โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ความตกต่ำของ Intel ครั้งหนึ่ง “Intel Inside” ทำให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์

ไทยพับลิก้า

อัพเดต 26 สิงหาคม 2568 เวลา 10.18 น. • เผยแพร่ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รายงานโดย ปรีดี บุญซื่อ

ที่มาภาพ:arstechnica.com

สัปดาห์ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่า Intel ยักษ์ใหญ่ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ ยินยอมให้รัฐบาลสหรัฐฯเข้าไปถือหุ้น 10% มูลค่า 8.9 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นกรณีที่รัฐบาลเข้าแทรกแซงธุรกิจครั้งใหญ่สุดอีกครั้งหนึ่ง หลังจากเกิดวิกฤติการเงินเมื่อปี 2008 ที่รัฐบาลสหรัฐฯเคยให้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ ช่วยพยุงไม่ให้บริษัทรถยนต์ล้มละลาย เช่น Chrysler และ General Motors

ก่อนหน้านี้ ภายใต้กฎหมาย CHIP and Science Act 2022 รัฐบาลสหรัฐฯได้ให้เงินสนับสนุนแก่ Intel มาแล้ว 2.2 พันล้านดอลลาร์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามฟื้นฟูอุตสาหกรรมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ขึ้นมาใหม่ในสหรัฐฯ Howard Lutnick รัฐมนตรีพาณิชย์กล่าวว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งแก่การเป็นผู้นำของสหรัฐฯด้านชิปคอมพิวเตอร์ ที่เปรียบเสมือนสมองของคอมพิวเตอร์ และถูกใช้งานในอุปกรณ์ต่างๆตั้งแต่รถยนต์จนถึงอาวุธ

แม้แต่ยักษ์ใหญ่ไฮเทคยังล้มลง

รายงานของ The New York Times เรื่อง The Long, Painful Downfall of Intel กล่าวว่า การเดินทางของ Intel จากบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ มาถึงจุดขายหุ้นให้รัฐบาลสหรัฐฯ 10% เน้นให้เห็นความสำคัญของเรื่องราวที่ว่า บริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ที่สุด ยังสามารถล้มพังลงได้

เป็นเวลาหลายสิบปี บรรดาวิศวกรที่ทำงานบนสำนักงาน Intel ในซิลิคอนวัลเลย์ เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ Intel ช่วยทำให้เกิดการปฏิวัติคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลขึ้นมา และทำให้ทรานซิสเตอร์ขนาดเล็ก กลายเป็นมันสมองของทุกอย่าง ตั้งแต่เครื่องไมโครเวฟไปจนถึงเครื่องบินรบ

ที่มาภาพ:pinterest.com

Intel เริ่มต้นจากผู้ผลิต memory chip หรือชิปเก็บข้อมูล ต่อมาเปลี่ยนเป็นผู้ผลิต microprocessor หรือหน่วยประเมินผลของคอมพิวเตอร์ ที่กลายเป็นตัวอย่างหนึ่งของประวัติศาสตร์ความสำเร็จทางธุรกิจ เพราะทำให้ Intel แทบจะผูกขาดตลาด microprocessor ของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

ไม่เพียงแค่ความสำเร็จทางเทคโนโลยี Intel ยังประสบความสำเร็จในด้านการตลาด ปี 1991 Intel เริ่มรณรงค์คำว่า“Intel Inside” จนประสบความสำเร็จ ในสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ คือการทำให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับชิ้นส่วนอยู่ภายในคอมพิวเตอร์ ที่มองไม่เห็น Intel สามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในคอมพิวเตอร์ ให้กลายเป็นคุณภาพตราสินค้าที่ทุกคนรู้จัก จนสร้างฐานะนำในตลาดระดับคุณภาพ ที่คู่แข่งไม่สามารถเลียนแบบ

จากยักษ์ใหญ่สู่การดิ้นรนเพื่ออยู่รวด

ประวัติ 20 กว่าปีของ Intel เป็นเรื่องราวการตกต่ำ ที่เริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป แล้วก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นตำนานที่ว่า บริษัทที่เป็นผู้นำเทคโนโลยีมากที่สุด สามารถเปลี่ยนกลายเป็นบริษัท ที่หมดพลังและอนาคต เมื่อเผชิญกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนไป มีนวัตกรรมที่มาแทนเทคโนโลยีเก่า (disruptive technology) และปัญหาภายในองค์กรที่ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง

