จีน – รัสเซีย กับการปักธงสร้างระเบียบโลกใหม่ ขับเคลื่อนโลกหลายขั้ว สร้างสมดุลใหม่ทางภูมิรัฐศาสตร์
(2 ก.ย. 68) การประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization – SCO) ประจำปี 2025 ที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม – 1 กันยายน 2025 มิใช่เพียงเวทีทางการทูตเชิงพิธีการ หากแต่เป็นการประกาศการก่อรูปของระเบียบโลกใหม่ที่ท้าทายอำนาจนำของตะวันตก ท่ามกลางสงครามในยุโรปตะวันออกและการแข่งขันระหว่างจีน–สหรัฐฯ การจับมือระหว่าง สี จิ้นผิง และ วลาดิมีร์ ปูติน จึงมีความหมายทางภูมิรัฐศาสตร์เกินกว่าการพบปะตามปกติจีนในฐานะเจ้าภาพ ใช้ SCO ผลักดันแนวคิด “การปกครองโลกแบบใหม่” บนพื้นฐานความร่วมมือพหุภาคี ปฏิเสธ “แนวคิดสงครามเย็น” พร้อมชูความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และความมั่นคง โดยมีรัสเซียเป็นพันธมิตรยุทธศาสตร์ที่คอยยืนยันว่าโลกกำลังเข้าสู่ยุค “หลายขั้วอำนาจ” ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของประเทศใน Global South ที่แสวงหาทางเลือกนอกเหนือจากการนำของสหรัฐและพันธมิตรตะวันตก ในบริบทที่ความสัมพันธ์จีน–สหรัฐฯ ร้าวลึกและรัสเซียถูกกดดันจากสงครามยูเครน SCO กลายเป็นเวทีที่ทั้งสองประเทศใช้แสดงบทบาทนำและส่งสัญญาณว่าระเบียบโลกขั้วเดียวกำลังเสื่อมถอย การเข้าร่วมของอินเดีย ปากีสถาน อิหร่าน และประเทศเอเชียกลาง ยังสะท้อนว่า SCO มิใช่เพียงพันธมิตรจีน–รัสเซีย แต่เป็นเวทีรวมพลังของรัฐกำลังพัฒนาที่ต้องการสมดุลใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้น SCO Summit 2025 จึงเป็นมากกว่าการประชุมระดับภูมิภาค แต่เป็นจุดตัดสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่โลกหลายขั้วอำนาจ และเป็นการปักธงประกาศของจีนและรัสเซียว่าพวกเขาไม่เพียงอยู่รอดท่ามกลางแรงกดดัน แต่ยังพร้อมจะขับเคลื่อนระเบียบโลกใหม่ที่ต่างไปจากเดิม
การประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ประจำปี 2025 ที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน ได้รับความสนใจจากสื่อและนักวิเคราะห์ต่างประเทศในหลายมิติ เนื่องจากมีผู้นำจากประเทศต่าง ๆ ตอบรับเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ประกอบด้วยผู้นำประเทศสมาชิก 10 ประเทศ ได้แก่ จีน รัสเซีย อินเดีย เบลารุส อิหร่าน คาซัคสถาน คีร์กิซสถาน ปากีสถาน ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน ผู้นำมองโกเลีย รัฐสังเกตการณ์ ผู้นำประเททศคู่เจรจา 7 ประเทศได้แก่ ตุรกี กัมพูชา อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน อียิปต์ มัลดิฟส์ และเนปาล รวมถึงผุ้นำอื่น ๆ ที่ได้รับเชิญได้แก่ เลขาธิการองร์การสหประชาชาติ เลขาธิการอาเซียน ผู้นำประเทศเติร์กเมนิสถาน อินโดนีเซีย สปป.ลาว มาเลเซีย และเวียดนาม ประเด็นสำคัญของการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ประจำปี 2025 มีสาระสำคัญที่น่าจับตาดังนี้
1. ความสัมพันธ์จีน–รัสเซีย–อินเดีย การพบปะระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียในงานนี้ได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะท่าทีของอินเดียที่แสดงความเป็นพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทั้งจีนและรัสเซีย แม้จะมีความตึงเครียดในบางประเด็น เช่น ความขัดแย้งเรื่องพรมแดนกับจีนและความสัมพันธ์กับปากีสถาน อย่างไรก็ตามการพบปะกันระหว่างผู้นำสามชาติข้างต้นเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นระหว่างสามประเทศที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชียและยูเรเชีย แม้จะมีความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจที่ต้องเผชิญร่วมกัน
