ทรัมป์ปลดกรรมการเฟดส่งผลตลาดผันผวน
ช่วงต้นสัปดาห์ ตลาดการเงินโลกเผชิญความผันผวนรุนแรงอีกครั้ง หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งปลด “ลิซ่า คุก” ผู้ว่าการเฟดและหนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงินอย่างเป็นทางการ โดยให้เหตุผลเรื่องข้อกังขาด้านสินเชื่อจำนอง แต่ในอีกด้านหนึ่งนักวิเคราะห์มองว่านี่เป็นความพยายามแทรกแซงธนาคารกลางครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะอาจบั่นทอนความเป็นอิสระของเฟดและบานปลายสู่การฟ้องร้องต่อศาลสูง
ขณะที่ทรัมป์ยังขู่เพิ่มมาตรการทางการค้ากับสหภาพยุโรป หากยังเก็บภาษีดิจิทัลต่อบริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีสหรัฐฯ เช่น Google, Apple และ Amazon รวมถึงเตือนจีนว่าจะเก็บภาษีศุลกากรสูงถึง 200% หากไม่ส่งออกแร่หายากให้สหรัฐฯ การเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดหุ้นและค่าเงิน แต่ยังทำให้นักลงทุนหันกลับเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะ 3,390 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันพุธ
ท่ามกลางความกังวลว่าการตัดสินใจเชิงนโยบายการเงินของเฟดในอนาคตอาจถูกครอบงำด้วยการเมืองอย่างชัดเจน ซึ่งหากทรัมป์สามารถแต่งตั้งบุคคลที่มีแนวคิดสอดคล้องกับเขาเข้ามาแทนที่ได้ ก็มีโอกาสสูงที่เฟดจะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยตามความต้องการของผู้นำสหรัฐฯ และนั่นอาจทำให้ตลาดโลกเผชิญความผันผวนยิ่งกว่าเดิมในระยะถัดไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ทองพุ่งแรง $27.61 รับสัญญาณตึงเครียดการค้า หลังทรัมป์ขู่กีดกัน EU
- ทรัมป์หารือปูติน "ลดอาวุธนิวเคลียร์" ทั้ง 2 ประเทศ แต่สงครามต้องจบก่อน
- ทองลุ้นย่อ ระยะสั้น ทดสอบ 3,360 ดอลลาร์
- "ทรัมป์" หารือผู้นำเกาหลีใต้พูดคุยประเด็นการค้า ทรัมป์เผยพร้อมพบ "คิม จอง-อึน" อีก
- เจ้าหน้าที่จากกองกำลังพิทักษ์แห่งมาตุภูมิ เริ่ม "ถืออาวุธ" ลาดตระเวนในดี.ซี.แล้ว