ครั้งหนึ่ง Intel เคยเป็นสร้างนวัตกรรมที่ท้าทายตลาดเทคโนโลยีเก่า แต่ในที่สุด ตัวเองก็ไม่สามารถรับมือกับคลื่นลูกใหม่ของนวัตกรรม แม้ตัวเองจะมีทรัพยากร ความสามารถ และฐานะนำในตลาด ปัจจัยเหล่านี้ควรจะทำให้ Intel สามารถรักษาความเป็นผู้นำได้อย่างต่อเนื่อง แต่สภาพความได้เปรียบทางเทคโนโลยีของตัวเอง กลับถูกกัดกร่อนลงไป ความเป็นเลิศทางการผลิตพังทลายลง และวิสัยทัศน์ทางยุทธศาสตร์พร่ามัว

จุดเริ่มต้นความตกต่ำ

รายงานของ The New York Times กล่าวว่า การก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำไฮเทคของ Intel เกิดขึ้นในสมัยที่ Andy Grove ขึ้นมาเป็น CEO ในช่วงปี 1979-2005 ที่สร้าง Intel ให้เป็นซับพลายเออร์ชั้นนำด้านชิปคอมพิวเตอร์ ที่มีใช้ในคอมพิวเตอร์แทบทั้งหมด และการส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร ที่เผชิญหน้าการแข่งขันอย่างสร้างสรรค์ ด้วยคำขวัญที่ว่า “การระมัดระวังเท่านั้นที่ทำให้อยู่รอด”

หลังจาก Andy Grove พ้นจากความรับผิดชอบ Intel เริ่มสูญเสียความได้เปรียบทางเทคโนโลยี Intel พลาดโอกาสจากการปฏิวัติด้านสมาร์ทโฟนและปัญญาประดิษฐ์ การตกต่ำของ Intel สะท้อนสัจจะของอุตสาหกรรมไฮเทคที่ว่า แม้แต่บริษัทที่ทรงพลังที่สุด ก็ผิดพลาดได้ David Yoffie อดีตกรรมการ Intel กล่าวว่า “ที่ Intel เป็นอยู่ทุกวันนี้ คือสิ่งที่ Andy Grove หวาดกลัว คือ การแทรกแซงของรัฐบาล ความประมาท และการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป”

Intel ตั้งขึ้นมาในปี 1968 จากนักบุกเบิกเซมิคอนดักเตอร์ 2 คนคือ Robert Noyce ที่คิดค้นไมโครชิป (microchip) และ Gordon Moore ที่พยากรณ์ว่า ความสามารถของชิปจะเพิ่มขึ้นแบบรวดเร็ว ทั้งสองคนออกจากบริษัท Fairchild Semiconductor เพื่อมาตั้งบริษัทใหม่ และดึง Andy Grove ที่เป็นวิศวกรมา ร่วมงานด้วย

ผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของ Intel คือ memory chip ต่อมา Intel คิดค้น microprocessor ที่ทำหน้าที่ประมวลผล รัฐบาลสหรัฐฯเป็นลูกค้ารายแรก Gordon Moore เคยพยากรณ์ว่า อนาคตข้างหน้า จะมีตัวชิปในทุกอย่าง ตั้งแต่กล้อมถ่ายรูป ของเด็กเล่น ไปจนถึงอุปกรณ์การผลิตต่างๆ

ในช่วงแรก เครื่องคอมพิวเตอร์ PC ใช้ microprocessor Intel 8080 ต่อมา Intel สามารถดึง IBM ให้มาใช้ชิปของ Intel ในเครื่องคอมพิวเตอร์ PC ในปี 1985 Microsoft พัฒนา Windows ที่ใช้งานกับตัว processor ของ Intel ทำให้เกิด “ยุควินเทล” (Wintel era) เมื่อคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ในโลกใช้ซอฟต์แวร์ Windows และฮาร์ดแวร์ Intel จนคอมพิวเตอร์ต่างๆ ติดสติกเกอร์มีคำว่า “Intel Inside”

ที่มาภาพ:techspot.com

แต่รอยร้าวของยักษ์ใหญ่เกิดขึ้นในปี 2006 เมื่อ Intel ปฏิเสธที่จะพัฒนาชิปให้กับ iPhone เครื่องแรกของ Apple นอกจากนี้ ยังผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ เมื่อ Intel ขายบริษัท XScale ที่ผลิต processor สำหรับอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย การขายกิจการนี้เกิดขึ้นไม่กี่เดือน ก่อนที่ Apple จะวางตลาด iPhone รุ่นแรก เท่ากับทำให้ Intel ออกจากตลาดคอมพิวเตอร์ที่เติบโตรวดเร็วที่สุด Intel จึงล้มเหลวที่จะมองเห็นว่า การประมวลผลไร้สาย (mobile computing)จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีครั้งใหญ่

