กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ ชี้ ภารกิจแรกสำเร็จ ไม่เอา ”เพื่อไทย–ชัยเกษม“ แต่ยังเดินหน้าทวงอีก 5 ข้อ
กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ ชี้ ภารกิจแรกสำเร็จ ไม่เอา ”เพื่อไทย–ชัยเกษม“ แต่ยังเดินหน้าทวงอีก 5 ข้อ เตรียมบุกทำเนียบวันประชุม ครม.นัดแรก
เมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 5 ก.ย. ที่บริเวณหน้ารัฐสภา ภายหลังการประชุมรัฐสภามีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่ง 247 เสียง เห็นชอบให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย โดยขั้นตอนต่อไปจะต้องรอการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
ในช่วงเวลาเดียวกัน กลุ่ม “รวมพลังแผ่นดินฯ” นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มฯ ตั้งแต่ครั้งแรกที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จนถึงวันนี้ ล้วนยืนยันจุดยืนชัดเจนว่าประเทศไทยไม่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และไม่เอานายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี
นายพิชิตกล่าวว่า กลุ่มฯได้ประกาศภารกิจหลัก 6 ข้อ ประกอบด้วย 1) ไม่เอาพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาล, 2) ยกเลิก MOU 43-44, 3) คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1 และหมวด 2, 4) ยกเลิกร่างแก้ไข พ.ร.บ.ทรัพย์สิน ที่ขยายสิทธิ์การเช่าที่ดิน 99 ปี, 5) ยกเลิก พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่เปิดทางให้กาสิโนและพนันออนไลน์ และ 6) ยกเลิกร่าง พ.ร.บ.ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน
“วันนี้ภารกิจข้อแรกสำเร็จแล้ว เพราะเพื่อไทยไม่สามารถเป็นแกนนำ และชัยเกษมไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ยังเหลืออีก 5 ข้อที่รัฐบาลใหม่ต้องแสดงความรับผิดชอบ” นายพิชิตกล่าว พร้อมย้ำว่าการที่นายอนุทินขึ้นเป็นนายกฯ ไม่ได้หมายความว่ากลุ่มสนับสนุนใคร แต่จะเดินหน้าตามภารกิจของประชาชน
ทั้งนี้ กลุ่มฯ ได้ประกาศนัดหมายว่า เมื่อมีการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกภายใต้รัฐบาลที่มีนายอนุทินเป็นนายกฯ จะเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นข้อเรียกร้องและทำบันทึกข้อตกลง (MOA) ร่วมกับรัฐบาลใหม่ โดยชี้ว่าหากพรรคภูมิใจไทยเคยทำ MOU กับพรรคการเมืองได้ ก็ต้องเปิดรับการทำ MOA กับประชาชนเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ นายพิชิตยังกล่าวถึงนัดหมายครั้งสำคัญในวันที่ 9 ก.ย. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะอ่านคำพิพากษาคดี “คนชั้น 14” โดยกลุ่มฯ จะรวมตัวกันที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ เพื่อติดตามคำวินิจฉัยร่วมกัน