กต.แจงต่อทั่วโลก กัมพูชา ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา | ห้องข่าวภาคเที่ยง

ห้องข่าวภาคเที่ยง - เริ่มแล้วการตอบโต้แบบเป็นทางการพร้อมข้อเท็จจริงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังลงนาม 13 ข้อในการประชุม GBC ประเทศไทยเดินหน้าต่อแจงให้ทั่วโลกเข้าใจการกระทำของกัมพูชาที่ทำกับไทย โดยเฉพาะกรณี ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่นำมาวางในอธิปไตยของไทย แต่ปฏิเสธ หลังจากลงนามกันไปแล้วของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา ระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 13 ข้อ แต่มีอีก 2 ข้อที่ต้องไปหารือกันต่อในการประชุม GBC อีก 1 เดือนข้างหน้าในเรื่อง การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ หลอกลวงออนไลน์หรือ สแกมเมอร์ และความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งล่าสุดทหารทหารไทยได้รับผลกระทบจากกรณีที่พลกองร้อยทหารพรานรวม 7 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องจุ๊บตาโมก จังหวัดสุรินทร์ ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ได้เหยียบทุ่นระเบิด จนทำให้ทหาร 1 นายต้องสูญเสียขา รวมแล้วทหารไทยต้องสูญเสียอวัยวะจากทุ่นระเบิด 5 นาย กระทรวงการต่างประเทศ เชิญผู้แทนทางการทูตกว่า 50 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาออตตาวา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มารับฟังประเด็นความเสียหาย และ ทุ่นระเบิดของกัมพูชา ก่อนจะพาลงพื้นที่จริง โดยเจ้าหน้าที่นำตัวอย่างทุ่นระเบิด PMN-2 ของกัมพูชา ที่ช่องโดนเอาว์-กฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อ 9 สิงหาคมและ 12 สิงหาคม ที่ช่องจุ๊บตาโมก การประชุมวันนี้มีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตกัมพูชา มาร่วมรับฟังด้วย ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประฌามการกระทำของกัมพูชา พรุ่งนี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะนำคณะผู้แทนทางการทูต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ พิสูจน์ข้อเท็จจริง เหตุทุ่นระเบิดเกิดซ้ำ กัมพูชาปฏิเสธเก็บกู้ ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ฟังเจ้าหน้าที่ในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 2 ในพื้นที่ภูมะเขือ ก่อนเดินทางไปตรวจพื้นที่ความเสียหายพลเรือน ที่บ้านหนองเม็ก ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา จังหวัดศรีสะเกษ กรมข่าวทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย จะนำคณะสังเกตการณ์ชั่วคราวทูตทหารอาเซียน 7 ประเทศ ไปจังหวัดอุบลราชธานีอีกครั้ง ระหว่างวันที่ 18-20 สิงหาคม ขณะที่เตรียมประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา ในปลายเดือนนี้ รวมไปถึงวันพรุ่งนี้ก็จะมีการประชุมในพื้นที่จังหวัดตราดของผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราดด้วย พรุ่งนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 นำคณะทูต ดูจุดเกิดเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด พร้อมเปิดหลักฐานเชิงประจักษ์กัมพูชาวางใหม่ สั่งงดเดินเท้าลาดตระเวน ชี้สร้างรั้วกั้น ทำได้บางจุด ยอมรับชายแดนไทย-กัมพูชา เกือบ 1,000 กิโลเมตร พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีกระทรวงการต่างประเทศจะนำคณะทูตที่เป็นผู้แทนจากสถานทูตประเทศภาคีของ Ottawa Convention ลงพื้นที่ จังหวัดศรีสะเกษ ที่บริเวณผามออีแดง ในวันพรุ่งนี้ในพื้นที่ ภูมะเขือ ว่า เราพร้อมอยู่แล้วที่จะให้ผู้แทนนานาชาติ เข้าไปดูพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อให้เป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ เราได้เก็บข้อมูลหลักฐานเอาไว้หมดแล้ว ซึ่งชี้ชัดได้ว่า ทหารกัมพูชา เป็นผู้วางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในเขตอธิปไตยของไทย ขณะนี้เราได้ทำการเคลียร์พื้นที่ปลอดภัยแล้ว สำหรับพื้นที่อื่น ที่จำเป็นต้องใช้ ทหารลาดตระเวนนั้น ในระหว่างนี้ สั่งการให้เฝ้าตัวทางไกลก่อน ยังไม่ให้เข้าไปพื้นที่ ให้ใช้เทคโนโลยี โดรน เฝ้าตรวจไปก่อนแทนการลาดตระเวน พร้อมทั้งใช้ลวดหนามหีบเพลง ที่ได้รับบริจาคกับประชาชนขวางกั้นให้ทั่วถึงทั้งหมด แต่ยอมรับว่าชายแดนไทย-กัมพูชา ยาวมากเกือบ 1,000 กิโลเมตร คือ ต้องใช้งบประมาณสูงหากทำได้เช่นนั้น จะสามารถ แก้ไขปัญหา ลดการลาดตระเวนการเฝ้าตรวจ ใช้เทคโนโลยีเป็นกล้องวงจรปิด ก็จะลดภาระงานของกำลังพล กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ : https://cutt.ly/YTch7hdnews ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://news.ch7.com #ห้องข่าวภาคเที่ยง #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero