ผู้ใหญ่บ้านแจงแล้ว หลังโดนร้องเรียกเก็บค่าลงทะเบียนเยียวยาเหตุปะทะ
ชาวบ้านคาใจผู้ใหญ่บ้านเรียกเก็บค่าลงทะเบียนรับเงินเยียวยาอพยพหนีปะทะชายแดน ล่าสุดผู้ใหญ่แจงแล้วเป็นค่าถ่ายเอกสาร
วันที่ 13 ส.ค.68 ชาวบ้านแนวชายแดนหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในตำบลหนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้ออกมาร้องเรียนให้ตรวจสอบ กรณีที่ผู้ใหญ่บ้านเรียกเก็บค่าเอกสารในการลงทะเบียนรับเงินเยียวยา ครอบครัวละ 20 บาท ซึ่งชาวบ้านคาใจว่าทำไมไม่ใช้เงินกองกลางของหมู่บ้าน แล้วจากการสอบถามหมู่บ้านอื่นทำไมถึงไม่มีการเรียกเก็บ จึงอยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง
โดยชาวบ้านที่ออกมาร้องเรียนบอกว่าเงิน 20 บาท อาจจะดูไม่มาก แต่ช่วงที่ต้องอพยพหนีการสู้รบไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงกว่า 2 สัปดาห์ ก็ไม่ได้ทำงานไม่มีรายได้เข้าครอบครัวเลย แต่กลับมาถูกเรียกเก็บมันก็กระทบกับความรู้สึกเหมือนเป็นการซ้ำเติมผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งความเป็นจริงแล้วผู้นำหรือทางราชการควรจะอำนวยความสะดวกหรือดูแลผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในภาวะวิกฤตแบบนี้ ทั้งที่ตอนนี้ชาวบ้านก็ยังกังวลกับสถานการณ์และเครียดที่ไม่ได้ทำมาหากิน
น.ส.เอ และบี (นามสมมติ) ชาวบ้านในหมู่บ้าน บอกว่า ช่วงที่เกิดเหตุปะทะที่ชายแดนต้องพาครอบครัวลูกหลานอพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงกว่า 2 สัปดาห์ ก็ไม่มีใครได้ทำมาหากินเลย แม้ทางศูนย์ฯจะดูแลอย่างดี แต่ก็ไม่มีรายได้เข้าครอบครัวเลย พอรัฐบาลมีการเจรจาหยุดยิงก็พากันทยอยกลับเข้าบ้าน แล้วผู้ใหญ่บ้านก็ประกาศให้ไปลงทะเบียนเพื่อรับเงินเยียวยาของ พม.ครัวเรือนละ 3,000 บาท ชาวบ้านก็พากันไปลงทะเบียน แต่ทางผู้ใหญ่บ้านและกรรมการหมู่บ้านฯ ที่ตั้งโต๊ะให้บริการลงทะเบียน บอกว่าต้องมีค่าถ่ายเอกสารครัวเรือนละ 20 บาท ก็จำเป็นต้องจ่ายเพราะอยากได้เงินเยียวยา เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีใครได้ทำงานเลย แต่แค่แปลกใจว่าทำไมถึงไม่ใช้เงินกองกลางของหมู่บ้าน แล้วทำไมหมู่บ้านอื่นถึงไม่มีการเรียกเก็บ ที่ออกมาร้องเรียนไม่ได้จะกล่าวหาหรือให้ร้ายผู้นำ แต่ก็อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเก็บค่าอะไร แล้วสมควรจะต้องเก็บหรือไม่
ขณะที่นายชัย ชาวบ้านอีกคน กลับเห็นต่างว่าเห็นใจผู้ใหญ่บ้านและกรรมการหมู่บ้านที่เขาทำงานและอำนวยความสะดวกให้กับคนในหมู่บ้าน เขาไม่ได้เรียกเก็บค่าลงทะเบียน แต่บอกว่าเป็นค่าถ่ายเอกสาร ค่าหมึก ปากกาในการกรอกข้อมูล ซึ่งเขาต้องลงทุนเอง ตนจึงมองว่ามันเป็นสินน้ำใจที่เขาดูแลอำนวยความสะดวกให้ชาวบ้าน ส่วนครอบครัวตนก็ไม่ได้จ่าย 20 บาท จ่ายไปแค่ 10 บาทเท่านั้น ก็อยากให้เห็นใจซึ่งกันและกัน
จากนั้นทีมข่าวก็ได้ไปสอบถาม ผู้ใหญ่บ้าน ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการเรียกเก็บค่าเอกสารลงทะเบียนรับเงินเยียวยา ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็ชี้แจงว่า หลังจากตนได้รับคำสั่งให้ทำการสำรวจลงทะเบียน ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะที่เกิดขึ้น เพื่อรับเงินเยียวยาจากทาง พม.ครัวเรือนละ 3,000 บาท ตนกับผู้ช่วย และกรรมการหมู่บ้านก็ทำการตั้งโต๊ะให้บริการชาวบ้านในการลงทะเบียน เพื่อเร่งรวบรวมเอกสารส่งให้ทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับเงินเยียวยา ยืนยันว่าไม่ได้มีการเรียกเก็บเงินค่าลงทะเบียนแต่อย่างใด แต่เนื่องจากภรรยาและลูกสาวของตนเองเปิดร้านถ่ายเอกสารและรับปริ้นงาน จึงสอบถามชาบ้านว่าถ้าใครไม่ได้ถ่ายเอกสารมาก็สามารถถ่ายเอกสารที่ร้านได้ ภรรยาก็เก็บตามราคาที่ถ่ายเอกสาร เพราะมีต้นทุนทั้งเครื่องและหมึกในการถ่าย ซึ่งบางคนก็จ่ายบางคนบอกไม่มีเงินก็ไม่ได้จ่าย ก็อำนวยความสะดวกให้ ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไปร้องว่าเป็นการเรียกเก็บค่าลงทะเบียน ก็อยากให้เห็นใจและให้ความเป็นธรรมกับคนทำงานด้วย