“อ.ปริญญา” ชี้ผู้เสียหายฟ้องศาล ICC เองได้ คณะนิติฯ มธ.พร้อมช่วย
(15 ส.ค. 68) ผศ.ดร.ปริญญา เทวนฤมิตรกุล อ.ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พาคณะผู้แทนการทูตจาก 33 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดน ดูหลักฐานข้อเท็จจริงเรื่องการใช้ทุ่นระเบิดสังหารของกองทัพกัมพูชา ว่าเป็นเรื่องที่ดี และหากดูจากคราวก่อนที่ลงพื้นที่ดูความเสียหาย เราเชิญทูตทหารได้ 23 ประเทศ ส่วนกัมพูชาเชิญทูตทหารได้ 9 ประเทศ เทียบกับครั้งนี้แล้วถือว่าเรามีความได้เปรียบกว่า และข้อมูลที่เราให้กับทูตแต่ละประเทศ จะทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับตอนที่กัมพูชาพาลงไปดูพื้นที่ของพลเรือนกัมพูชาที่อ้างว่าถูกฝั่งไทยถล่ม ว่าลักษณะเหมือนหรือต่างกันอย่างไร
เรื่องการใช้ทุ่นระเบิดนี้ก็นับว่าเป็นจุดอ่อนหนึ่งที่สำคัญของกัมพูชา โดยทุ่นระเบิดรุ่น PMN-2 ของรัสเซีย ที่พบช่วงนี้ เป็นชนิดพลาสติกตรวจจับยากและเพิ่งผลิตในช่วงทศวรรษ 1990 ไม่ใช่ของเก่าสมัยสงครามเย็นตามที่กัมพูชากล่าวอ้าง เรื่องนี้ถือเป็นหลักฐานชัดว่าเป็นการวางใหม่ และเข้าข่ายละเมิด อนุสัญญาออตตาวา ที่กัมพูชาเป็นภาคี
ซึ่งไทยควรใช้โอกาสนี้ให้ประเทศต่าง ๆ กดดันกัมพูชา ไม่ให้วางทุ่นระเบิดซ้ำ พร้อมใช้เรื่องนี้ช่วยอธิบายเหตุผลของการใช้รั้วลวดหนามตามแนวชายแดนว่า “เพื่อป้องกันไม่ให้กัมพูชาลักลอบวางทุ่นระเบิดในเขตไทย” ไม่ใช่การรุกรานแผ่นดินของกัมพูชา
ซึ่งการวางทุ่นระเบิดของกัมพูชาเป็นการทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างรุนแรง เราต้องเปิดหลักฐานข้อเท็จจริงออกไป ใช้มาตรการให้โลกล้อมกัมพูชา ให้ไม่มีประเทศไหนกล้าเข้าข้างกัมพูชาในเรื่องนี้
ดร.ปริญญา ชี้อีกว่านอกจากเรื่องทุ่นระเบิดที่เป็นสถานการณ์เฉพาะหน้าแล้ว ไทยควรต้องยืนยันเรื่องหลักเขตแดนไปพร้อมกันด้วย โดยยืนยันตามสนธิสัญญาที่สยามเคยทำไว้กับฝรั่งเศส เรื่องให้ยึดแนวสันปันน้ำ เป็นเส้นเขตแดน ต้องยืนยันในเรื่องนี้ควบคู่ไปด้วย
ส่วนเรื่องการนำเรื่องขึ้นสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ดร.ปริญญา มองว่าประเทศไทยยังควรเอาเรื่องที่พลเรือนไทยถูกโจมตีจากกองทัพกัมพูชาขึ้นสู่ศาลนี้อยู่ เพื่อตอกย้ำความถูกต้องของไทยและทำให้ประชาคมโลกอยู่ข้างไทยมากขึ้น
โดยในกรณีที่ไทยไม่ได้เป็นภาคีของ ICC นั้น เรายังสามารถร้องผ่านได้อีก 2 ช่องทาง คือผ่านคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ หรือจะร้องผ่านสำนักอัยการของ ICC ก็ได้ ซึ่งร้องได้ทั้งรัฐบาล และตัวผู้เสียหาย-ครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยลัยธรรมศาสตร์ ก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในประเด็นดังกล่าวถ้าผู้เสียหายต้องการที่จะร้องโดยตรง
ซึ่งหากศาลรับฟ้องและออกคำสั่งเรียกผู้นำกัมพูชา ขึ้นศาล แม้รัฐบาลกัมพูชาอาจไม่ส่งตัว แต่ก็จะสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์และยืนยันความจริงว่าฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้ละเมิด
ทั้งนี้ ดร.ปริญญาเตือนว่า ไทยต้องไม่เหมารวมประชาชนกัมพูชาเป็นศัตรู เพราะจะเข้าทางผู้นำกัมพูชาที่ใช้ชาตินิยมเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาภายในประเทศ พร้อมระบุว่าไม่มีเผด็จการใดปิดหูปิดตาประชาชนได้ตลอดไป ความจริงจะทำให้เขาตาสว่าง