“บิ๊กเล็ก” ปัด ข้อเสนอ “อันวาร์” เพิ่มผู้สังเกตุการณ์
"บิ๊กเล็ก" ลั่น! ทหารไทยต้องใช้ความอดทน หลังกัมพูชายั่วยุ อนุมัติจัดซื้อ "ยุทโธปกรณ์-กระสุน-โดรน" เพิ่มแล้ว ใช้วิธีพิเศษเจาะจง ไม่ช้าแน่นอน ปัดข้อเสนอ"อันวาร์"เพิ่มผู้สังเกตุการณ์
พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีทหารกัมพูชาแสดงความไม่พอใจ และ ขัดขวางขณะที่ไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวอาเซียน (ไอโอที) ลงพื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี โดยอ้างว่าไทยไม่แจ้งก่อน ว่า ไม่เป็นไร ต้องคุยกัน แต่ส่วนตัวยังไม่เห็นภาพที่เกิดขึ้น เพราะเพิ่งจะเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี แต่ก่อนหน้านี้เคยตกลงกันแล้วตั้งแต่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ว่าจะนำไอโอทีลงไป
ก่อนหน้านี้ ได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรี มาเลเซีย ระบุต้องการเพิ่มจำนวนคนไอโอที เพราะอัตรากำลังที่มี ไม่สามารถรองรับงานที่เพิ่มขึ้นได้ แต่ไทยไม่เห็นด้วย
ขอให้คงจำนวนเท่าเดิม และให้ใช้คนในสถานทูตไปก่อน
กรณีกัมพูชาอาจใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ยั่วยุกดดันหรือพังรั้วลวดหนามในอนาคต เตรียมรับมืออย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ต้องใช้ความอดทน พยายามไม่ให้เกิดการยั่วยุและใช้อาวุธ อย่างน้อยมีอาเซียนกำลังเฝ้าดูอยู่ ผ่านการใช้กลไกไอโอที
กรณีประชาชนเรียกร้องให้ล้อมรั้วลวดหนามถาวรกั้นชายแดน พล.อ.ณัฐพล ยอมรับ งบประมาณมีจำกัด จึงต้องพิจารณาเรียงลำดับความสำคัญ เช่น จะใช้งบประมาณเพื่อล้อมรั้ว หรือจะจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งการล้อมรั้วลวดหนาม ไม่ใช่การจัดทำรั้ว แต่เป็นเพียงแค่เครื่องกีดขวาง เพื่อช่วยแบ่งเบาภารกิจทหาร บริเวณชายแดนเท่านั้น
ที่ผ่านมาไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ชายแดนไทย -กัมพูชา แต่พื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซียในภาคใต้ ก็มีการขออนุมัติงบประมาณ แต่ก็ยังไม่เคยได้รับการจัดสรร สำหรับกองกำลังในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา มีการร้องขอหรือต้องการ อะไรเพิ่มเติมบ้าง พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ได้แจ้งขออาวุธยุทโธปกรณ์ กระสุน และ อากาศยานไร้คนขับ จึงประสานกับคณะรัฐมนตรี กระทรวงการคลังให้ใช้วิธีพิเศษเฉพาะเจาะจง
เพื่อให้สามารถจะหาได้ทันใช้งาน จะพยายามทำให้เร็วที่สุด ส่วนใหญ่เคยจัดซื้อมาแล้ว จึงไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด ยืนยันต้องเร่งรัดไม่ให้ล่าช้า และทุกภาคส่วนก็พร้อมสนับสนุน
ส่วนสามารถรับมือกับการใช้จิตวิทยาของกัมพูชาได้หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล ยืนยันว่าต้องพยายามไม่ให้เกิดการยั่วยุและใช้อาวุธ แต่เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพราะอย่างน้อยในอาเซียนกำลังเฝ้าดูกันอยู่ ผ่านการใช้กลไกไอโอที ซึ่งเราจะต้องไม่แสดงอาการว่าเป็นฝ่ายยั่วยุเสียเอง ต้องใช้ความอดทน แต่หากถึงจุดๆ หนึ่งก็ว่ากันอีกที
ส่วนกรณีผู้ช่วยทูตทหารที่ลงพื้นที่กับฝ่ายไทยก่อนหน้านี้ มีการตอบรับอย่างไรบ้างนั้น พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เขาเชื่อถือในข้อมูลของเรา จากที่ตนสังเกตเห็นได้อื่นในการประชุมจีบีซี สื่อมวลชนจากประเทศต่างๆ มมารอฟังการแถลงของเรา จากการปฏิบัติที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าเรามีเครดิตที่ดีกว่า
ส่วนกรณีที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมติให้ฟ้องร้องเอาผิดผู้นำกัมพูชา โดยใช้กลไกในประเทศ ซึ่งถูกมองว่าเป็นการใช้มาตรการที่เบาไป พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เป็นการเสนอกลไกทางกฎหมาย ในที่ประชุม สมช. โดยเป็นกลไกเริ่มต้นและคงจะมีอะไรเพิ่มเติมต่อไป แต่ตนไม่ขอให้รายละเอียดในกลไกด้านกฎหมาย เนื่องจากจะคลาดเคลื่อนได้
เมื่อถามว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการหารือถึงเรื่องการล้อมรั้วลวดหนามหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ไม่มี จากที่ได้ตรวจสอบจากหน่วยและพูดคุยกับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แนวลวดหนามที่วางไว้ไม่ใช่รั้ว เป็นเครื่องกีดขวางไม่ให้ทหารกัมพูชาเข้ามาวางทุ่นระเบิด โดยเฉพาะพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 เป็นเช่นนั้น ซึ่งขณะนี้เป็นการวางแนวในส่วนที่คิดว่าเขาจะเข้ามา
ส่วนจะมีการสร้างเป็นรั้วถาวรได้หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า หากตอบในระดับนโยบาย งบประมาณมีอยู่เพียงเท่านี้ จะทำรั้วก่อนหรือเตรียมความพร้อมรบก่อน เราต้องจัดลำดับความเร่งด่วน แต่หากทำไปพร้อมกัน งบประมาณไม่เพียงพออย่างแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมามีการของบประมาณในการสร้างรั้วพื้นที่ภาคใต้ แม่น้ำโกลก ซึ่งขอมานานแล้วแต่ยังไม่ได้ให้เขา แต่หากไปสร้างรั้วแนวชายแดนไทย-กัมพูชาก่อน ทางพื้นที่ภาคใต้จะตั้งคำถามว่าแล้วที่เขาขอล่ะ
พล.อ.ณัฐพล ยังกล่าวว่า ในส่วนของการจัดซื้อยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมนั้น ได้มีการประสานกับทาง ครม.และกระทรวงการคลังให้ใช้วิธีพิเศษเฉพาะเจาะจง ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถจัดหาได้ทัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews