รมช.มหาดไทย-คณะ ลงพื้นที่ศรีสะเกษ มอบบ้านหลังใหม่ ประชาชนได้รับเสียหายเหตุปะทะ
รมช.มหาดไทย-คณะ ลงพื้นที่ศรีสะเกษ มอบบ้านหลังใหม่ ประชาชนได้รับเสียหายเหตุปะทะ
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย เดินทางตรวจเยี่ยมบ้านผู้ประสบภัยที่ได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิดเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมี พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายธนทร ศรีนาค ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 13 อุบลราชธานี จ.อ.สมควร สิงห์คำ นายอำเภอกันทรลักษ์ ร่วมลงพื้นที่บ้านโศกขามป้อม ต.ภูผาหมอก
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบ้านผู้ประสบภัย ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจจิตอาสาที่ได้ช่วยกันซ่อมแซมบ้าน
โดยมีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ให้การต้อนรับและรายงานการสำรวจตรวจสอบความเสียหายตลอดจนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด และ ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์
น.ส.ธีรรัตน์ และ พร้อมคณะ ได้เข้าเยี่ยมบ้านเรือนนายทองสุข คำแก้ว ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านโศกข้ามป้อม ตำบลภูผาหมอก และ ยังเป็นจิตอาสาชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ในช่วงที่มีสถานการณ์ความไม่สงบ บ้านเรือนได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิดทั้งหลัง
ขณะเดียวกันรถยนต์ก็ได้รีบความเสียหายเช่นกัน เบื้องต้นทางรัฐบาลได้ช่วยเหลือสร้างบ้านน๊อคดาวน์ให้ได้อยู่อาศัยชั่วคราวไปก่อน ส่วนบ้านที่เสียหายก็เตรียมรื้อถอนสร้างทดแทนใหม่
โดยบ้านของ นายทองสุข คำแก้ว อายุ 53 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และปฏิบัติหน้าที่ ชรบ. และ นางนงคราญ คำแก้ว อายุ 50 ปี ภรรยา ถูกกระสุนของกัมพูชา จากเหตุปะทะตามแนวชายแดน ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า สภาพบ้านเสียหายอย่างหนัก หลังคาบ้าน กระจก ประตูหน้าต่าง ถูกกระสุนปืนและสะเก็ดระเบิดจนได้รับความเสียหาย ไม่สามารถอยู่อาศัยได้ โดยในช่วงที่ผ่านมา
หลังจากเกิดเหตุ ทั้งสองคนยังไม่ได้เดินทางไปไหน ต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในหมู่บ้าน จึงต้องอาศัยนอนภายในห้องครัว ที่ยังมีหลังคาบางส่วนพออยู่อาศัยได้บ้าง นอกจากบ้านได้รับความเสียหายแล้ว แรงระเบิดยังส่งผลให้รถกระบะของนายทองสุข เจ้าของบ้าน เสียหายอย่างหนัก รอยสะเก็ดระเบิดเป็นรูเต็มรถยนต์รอบคัน กระจกรถยนต์แตก สภาพรถยนต์พังเละจนไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้
นางนงคราญ คำแก้ว อายุ 50 ปี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ปะทะระหว่างไทย–กัมพูชา เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่ติดแนวชายแดน พื้นที่สีแดง ต้องอพยพออกนอกพื้นที่ บางส่วนไปอยู่ศูนย์พักพิง บางส่วนไปอยู่บ้านญาติ เหลือเพียงตนและสามี พร้อมด้วยชาวบ้านบางส่วนที่ต้องอยู่ในพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน เพราะสามีเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และเป็น ชรบ. ด้วย
จนกระทั่งวันที่ 25 กรกฎาคม ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ขณะที่ตนอยู่ห่างจากหน้าบ้านประมาณ 300 เมตร ปรากฏว่ากระสุนของกัมพูชาตกลงมาใส่บ้าน แรงระเบิดทำให้บ้านและรถยนต์ได้รับความเสียหายเรียกได้ว่าพังยับ ตนเห็นครั้งแรกแทบทำใจไม่ได้ เพราะบ้านของตนได้รับความเสียหายหนักมาก จนแทบไม่สามารถทำอะไรได้ รถยนต์ของสามีแทบไม่สามารถใช้งานได้ แต่กระนั้น สามีก็ยังปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในหมู่บ้านจากวันนั้นจนถึงวันนี้ โดยไม่เคยออกจากหมู่บ้าน ต้องอาศัยนอนในตัวบ้านบริเวณครัว ที่ยังสามารถพออาศัยได้เท่านั้น
นายทองสุข คำแก้ว เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในหมู่บ้าน ตอนนั้นยังมีเสียงปืนดังอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งมีเสียงปืนนัดหนึ่งดังมาก คล้ายตกอยู่บริเวณบ้าน จึงตัดสินใจขับรถจักรยานยนต์ไปดู ก็ต้องตกใจเมื่อพบกับสภาพบ้านและรถยนต์ที่พังยับเยิน รถกระบะคันนี้ ตนนำมาผ่อนต่อจากญาติ เป็นรถคันแรกของตน ต้องผ่อนต่อเดือนละ 7,000 บาท โดยผ่อนมาหลายปีแล้ว เหลืออีกประมาณปีหน้าก็จะหมดงวด แต่สุดท้ายรถยนต์ของตนกลับพังไป ตนเสียใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้ต้องการแค่รถยนต์สักคันมาทดแทน ไม่จำเป็นต้องเป็นรุ่นใหม่อะไร ขอแค่ใช้งานได้ สามารถนำไปประชุม และพาญาติพี่น้องไปหาหมอได้ ตนก็ดีใจแล้ว
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ตนลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้กำลังใจและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในการซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายอย่างเร็วที่สุด ตามที่ได้อนุมัติเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด 100 ล้านบาท ซึ่งได้ดำเนินการไปตามลำดับ พร้อมมอบบ้านน็อกดาวน์ให้กับครอบครัวกว่า 15 ครอบครัวที่บ้านเสียหายทั้งหลัง มูลค่ารวม 3,500,000 บาทจาก จากทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีทั้งนี้ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นพื้นที่ได้รับความเสียหายอย่างมาก มีบ้านที่เสียหายทั้งหลังหลายหลัง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้บูรณาการร่วมกับ ปภ.จังหวัดศรีสะเกษ รวมถึงกรมราชทัณฑ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ความช่วยเหลือนำบ้านน็อกดาวน์มามอบให้ โดยวันนี้ได้มาเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมกับมาตรวจความเรียบร้อยและสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนและจุดอื่น ๆ ซึ่งบ้านที่มอบให้นี้สามารถอยู่อาศัยได้ทันที
“สำหรับภาพรวมการช่วยเหลือเยียวยารายหลังคาเรือน ขณะนี้ได้รวบรวมข้อมูลจากทุกพื้นที่ที่ประสบภัยและจะได้นำข้อมูลเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติให้การช่วยเหลือต่อไป แต่ในเบื้องต้นเราต้องให้ได้มีที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัย มีน้ำไฟได้ใช้ในเบื้องต้น ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้มีการประเมินความเสียหายตามหลักเกณฑ์ โดยคำนึงถึงความเสียหายจริงที่เกิดขึ้น เพื่อชดเชยเยียวยาให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเหมาะสม และดูแลทุกคนอย่างดีที่สุด และขณะนี้ในหลายพื้นที่ได้มีการระดมประชาชนจิตอาสาช่วยเหลือเร่งซ่อมบ้านเรือนที่เสียหาย และหากมีบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายอย่างมากและประสงค์ต้องการบ้านน็อกดาวน์ สามารถประสานผ่านผู้นำท้องที่ ผู้บริหาร อปท. หรือแจ้งสายด่วน 1784 ได้ทันที” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวช่วงท้ายว่า ขอขอบคุณทุกหน่วยงาน และประชาชนจิตอาสาที่มาช่วยเหลือ รวมถึง ชรบ. ที่ช่วยกันดูแลในขณะที่เกิดเหตุการณ์ไม่สงบ ซึ่งเราจะดูแลทุกคนอย่างเต็มที่ เพื่อจะได้ทำให้ทุกคนกลับคืนสู่ความปกติโดยเร็วด้วยความห่วงใยของรัฐบาลที่มีหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนทุกคน.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : รมช.มหาดไทย-คณะ ลงพื้นที่ศรีสะเกษ มอบบ้านหลังใหม่ ประชาชนได้รับเสียหายเหตุปะทะ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th