โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

คำพูด ‘สี จิ้นผิง’ ปลุกโลกเลือกสันติหรือสงคราม ทรัมป์แซะ รวมหัวต้านสหรัฐฯ

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว

เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จัดขบวนพาเหรดทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดของจีน เนื่องในวาระครบรอบ 80 ปีสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือที่จีนเรียกว่า “สงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น” โดยมีผู้นำอำนาจนิยมที่ถูกจับตามากที่สุดอย่าง วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ร่วมเดินพรมแดงและขึ้นสู่จัตุรัสเทียนอันเหมินเคียงข้างผู้นำจีน ภาพของสามผู้นำมหาอำนาจโลกตะวันออกยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กัน กลายเป็นสัญลักษณ์การท้าทายที่ชัดเจนที่สุดต่อระเบียบโลกแบบตะวันตก

ต่อหน้าผู้ชมกว่า 50,000 คน สี จิ้นผิงประกาศชัดว่า มนุษยชาติกำลังเผชิญ “ทางแยกแห่งสันติภาพหรือสงคราม การเจรจาหรือการเผชิญหน้า การได้ประโยชน์ร่วมกันหรือผลลัพธ์แบบแพ้-ชนะ” พร้อมย้ำว่าจีนคือชาติอันยิ่งใหญ่ “ที่ไม่เคยหวั่นเกรงผู้ใด” และการฟื้นฟูครั้งใหญ่ของจีน “ไม่อาจหยุดยั้งได้” คำพูดที่สื่อไปถึงสหรัฐฯ และพันธมิตรโดยตรง

คำพูด ‘สี จิ้นผิง’ ปลุกโลกเลือกสันติหรือสงคราม ทรัมป์แซะ รวมหัวต้านสหรัฐฯ

หลังการปราศรัย ผู้นำจีนขึ้นรถเปิดประทุนตรวจแถวทหาร ขณะที่ขบวนยุทโธปกรณ์มหาศาลเคลื่อนผ่าน ทั้งขีปนาวุธพลังทำลายสูงรุ่นใหม่ที่ยิงได้จากบก ทะเล และอากาศ ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง อาวุธเลเซอร์ต่อต้านโดรน ไปจนถึงโดรนใต้น้ำและโดรนลาดตระเวนทางอากาศ แสดงถึงศักยภาพกองทัพที่ตั้งใจให้โลกเห็นว่า จีนกำลังสร้างกำลังทางทหารที่ทัดเทียมตะวันตก

ท่ามกลางเสียงปืนใหญ่ 80 นัดที่ดังก้องเหนือจัตุรัสเทียนอันเหมิน ภาพการจับมือยาวนานระหว่างสีและคิม ก่อนจะเดินไปทักทายปูติน กลายเป็นฉากประวัติศาสตร์ที่สั่นสะเทือนความรู้สึกโลกตะวันตกทันที ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ โพสต์ข้อความบน Truth Social ถึงสามผู้นำว่า “ขอให้ท่านประธานาธิบดีสี และประชาชนชาวจีน มีวันเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่และยั่งยืน ฝากความปรารถนาดีถึงวลาดิเมียร์ ปูติน และคิม จองอึน ขณะที่พวกท่านสมคบคิดต่อต้านสหรัฐอเมริกา” คำกล่าวที่สะท้อนถึงความไม่พอใจและความหวาดระแวงจากฝั่งสหรัฐฯ ด้านเครมลินรีบออกมาปฏิเสธว่า “ไม่มีใครกำลังสมคบคิดอะไรทั้งนั้น”

คำพูด ‘สี จิ้นผิง’ ปลุกโลกเลือกสันติหรือสงคราม ทรัมป์แซะ รวมหัวต้านสหรัฐฯ

คายา คัลลาส หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป มองว่าการพบกันของสามผู้นำคือ “ความท้าทายโดยตรงต่อระบบโลกที่ตั้งอยู่บนกฎเกณฑ์” พร้อมชี้ว่าการทำสงครามของรัสเซียในยูเครนยังดำรงอยู่ได้เพราะการสนับสนุนจากจีน

แม้พาเหรดครั้งนี้จะจัดขึ้นเพื่อรำลึกชัยชนะเหนือญี่ปุ่น แต่แท้จริงแล้วคือการแสดงบทบาทจีนบนเวทีโลก สื่อสารว่าจีนไม่เพียงเป็นชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ แต่ยังถือไพ่เหนือในเกมการเมืองระหว่างประเทศ ปูตินต้องการความชอบธรรมที่สีมอบให้ ส่วนเกาหลีเหนือต้องพึ่งพาความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจจากปักกิ่ง ขณะที่สี จิ้นผิง เลือกใช้เวทีนี้ในการยืนยันบทบาท “ผู้นำพันธมิตรตะวันออก”

นอกจากนี้ยังสะท้อนบรรยากาศย้อนยุคสงครามเย็น เมื่อสามผู้นำยืนชมขบวนพาเหรดเหนือประตูเทียนอันเหมิน จุดเดียวกับที่เหมา เจ๋อตงเคยประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน และเคยต้อนรับคิม อิลซุง กับนิกิตา ครุสชอฟ ในปี 1959 ภาพวันนี้จึงไม่เพียงเป็นการโชว์กำลัง แต่ยังตอกย้ำบทบาทจีนที่ครั้งนี้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำหลัก แทนที่รัสเซียหรือเกาหลีเหนือ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...