วิเคราะห์ ดอกเบี้ย กนง. 13 สิงหาคม
จับตาการประชุม กนง. วันที่ 13 สิงหาคม นี้ จากคาดการณ์ CONSENSUS มีทั้งมุมมองไปทางปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% สู่ระดับ 1.50% รวมถึงคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% ตามเดิม
มีมุมมองที่น่าสนใจก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 13 สิงหาคม 2568 โดยมีวาระสำคัญคือการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ล่าสุด ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ จับตาการประชุม กนง. วันที่ 13 สิงหาคม นี้ จากคาดการณ์ CONSENSUS มีทั้งมุมมองไปทางปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% สู่ระดับ 1.50% รวมถึงคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% ตามเดิม สำหรับสัญญาณหนุนให้ กนง. ปรับลดดอกเบี้ย อาทิ
1.CONSENSUS ให้น้ำหนักราว 58% คาด กนง. จะปรับลดดอกเบี้ย
2.การประชุมครั้งที่ผ่านมา เสียงแตก 6 ต่อ 1 เสียงในการคงดอกเบี้ย ซึ่ง 1 เสียงเห็นควรให้ลดดอกเบี้ย จากสถิติในอดีต เสียงส่วนน้อย มีโอกาสเป็นเสียงส่วนใหญ่ในการประชุมครั้งถัดไป
3.BOND YIELD 10ปี ไทย ย่อตัวลงมาต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 1.45% กว่าดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันที่ 1.75% และเทียบเท่ากับการปรับลดดอกเบี้ยมากกว่า 1 ครั้ง
4.เศรษฐกิจไทย ครึ่งปีหลัง 2568 เป็นต้นไปเสี่ยงชะลอตัวลง ซึ่งจากการประชุม กนง. ครั้งล่าสุด ได้ประเมิน GDP GRWOTH ของไทยในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 จะโตแค่ 1.6% ทั้งนี้ หากดอกเบี้ยบ้านเรายังอยู่ที่ 1.75% อาจเป็นการขัดขวางการเติบโตเศรษฐกิจไทย
5.กว่านโยบายการเงินจะส่งผลต่อเศรษฐกิจต้องใช้เวลาราว 6-12เดือน และปัจจัยที่ 6 เงินบาทแข็งค่าเกินไป อาจส่งผลต่อกลุ่มผู้ส่งออก ที่ต้องโดนผลกระทบภาษีทรัมป์ด้วย
ส่วนคาดการณ์กรณี กนง. ไม่ปรับลดดอกเบี้ย อาจมาจากเหตุผล คือ
1. เก็บ POLICY SPACE หรือ ช่องว่างของอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สามารถลดลงได้ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในยามจำเป็นจริง ๆ
2. ความไม่แน่นอนของผลกระทบภาษีทรัมป์ ยังไม่ชัดเจน รอดูตัวเลขทางเศรษฐกิจ ประกอบก่อนการตัดสินใจ ปรับลดดอกเบี้ย
ขณะที่ "นายอมรเทพ จาวะลา" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย แนะจับตา กนง. อาจลดดอกเบี้ยเหลือ 1.50% วันที่ 13 ส.ค. นี้ โดย "นายอมรเทพ" ชี้ว่า เหตุผลหลักที่ควรลดดอกเบี้ย :
1. เงินเฟ้อต่ำต่อเนื่อง เงินเฟ้อทั่วไปต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย สะท้อนอุปสงค์ในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว
2. เศรษฐกิจอ่อนแรง,กำลังซื้อของประชาชนยังอ่อนแอ, ภาคการผลิตซบเซา, ภาคก่อสร้างทรุดหนัก
3. สินเชื่อหดตัว ธนาคารระวังปล่อยกู้มากขึ้น เพราะความเสี่ยงด้านเครดิตสูง
ทำให้เงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจน้อยลง
4.ภาษีทรัมป์ 19% แม้ต่ำกว่าคาด แต่ยังมีผลกระทบ โดยเฉพาะต่อภาคส่งออกไทย ต้องไม่ชะล่าใจ
ทั้งนี้ การลดดอกเบี้ยจะช่วยพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ทรุดหนัก เพิ่มสภาพคล่อง ลดต้นทุนทางการเงิน กระตุ้นการใช้จ่ายและการลงทุน
อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่กนง. ไม่ลดดอกเบี้ย อาจใช้เหตุผลว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้น เงินเฟ้อต่ำมาจากปัจจัยด้านอุปทาน และมองไปข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอนสูง อยากรอใช้มาตรการดอกเบี้ยเมื่อมีความชัดเจน และจำเป็นมากกว่านี้ หรือเก็บ policy space ไว้ก่อน ใช้ตอนหลังจะมีประสิทธิภาพสูงกว่า
"นายอมรเทพ" ระบุด้วยว่า ถ้าลดช้าเกินไป อาจต้องลดแรงกว่าที่จำเป็นในอนาคต ถึงเวลาที่นโยบายการเงินต้องออกแรงช่วยเศรษฐกิจไทยแล้ว!
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาการประชุมกนง.วันที่ 13 สิงหาคมนี้อย่างใกล้ชิด ว่า จะคงหรือลดอัตราดอกเบี้ย เพราะผลของการประชุมย่อมส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยที่เชื่อมโยงกับปากท้องของประชาชนนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews