ไปรษณีย์ไทยล้างแค้นเกมขนส่ง ครึ่งปี 68 ฟาดกำไร 631 ล้าน
ไปรษณีย์ไทยพลิกเกม! ครึ่งปี 68 ฟาดกำไร 631 ล้าน ล้างขาดทุนปีก่อน 187 ล้าน ประกาศยึดเบอร์ 1 ขนส่งไทย ดันแผน 1-4-2 ชนตลาดขนส่งโหด ลุย Super App ขยายฐานสู่โลกดิจิทัลเต็มสูบ
เมื่อวันที่ 18 ส.ค.68 ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ครึ่งปีแรกของปี 2568 ไปรษณีย์ไทยเดินเครื่องทำกำไรทะลุ 631.56 ล้านบาท จากรายได้รวม 11,544 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกลุ่มธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์เป็นหัวหอกหลัก สร้างรายได้กว่า 5,406 ล้านบาท หรือ 46.83% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 11.56% พร้อมปริมาณชิ้นงานขยับขึ้น 6% ถัดมาเป็นกลุ่มบริการไปรษณียภัณฑ์ 36.69% กลุ่มบริการระหว่างประเทศ 9.96% กลุ่มธุรกิจค้าปลีกและการเงิน 4.62% และกลุ่มธุรกิจอื่นๆ 1.89%
ผลประกอบการที่เติบโตแรงในปีนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ในปี 2567 ไปรษณีย์ไทยเคยขาดทุนถึง 187ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากรายจ่าย 3 รายการหลัก ได้แก่ 1.การปรับค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศจาก 375 บาท เป็น 400 บาท 2.การเสียภาษีจากการปรับมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น และ 3.การจ่ายค่าครองชีพพิเศษให้พนักงานระดับเงินเดือนน้อย เพื่อยกระดับรายได้ให้ได้มาตรฐานที่เหมาะสม
"ยอมรับว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซยังแข่งขันกันอย่างดุเดือด มีผู้เล่นไม่กี่รายที่แย่งชิงส่วนแบ่งกันเอง ขณะที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซบางรายก็มีการทำสัญญาผูกขาดกับบริษัทขนส่งจากต่างประเทศ เพื่อให้ร้านค้าใช้บริการของพาร์ทเนอร์เพียงรายเดียว ซึ่งเมื่อมีปริมาณการส่งมากก็สามารถทำราคาขนส่งได้ดีกว่าไปรษณีย์ไทย" ดร.ดนันท์ กล่าว
ดร.ดนันท์ กล่าวว่า ภายใต้โอกาสครบรอบ 142 ปี ไปรษณีย์ไทยได้เปิดเกมรุกด้วยยุทธศาสตร์ 1-4-2 โดย 1 หมายถึงการเป็นขนส่งอันดับ 1 ของคนไทย ครอบคลุมบริการรับฝาก-ส่งต่อ-นำจ่ายทั้งในและต่างประเทศ ผ่านเครือข่ายกว่า 50,000 แห่งทั่วไทย ชูคุณภาพบริการระดับมืออาชีพในทุก Touchpoint เสริมด้วยเทคโนโลยี AI ยกระดับสู่ Tech Post ซึ่งผลการสำรวจพบว่าแบรนด์ไปรษณีย์ไทยมีคะแนน Top of Mind สูงถึง 99.54% และความไว้วางใจในแบรนด์อยู่ที่ 96.11%
สำหรับ 4 พลัง ที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กร ประกอบด้วย 1.พลังความเร็ว บริการส่งด่วน EMS ยังครองแชมป์รายได้หลัก คิดเป็น 43.31% ของรายได้รวม 2.พลังเพื่อธุรกิจ ยกตัวอย่างบริการ THP Fulfillment ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้ประกอบการในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ 3.พลังเชื่อมโลก ขยายบริการครอบคลุม 205 ปลายทางใน 193 ประเทศทั่วโลก และ 4.พลังความล้ำ พัฒนา Digital Postbox และ D/ID สำหรับการรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ และระบบจ่าหน้าแบบดิจิทัล ซึ่งเตรียมเปิดตัวในเดือน ก.ย.68
2 แกนหลัก ที่เป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ขององค์กร คือ การเป็นผู้เชื่อมโยงความสัมพันธ์ และความสำเร็จของสังคมไทย โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจควบคู่กับความยั่งยืน 3 ด้าน ได้แก่
ด้านสิ่งแวดล้อม: นำรถ EV มาใช้ในงานปฏิบัติการ ดันแนวคิด Circular Economy ผ่านโครงการ Green Hub ร่วมกับโครงการ reBOX, reBAG, e-Waste ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 4,670 ตันคาร์บอนเทียบเท่า และปรับเปลี่ยนเครื่องแบบเจ้าหน้าที่เป็นผ้าลดคาร์บอน รวมทั้งหมดลดการปล่อยคาร์บอนได้ 53,360 กิโลกรัม หรือเท่ากับการขับรถรอบโลก 5 รอบ
ด้านสังคม: หนุนชุมชนเกษตรกว่า 1,200 แห่งผ่านแพลตฟอร์ม ThailandPostMart ครึ่งปีแรกทำรายได้ 360 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% คาดทั้งปีแตะ 760 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าบริการเพื่อสังคม (PSO) รวมกว่า 28,000 ล้านบาทตั้งแต่ปี 2554 และล่าสุดเปิดแคมเปญรับบริจาคสิ่งของช่วยชายแดนไทย-กัมพูชา มีของบริจาคกว่า 34,302 กล่อง น้ำหนักรวมกว่า 104 ตัน
ด้านธรรมาภิบาล: เน้นการบริหารโปร่งใส ตรวจสอบได้ ปี 2567 ได้คะแนน ITA ถึง 91.70 และได้รับรางวัล "ระบบบริหารจัดการความเสี่ยงการทุจริตระดับดีเยี่ยม"จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังเดินหน้าสร้างประสบการณ์ใหม่ผ่านแนวคิด POSTsible Together เป็นไปรฯ ได้ ไปรฯ ด้วยกัน โดยเตรียมเปิดตัว Super App ที่รวมทุกบริการไว้ในแอปเดียว ตั้งแต่ติดตามพัสดุ ไปจนถึงเชื่อมบริการรัฐและเอกชน พร้อมจับมือ Amazon ช่วย SME ไทยส่งสินค้าสู่คลัง Amazon FBA ในสหรัฐฯ
อีกหนึ่งหมากสำคัญ คือ การต่อยอดสู่ Specialized Logistics เช่น ขนส่งสินค้ากลุ่มสัตว์เลี้ยง สินค้ามูลค่าสูง และน้ำนมแม่ ขณะเดียวกัน ก็เร่งพัฒนาด้าน e-Payment รองรับการชำระ COD และผนึกพันธมิตร เช่น กรมการขนส่งทางบก ทิพยประกันภัย WeChat Pay และ Alipay เพื่อขยายทางเลือกให้หลากหลายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยเตรียมแปลงข้อมูล Big Data สู่ Data as a Service เพื่อสร้างรายได้เชิงพาณิชย์ในปี 2569 ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกสำหรับพัฒนาบริการเฉพาะกลุ่มและตอบโจทย์ธุรกิจไทยในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO