2 ฉากทัศน์ รอด-ไม่รอด คดีคลิปเสียงแพทองธาร
ความเป็นไปได้ทางการเมืองถูกแยกออกเป็น 2 เส้นทางหลัก ขึ้นอยู่กับผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีคำร้องกรณีคลิปเสียงสนทนาของ แพทองธาร ชินวัตร และ สมเด็จฮุน เซน จะเป็นอย่างไร หลังการไต่สวนครั้งสุดท้ายในวันที่ 21 สิงหาคม และนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม ย่อมนำมาสู่จุดพลิกผันของสถานการณ์การเมืองไทย
ฉากทัศน์แรก หากนายกรัฐมนตรีถูกวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง จะเกิดสุญญากาศของอำนาจบริหาร ตลอดจนความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลจะลดน้อยถอยลง จำเป็นต้องเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มีอยู่ เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบโดยเร็ว
เวลานี้ แม้ ‘ชัยเกษม นิติสิริ’ ยังเป็นตัวเลือกเดียวที่เหลืออยู่ของพรรคเพื่อไทย และเป็นตัวเต็งจะรั้งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีต่อไป แต่ด้วยเสียง สส. ฝ่ายรัฐบาลที่ปริ่มน้ำ ผลการลงมติอาจไม่ราบรื่นดังที่คาดไว้
ฉากทัศน์ต่อมา หากนายกรัฐมนตรีพ้นผิด และได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ต่อ ก็จะเป็นเวลาเร่งทำงานแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ โดยเฉพาะสถานการณ์ด้านความมั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมกับนับถอยหลังวาระของรัฐบาล เพื่อปูทางสู่การเลือกตั้งในปี 2570 หากไม่มีการตัดสินใจยุบสภาไปก่อนหน้านั้น
นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์กันว่า ผลการไต่สวนต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 21 สิงหาคม ของนายกรัฐมนตรี รวมถึงปัจจัยอื่นๆ หลังจากวันนั้น จะถูกนำมาพิจารณาว่า นายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ และหากเกิดขึ้นจริงก่อนวันอ่านคำวินิจฉัย ย่อมมีโอกาสที่ศาลรัฐธรรมนูญอาจจำหน่ายคดีดังกล่าวไปด้วย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ต่อนายกรัฐมนตรีติดตัวไปในอนาคต
ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย