รวบอดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท - ลูกศิษย์คนสนิท พัวพันโอนเงินวัดกว่า 8 แสนให้สีกากอล์ฟ
ช่วงเช้าวันนี้ (7 ส.ค.68) นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมด้วย พ.ต.ท. สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. รักษาราชการแทน รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., น.ส.อรณิช สุขบาล ผอ.กองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และตำรวจ บก.ปปป. บูรณาการบังคับใช้กฎหมายเข้าจับกุมอดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และลูกศิษย์คนสนิท ซึ่งมีชื่อพัวพันกรณีโอนเงินให้กับ “สีกากอล์ฟ"
โดยจากการตรวจสอบเชิงลึกพบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินที่น่าสนใจคือ มีเงินโอนจากวัดกว่า 800,000บาทเข้าบัญชีลูกศิษย์สนิท ก่อนส่งต่อถึงเจ้าอาวาส ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.66 จนถึง 13 มิ.ย.68 มีบริษัทเอกชนขอใช้พื้นที่ของวัดจอดเรือ และโอนเงินให้วัดรวมเป็นเงินกว่า 870,000 บาท แต่เงินดังกล่าวไม่ได้โอนเข้าบัญชีของวัดโดยตรง หากแต่ถูกโอนเข้าบัญชีลูกศิษย์ใกล้ชิดของเจ้าอาวาส และถูกโอนต่อให้อดีตพระมหาทิวากร โดยบางส่วนมีการนำไปใช้ส่วนตัว จากนั้นพระมหาทิวากรได้นำเงินจำนวนนี้โอนต่อให้สีกากอล์ฟ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมลูกศิษย์ใกล้ชิดได้ที่จังหวัดสมุทรสงคราม และจับอดีตเจ้าอาวาส ได้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลถึงที่มาของเงิน รายละเอียดการใช้จ่าย และความเชื่อมโยงกับบุคคลอื่นที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง
สำหรับอดีตพระมหาทิวากรได้ลาสิกขาเมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 ที่วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร ซึ่งเจ้าตัวระบุว่า การลาสิกขาเป็นไปเพื่อความสบายใจของคณะสงฆ์ในจังหวัด และย้ำว่าไม่ได้กระทำผิดตามพระธรรมวินัย แต่ยอมรับว่ารู้จักกับสีกากอล์ฟ จากการมาทำบุญที่วัด และภายหลังสีกากอล์ฟได้ติดต่อขอยืมเงินหลายครั้ง อ้างว่าป่วยหนักและไม่มีเงินค่ารักษา รวมยอดที่โอนให้ทั้งสิ้น 1,412,241 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน สีกากอล์ฟได้โอนเงินกลับคืนให้อดีตพระมหาทิวากรเพียงบางส่วน รวม 392,500 บาท