โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

“ภูมิธรรม”ขอให้พรรคประชาชนลืมเรื่องเก่า ๆ ไป! แล้วมาร่วมตั้งรัฐบาลด้วยกัน

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • ข่าวเวิร์คพอยท์

(1 ก.ย. 68) ที่กระทรวงมหาดไทยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงสถานการณ์การจับขั้วรัฐบาลในขณะนี้ว่า ตอนนี้พรรคเพื่อไทยได้รับมอบหมายจากพรรคร่วมรัฐบาล ดำเนินการให้จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเมื่อวานนี้ตนก็ได้เดินทางไปที่พรรคประชาชน ถึงแม้จะอดีตจะมีเรื่องไม่พอใจกันบ้างแต่ถือว่าเป็นการทำงาน ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อไปถึงก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นถึงแม้จะไม่มีผู้บริหารมาต้อนรับก็ตาม

ส่วนในการประชุมตนเองก็แสดงการขอบคุณที่พวกเราได้มีโอกาสมานั่งร่วมประชุม โดยผลจากการประชุมประเด็นที่หนึ่งตนเองรับข้อเสนอจากพรรคประชาชนหมดทุกเรื่อง ในเฉพาะเรื่องที่ตรงกัน โดยพรรคประชาชนก็ถามกลับมาว่าเรื่องที่เสนอเป็นอย่างไร โดยตนเองก็ตอบว่าในเรื่องการใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 ก็ไม่ติดปัญหาอะไร หัวใจสำคัญเสนอให้มีการเลือกรัฐธรรมนูญใหม่ ผ่านกระบวนการ สสร .ซึ่งตนเองก็เห็นด้วย ส่วนเรื่อง MOU 43 และ MOU44 ตนเองไม่มีอะไรที่ขัดข้อง และเรื่องทำไมต้องหยิบเอาเรื่องของเขากระโดงและเรื่อง ฮั้ว สส. มา เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมตนเองก็บอกว่ายอมรับได้

ส่วนเมื่อเช้าที่ผ่านมาตนเองได้เห็นตัวแทนของพรรคประชาชนออกมาพูดว่า ใครจะอยู่ในการควบคุมได้มากที่สุดนั้นไม่ถูกต้อง แต่ควรจะเป็นที่สิ่งที่เสนอมาใครจะสามารถทำตามข้อตกลงให้ดีมากที่สุด ซึ่งพรรคประชาชนให้ความสนใจกับพรรคภูมิใจไทย โดยตนเองมองว่าการที่จะปล่อยให้พรรคภูมิใจไทยมาเป็นหัวหน้ารัฐบาล 4 เดือนก่อนจะมีการเลือกตั้งนั้น จะทำให้เรื่องของเขากระโดงจะกลับไปเป็นแบบเดิมหรือไม่ และ ฮั้ว สว. กำลังเข้าสู่กระบวนการจับกุมแต่ยังติดอยู่ ใน กกต. โดย 2 เรื่องนี้ ตนเองคิดว่าเป็นหัวใจสำคัญแต่อย่าให้มีอะไรเข้ามาแทรกแซง

แต่ตนเองก็เคารพการตัดสินใจของพรรคประชาชน แต่หัวใจของเรื่องรัฐธรรมนูญใครจะเป็นคนทำได้มากกว่ากัน เพราะที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยยืนยันในเรื่องนี้มาตลอดแต่มีปัญหาอยู่ในเรื่องของบางมาตราเท่านั้นเอง แต่กระบวนการที่เราได้ยกมือกันแล้วกว่าจะไปและไปจบที่กระบวนการที่ สสร.ปฏิเสธใครเป็นผู้มีบทบาทในการตัดสินใจและควบคุม สว. ซึ่งเรื่องนี้อยากฝากให้เอาไปคิด และอีกเรื่อง จากทั้งหมดที่ตนกล่าวมาแล้วและยังจะให้พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะมีหลักประกันอะไรที่พรรคประชาชนต้องตอบในสองเรื่องนี้ และจะควบคุมให้เกิดขึ้นได้จริงๆอย่างไรในเมื่อฝ่ายพรรคประชาชน ไม่ได้เข้ามานั่งเป็นรัฐมนตรี

ฉะนั้นอีกฝ่ายก็ทำได้ง่ายจะรออภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่ทัน เพราะอำนาจที่จะเสนอให้ยุบสภาก็เป็นอำนาจของพรรคภูมิใจไทยเป็นฝ่ายกราบบังคมทูล และเรื่องทั้งหมดนี้ก็คือประเด็นสำคัญและก็อย่าไปเบี่ยงประเด็นว่า พรรคไหนเสียงจะมากเสียงน้อยหรือพรรคภูมิใจไทยเสียงน้อยกว่าควบคุมได้ สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ส่วนพรรคเพื่อไทยที่เคยบาดหมางกันนั้นตนต้องบอกว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันในข้อตกลงมาตลอด การที่บอกว่าพรรคเพื่อไทยบิดพลิ้วหรือตระบัดสัตย์นั้น 2 ครั้งพรรคเสนอชื่อนายพิธา ล้วนเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และสมาชิกของพรรคเพื่อไทยยกมือสนับสนุนให้ทั้งหมด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือคุณบอกเราว่า สว. จะเลือกได้แต่ก็ไม่ได้ และประเด็นสุดท้ายที่คุณเสนอเราว่าขอเวลา 10 เดือน ซึ่งเราได้ประกาศชัดเจนแล้วว่าประเทศรอไม่ได้ เพราะฉะนั้นวันนี้จึงอยากที่จะร่วมมือกัน ขอให้ลืมเรื่องเก่า ๆ ไปและมาร่วมตั้งรัฐบาลด้วยกัน

สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ทุกคนยอมรับแล้วว่าประเทศปล่อยแบบนี้ไม่ได้ ที่จะให้พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้าน 360 เสียง โดยมีฝ่ายรัฐบาล 143 เสียง ไม่มีประเทศไหนในโลกที่เขาเจรจาด้วยเพราะไม่มีความเชื่อมั่นโดยทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับอำนาจของพรรคประชาชน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายภูมิธรรม ถึงกรณีที่พรรคประชาชนอาจตัดสินใจเลือกพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทยจะเลือกเป็นฝ่ายค้านหรือตัดสินใจยุบสภา

นายภูมิธรรมตอบว่า “ยังไม่ต้องไปพูดถึงว่าจะตัดสินใจเป็นฝ่ายค้านหรือยุบสภา เราเสนอประเด็นให้ท่านตัดสินใจ ถ้าท่านจะเลือกพรรคภูมิใจไทยก็เป็นสิทธิ์ของท่าน ท่านทำได้ ผมเองก็มีกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ ที่ต้องหาทางออกหลายทางที่เป็นไปได้ อันนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและสถานการณ์ ขอเพียงให้ชัดว่าจะสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคเพื่อไทย และหากมีข้อกังวลอะไรก็บอกมาให้ชัด ว่าจะหาทางป้องกันอย่างไร”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กระบวนการที่พรรคเพื่อไทยคิดไว้ ตอนนี้ หมายความว่าปลายทางจะไม่เป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า “ยังไม่ได้มีการตัดสินใจ มีแต่เพียงว่าอยากร่วมกันตั้งรัฐบาล โดยให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำและจะดำเนินการตามนั้น เราไม่ต้องมีนโยบายเยอะ นโยบายมีเรื่องวาระแห่งชาติ ซึ่งต้องเปลี่ยนแปลงสภาพการเมืองที่ผิดเพี้ยนแบบนี้ ให้มีการรีเซตใหม่ และไปแก้รัฐธรรมนูญ”

เมื่อถามว่า ในฐานะที่ยังเป็นรัฐบาลเดิม และยังรักษาการอยู่ คิดว่าการจับขั้วและให้ได้นายกรัฐมนตรีใหม่ควรต้องใช้เวลาเร็วที่สุดเมื่อใด นายภูมิธรรมตอบว่า “เร็วที่สุดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น อยากให้ได้โดยเร็ว เพราะปล่อยแบบนี้รัฐบาลเหมือนเป็นง่อย ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้อยู่ที่พรรคประชาชนต้องตัดสินใจให้รอบคอบ เพราะการตัดสินใจครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญ พรรคประชาชนยังไม่เคยเลือกนายกจากนอกพรรค ถ้าจะประเดิมที่พรรคภูมิใจไทย ต้องมีหลักประกันว่าประเทศจะไม่เสียหาย”

ทีมข่าวถามต่อว่า พรรคเพื่อไทยจะสร้างหลักประกันหรือความมั่นใจอย่างไรให้พรรคประชาชน นายภูมิธรรมกล่าวว่า “ก็เป็นหน้าที่ที่พรรคประชาชนต้องถามมา ตนก็รอให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าวันนี้ยังไม่มีคำตอบชัดเจนให้กับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า “ไม่ทราบ เขาบอกว่ากลไกโครงสร้างเยอะ ต้องถามจากหลายส่วน แต่ไม่เป็นไรเนื่องจากวันนี้จะมีประชุม แต่จะมีคำตอบหรือไม่ยังไม่แน่ใจ อาจจะมีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ซึ่งผมก็บอกว่าไม่เป็นไร ใช้เวลาให้เต็มที่ แต่ถ้าเสร็จแล้วให้แจ้งเราด้วย เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป”

ทีมข่าวยังสอบถามต่อว่า นอกจากพรรคประชาชนแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลที่ยังทำงานร่วมกันอยู่จะยังคงเหมือนเดิมหรือไม่ เพราะอย่างพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวานนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะเดินหน้าต่อหรือไม่ การออกมาแถลงข่าวก็เป็นเพียงมารยาททางการเมืองเท่านั้น

นายภูมิธรรมชี้แจงว่า “ผมว่าเขาไม่ได้พูดแบบนั้นนะครับ เขาเพียงบอกว่าตอนนี้เรายังร่วมกันอยู่ ส่วนการตัดสินใจสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งเราเคารพอยู่แล้ว เพราะทุกพรรคต้องพิจารณาบนสถานการณ์ทางการเมือง”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...