Intel ยังทิ้งโครงการพัฒนาชิป ที่สามารถประมวลผลได้หลายอย่างในเวลาเดียวกัน ชิปดังกล่าวเรียกว่า graphics processing units (GPU) วงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่ประมวลผลความเร็วสูงในงานต่างๆ ที่นำมาใช้กับวีดีโอเกมและ AI โดย Intel หันมาทุ่มเทกับโรงงานผลิตชิปในสหรัฐฯ แต่เวลาเดียวกัน ความต้องการของตลาด GPU พุ่งขึ้นมา เมื่อบริษัทสตาร์ทอัพอย่าง OpenAI นำมาสร้างระบบปัญญาประดิษฐ์เรียกว่า ChatGPT ที่สามารถเขียนนิยาย บทกวี และตอบคำถามต่างๆ

ที่มาภาพ:pinterest.com

ส่วน Nvidia บริษัทคู่แข่งของ Intel ชำนาญในการประดิษฐ์วงจร GPU ทำให้ปัจจุบัน มูลค่าตลาดของ Nvidia อยู่ที่ 4.3 ล้านล้านดอลลาร์ มากกว่ามูลค่า GDP ของอินเดีย ขณะที่ Intel ที่เคยยิ่งใหญ่กว่า Nvidia มีมูลค่าตลาด 100 พันล้านดอลลาร์ เท่ากับ GDP ของประเทศเล็กๆอย่างคอสตาริก้า

ความรุ่งเรืองและตกต่ำของ Intel เป็นเรื่องราวอุทาหรณ์สอนใจ ถึงอันตรายที่มาจากความสำเร็จของตัวเอง บริษัทที่มีฐานะนำในตลาดคอมพิวเตอร์ PC ทำให้เกิดแรงจูงใจหนักแน่น ที่จะปกป้องธุรกิจที่เป็นอยู่ มากกว่าการหาโอกาสใหม่ที่เกิดขึ้น ซึ่งก็คือการประมวลผลที่ไร้สาย

เอกสารประกอบ

The Long, Painful Downfall of Intel, August 23, 2025, nytimes.com

Intel’s Decline: The Fall of a Silicon Valley Giant (2000-2025), Feb 27, 2025, shahmm.medium.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยพับลิก้า

“ธนารักษ์” เปิดตัว Clean Energy ต้นแบบใช้พลังงานสะอาดในที่ราชพัสดุ MOU กองทัพเรือทำโครงการนำร่อง

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

EIC มองเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังอาจขยายตัวเฉลี่ยไม่ถึง 1% เสี่ยงเข้าสู่ Technical recession

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

วิดีโอ

แก๊งแอปฯ เงินกู้เถื่อน คิดดอกเบี้ยสุดโหด ร้อยละ 3,197 ต่อปี พบเงินหมุนเวียนในระบบเดือนเดียวกว่า 120 ล้านบาท

สวพ.FM91
วิดีโอ

รวบหนุ่มเมียนมา ขนแรงงานเถื่อนอัดแน่นกระบะ 13 ชีวิตกลางดึก

สวพ.FM91
วิดีโอ

บุกรวบล่ามแปล ขบวนการแก๊งปอหนวดงาม มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

สวพ.FM91

ชัวร์ก่อนแชร์: แมวเชื่อมโยงรูปภาพกับคำเร็วกว่าทารก จริงหรือ?

สำนักข่าวไทย Online

ชัวร์ก่อนแชร์: แมวเชื่อมโยงรูปภาพกับคำเร็วกว่าทารก จริงหรือ?

ชัวร์ก่อนแชร์

รวบ 2 สามีภรรยา รับจ้างขนยาบ้า 8 ล้านเม็ด ซุกรถขนน้ำตบตาตำรวจ สารภาพรอดมา 3 ครั้งแล้ว

Khaosod

เสื่อมอีก! บุกวัดจับสึกเจ้าอาวาสฉี่ม่วง ค้นกุฎิผงะอุปกรณ์เสพ-ขวดเหล้าเบียร์อื้อ

เดลินิวส์

“ธนารักษ์” เปิดตัว Clean Energy ต้นแบบใช้พลังงานสะอาดในที่ราชพัสดุ MOU กองทัพเรือทำโครงการนำร่อง

ไทยพับลิก้า

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...