพราะสิ่งของที่ถูกขโมยเป็นปัจจัยและเครื่องไทยธรรมที่ญาติโยมตั้งใจถวายเพื่อใช้ในกิจของสงฆ์และไว้ใช้เมื่อเจ็บไข้
ด้านนายสมควร อายุ 56 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และเป็นพ่อของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนมีลูกชาย 3 คน คนก่อเหตุเป็นลูกคนกลาง แต่ก่อนเป็นคนดีและขยันขันแข็ง จนกระทั่งเสียคนเพราะยาเสพติดมานานกว่า 2 ปี เคยก่อเหตุสร้างปัญหามากมายล่าสุดถึงขั้นทุบทำลายบ้านจนตำรวจต้องนำตัวไปบำบัดยาเสพติดนาน 3 เดือน หลังกลับมาสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก แต่สุดท้ายก็กลับไปใช้ยาเสพติดเหมือนเดิม
นายสมควรเล่าต่อว่า เดือนก่อนลูกชายเคยเข้าวัดเพื่อรักษาศีล อยู่ได้เพียง 2 สัปดาห์ ก็กลับออกมาใช้ยาอีก จนมาก่อเหตุล่าสุดคือขโมยเงินและไทยธรรมของพระในกุฏิ จึงต้องแจ้งตำรวจมาจับเพื่อให้หลาบจำ