2. SCO ถูกมองว่าเป็นเวทีที่จีนและรัสเซียใช้ในการส่งเสริมระเบียบโลกหลายขั้วอำนาจ โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เสนอแนวคิด "Global Governance Initiative" (GGI) ซึ่งเน้นการปฏิเสธระเบียบโลกแบบสงครามเย็นและส่งเสริมการสร้างระเบียบโลกใหม่ที่มีความเป็นธรรมและครอบคลุม โดยมีหลักการสำคัญดังนี้ 1. ความเสมอภาคและการเคารพอธิปไตยของประเทศต่าง ๆ สี จิ้นผิงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเคารพอธิปไตยของประเทศต่าง ๆ และการไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกัน โดยเฉพาะในบริบทของการพัฒนาและการเลือกเส้นทางการพัฒนาของแต่ละประเทศ 2. การส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรม จีนสนับสนุนการแลกเปลี่ยนและการเรียนรู้ระหว่างอารยธรรมต่าง ๆ โดยไม่พยายามบังคับใช้ค่านิยมของตนกับประเทศอื่น ๆ แต่ให้ความสำคัญกับการเคารพและเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม 3. การสร้างสังคมร่วมกันที่มีอนาคต (Community of Shared Future) จีนเสนอแนวคิดการสร้างสังคมร่วมกันที่มีอนาคต ซึ่งเน้นการร่วมมือและการพัฒนาร่วมกันของประเทศต่าง ๆ เพื่อสร้างสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน 4. การส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่าง ๆ จีนมุ่งหวังที่จะส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เช่น เศรษฐกิจ เทคโนโลยี และความมั่นคง โดยเฉพาะในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้างความก้าวหน้าและความมั่นคงร่วมกันในระดับโลก แนวคิด GGI นี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการสร้างระเบียบโลกใหม่ที่ไม่ยึดตามอำนาจของประเทศเดียว แต่เน้นการร่วมมือและความเสมอภาคของประเทศต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดอื่น ๆ ที่จีนได้เสนอในช่วงที่ผ่านมา เช่น Global Development Initiative (GDI) และ Global Security Initiative (GSI) การเสนอแนวคิด GGI ในที่ประชุม SCO Summit 2025 เป็นการส่งสัญญาณถึงความมุ่งมั่นของจีนในการเป็นผู้นำในการสร้างระเบียบโลกใหม่ที่มีความเป็นธรรมและครอบคลุม โดยเฉพาะในบริบทของความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการแข่งขันระหว่างประเทศต่าง ๆ ในปัจจุบัน นอกจากนี้จีนยังได้เสนอแนวคิดเรื่องการสร้างธนาคารพัฒนา SCO และระบบการเงินทางเลือกเพื่อลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตามความหลากหลายของสมาชิก SCO ซึ่งมีทั้งประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตะวันตกและประเทศที่ถูกคว่ำบาตรจากตะวันตก เช่น อิหร่านและเบลารุส ทำให้การสร้างความเป็นเอกภาพในกลุ่มนี้เป็นเรื่องที่ท้าทาย
3. การสนับสนุนของรัสเซียต่อระเบียบโลกหลายขั้ว รัสเซียใช้ SCO เป็นเวทีสำคัญในการยืนยันบทบาทในภูมิภาคเอเชีย–ยูเรเชียและส่งเสริม ระเบียบโลกหลายขั้ว (Multipolar World Order) โดยเน้นความร่วมมือกับจีนและสมาชิก Global South ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเงิน ความมั่นคง และเทคโนโลยี ผ่านการสร้างระบบการชำระเงินทางเลือก โครงการลงทุนร่วม การประสานงานทางทหาร และพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ การเคลื่อนไหวเหล่านี้ไม่เพียงช่วยเสริมความมั่นคงและเสถียรภาพของรัสเซียท่ามกลางแรงกดดันจากตะวันตก แต่ยังส่งสัญญาณเชิงยุทธศาสตร์ไปยังสหรัฐฯ และยุโรปว่า รัสเซียพร้อมมีบทบาทนำร่วมกับจีนและสมาชิก SCO ในการกำหนดทิศทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก
4. การเข้าร่วมของประเทศใหม่และการขยายตัวของ SCO การเข้าร่วมของประเทศใหม่ เช่น สปป.ลาว ทำให้จำนวนสมาชิกและพันธมิตรของ SCO เพิ่มขึ้นเป็น 27 ประเทศ การขยายตัวนี้สะท้อนถึงความสำคัญของ SCO ในฐานะเวทีความร่วมมือระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่ไม่ขึ้นอยู่กับตะวันตก การรวมตัวของสมาชิกจากเอเชียใต้ เอเชียกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ช่วยสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนเป็นสัญลักษณ์เชิงยุทธศาสตร์ที่ส่งข้อความว่าโลกหลายขั้วกำลังเกิดขึ้นจริง และ SCO กำลังกลายเป็นเวทีรวมพลังของจีน รัสเซีย และ Global South ในการสร้างสมดุลอำนาจระหว่างประเทศ
5. บทบาทของ Global South และการปรับสมดุลอำนาจ การเข้าร่วมของประเทศกำลังพัฒนา หรือ Global South เช่น อินเดีย ปากีสถาน อิหร่าน สปป.ลาว และประเทศในเอเชียกลาง ทำให้ SCO กลายเป็นเวทีที่สะท้อนเสียงของประเทศนอกขั้วอำนาจตะวันตก และเปิดโอกาสให้พวกเขามีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรฐานทางเศรษฐกิจ การค้า และความมั่นคง การรวมตัวนี้ยังช่วยปรับสมดุลอำนาจระหว่างมหาอำนาจ โดยจีนและรัสเซียทำหน้าที่เป็นขั้วหลักร่วมกับ Global South ส่งสัญญาณไปยังสหรัฐฯ และยุโรปว่าระเบียบโลกแบบขั้วเดียวไม่ใช่ทางเลือกเดียว อีกทั้งยังสร้าง อัตลักษณ์ร่วมและความร่วมมือแบบพหุภาคี ของประเทศกำลังพัฒนา ทำให้ SCO กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างโลกหลายขั้วอำนาจที่มีความสมดุล ยืดหยุ่น และเปิดโอกาสให้ประเทศกำลังพัฒนามีบทบาทนำในภูมิภาคและระดับโลก
6. การตอบสนองของสหรัฐฯ และการเปลี่ยนแปลงในภูมิรัฐศาสตร์โลก สหรัฐฯ ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของจีนและอินเดียในการสนับสนุนรัสเซีย โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ ซึ่งอาจช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับรัสเซียในการทำสงคราม อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนมองว่า การดำเนินนโยบายที่ไม่แน่นอนของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการขึ้นภาษีสินค้าจากอินเดีย อาจส่งผลให้ประเทศต่างๆ หันมาหาพันธมิตรใหม่ เช่น จีน และ SCO
บทสรุป การประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ประจำปี 2025 ที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน ไม่เพียงเป็นเวทีทางการทูตประจำปี แต่ยังสะท้อน พลวัตการเปลี่ยนแปลงของระเบียบโลกในศตวรรษที่ 21 ผ่านความร่วมมือระหว่างจีนและรัสเซีย ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และเทคโนโลยี จีนใช้เวที SCO ผลักดันแนวคิด Global Governance Initiative (GGI) เพื่อสร้างระเบียบโลกใหม่ที่มีความเป็นธรรม ครอบคลุม และเคารพอธิปไตยของประเทศต่าง ๆ ขณะเดียวกัน รัสเซียเน้นบทบาทของ SCO ในการสร้าง สมดุลโลกหลายขั้วอำนาจ ท่ามกลางความตึงเครียดกับสหรัฐและยุโรป SCO ยังสะท้อนถึง ความร่วมมือของประเทศกำลังพัฒนาและ Global South โดยการเชื่อมโยงจีน รัสเซีย และเอเชียกลางเข้าด้วยกัน ทำให้เวทีนี้กลายเป็นเครื่องมือทางยุทธศาสตร์ที่ส่งสัญญาณไปยังโลกตะวันตกว่า ระเบียบโลกแบบตะวันตกไม่ใช่ทางเลือกเดียวในมิติเชิงภูมิรัฐศาสตร์ การประชุม SCO Summit 2025 จึงเป็นทั้ง การปักธงนำโลกใหม่ของจีน–รัสเซีย และการสร้างอัตลักษณ์ร่วมของประเทศสมาชิกในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง ความร่วมมือเชิงเศรษฐกิจ การเมือง และเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใน SCO จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางระเบียบโลกหลายขั้วอำนาจต่อไปในอนาคต