โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

"เครื่องซูวีด์" คืออะไร? ไขข้อสงสัยจากรายการทำอาหาร

sanook.com

เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • Sanook
ทำความรู้จักกับ เครื่องซูวีด์ ตั้งแต่หลักการทำงาน ไปจนถึงประโยชน์ที่แตกต่าง ซึ่งจะทำให้คุณเข้าใจว่าทำไมอุปกรณ์ชิ้นนี้ถึงเป็นที่นิยมในหมู่เชฟและนักทำอาหารมืออาชีพ

หากคุณเป็นคนที่ชอบดูรายการทำอาหาร หรือแม้แต่ติดตามข่าวสารในวงการอาหาร คงจะเคยเห็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่หน้าตาคล้ายเครื่องทำความร้อนแบบแท่ง ที่เชฟนิยมใช้ในการทำสเต็กหรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ อุปกรณ์ที่ว่านี้ก็คือ เครื่องซูวีด์ (Sous Vide Machine) นั่นเอง แม้ชื่อจะฟังดูซับซ้อน แต่แท้จริงแล้วหลักการทำงานของมันนั้นง่ายและชาญฉลาด Sanook จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ เครื่องซูวีด์ ตั้งแต่หลักการทำงาน ไปจนถึงประโยชน์ที่แตกต่าง ซึ่งจะทำให้คุณเข้าใจว่าทำไมอุปกรณ์ชิ้นนี้ถึงเป็นที่นิยมในหมู่เชฟและนักทำอาหารมืออาชีพ

ซูวีด์คืออะไร? หลักการทำงานง่ายๆ ที่แม่นยำ

ซูวีด์ (Sous Vide) เป็นภาษาฝรั่งเศสที่มีความหมายว่า "ภายใต้สุญญากาศ" ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเทคนิคการปรุงอาหารชนิดนี้

  • หลักการทำงาน: คือการนำอาหารที่ต้องการปรุง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ผัก หรือไข่ ไปใส่ในถุงสุญญากาศหรือถุงซิปล็อกที่ไล่อากาศออกจนหมด จากนั้นนำไปจุ่มในอ่างน้ำที่ควบคุมอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำและคงที่ตามที่กำหนดไว้เป็นเวลานาน

  • ทำไมซูวีด์จึงให้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ?:

  • ความแม่นยำของอุณหภูมิ: เครื่องซูวีด์ จะทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิน้ำให้คงที่ตลอดเวลา เช่น หากคุณต้องการสเต็กเนื้อมีเดียมแรร์ (Medium Rare) ที่อุณหภูมิ 55 องศาเซลเซียส เครื่องจะรักษาน้ำให้อยู่ที่อุณหภูมินั้นเป๊ะ ๆ ทำให้เนื้อไม่สุกเกินไปอย่างแน่นอน

    • ความสม่ำเสมอในการปรุง: ความร้อนจากน้ำจะถ่ายเทไปยังอาหารในถุงอย่างทั่วถึง ทำให้เนื้อสัตว์สุกเท่ากันทั้งชิ้น ตั้งแต่ขอบนอกไปจนถึงแกนกลาง ซึ่งเป็นสิ่งที่การทอดในกระทะหรือย่างทำได้ยาก
    • คงความชุ่มฉ่ำของอาหาร: การที่อาหารอยู่ในถุงสุญญากาศช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและรสชาติทั้งหมดไว้ภายใน ทำให้อาหารที่ปรุงสุกมีความฉ่ำ นุ่ม และอร่อยอย่างเป็นธรรมชาติ

เครื่องซูวีด์ ทำงานอย่างไร? ขั้นตอนง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้

การใช้ เครื่องซูวีด์ นั้นมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก

  • ขั้นตอนที่ 1: การเตรียมอาหารและซีล:

  • เริ่มจากนำอาหารที่ต้องการปรุง เช่น สเต็กเนื้อ มาปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย หรือสมุนไพรตามต้องการ

    • จากนั้นนำไปใส่ในถุงสุญญากาศแล้วใช้เครื่องซีล หรือหากไม่มีเครื่องซีลก็สามารถใช้ถุงซิปล็อกแล้วใช้วิธีไล่อากาศออกด้วยการค่อย ๆ จุ่มลงในน้ำ
  • ขั้นตอนที่ 2: การปรุงในอ่างน้ำ:

  • ติดตั้ง เครื่องซูวีด์ เข้ากับขอบภาชนะที่มีน้ำ (เช่น หม้อหรืออ่างพลาสติก) แล้วตั้งอุณหภูมิและเวลาตามชนิดของอาหารที่ต้องการ

    • เมื่อน้ำได้อุณหภูมิที่กำหนดแล้ว ให้นำถุงอาหารลงไปแช่ในน้ำได้เลย
  • ขั้นตอนที่ 3: การจบงาน (Searing):

  • หลังจากที่อาหารปรุงสุกในเครื่องซูวีด์แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการนำไป "จบงาน" ด้วยการจี่หรือทอดในกระทะที่ร้อนจัดเป็นเวลาสั้น ๆ

    • การทำเช่นนี้จะช่วยสร้างสีสันและผิวสัมผัสที่น่ารับประทานให้กับอาหาร เช่น เนื้อสเต็กจะมีสีน้ำตาลสวยงามและมีกลิ่นหอมน่ากิน

ประโยชน์และข้อดีที่แตกต่างของซูวีด์

แม้จะเป็นเทคนิคที่ต้องใช้เวลา แต่ เครื่องซูวีด์ ก็มีข้อดีที่ทำให้มันคุ้มค่าอย่างมากสำหรับนักทำอาหาร

  • ควบคุมความสุกได้สมบูรณ์แบบ: คุณสามารถควบคุมระดับความสุกของเนื้อสัตว์ได้อย่างแม่นยำและสม่ำเสมอ ไม่ต้องกังวลว่าเนื้อจะสุกเกินไป
  • คงคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติ: การปรุงอาหารในถุงสุญญากาศช่วยให้วิตามินและแร่ธาตุที่ละลายในน้ำยังคงอยู่ภายใน
  • ความสะดวกสบายและการทำอาหารล่วงหน้า: คุณสามารถปรุงอาหารในเครื่องซูวีด์ทิ้งไว้ได้นานโดยไม่ต้องเฝ้า และยังสามารถทำอาหารเตรียมไว้ล่วงหน้า แล้วนำมาจบงานตอนก่อนเสิร์ฟได้อีกด้วย
  • เหมาะกับเนื้อสัตว์ทุกประเภท: เครื่องซูวีด์ เหมาะสำหรับการปรุงเนื้อทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อที่นุ่มอยู่แล้ว หรือเนื้อส่วนที่เหนียว เช่น เนื้อแก้มวัว การปรุงซูวีด์นาน ๆ จะช่วยทำให้เนื้อที่เหนียวมีความนุ่มขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ

เครื่องซูวีด์ อาจดูเป็นอุปกรณ์เฉพาะทาง แต่แท้จริงแล้วมันคือเครื่องมือที่ช่วยให้การทำอาหารเป็นเรื่องง่ายและแม่นยำมากขึ้นกว่าเดิม หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยที่จะทำให้คุณได้อาหารที่อร่อยและมีคุณภาพเหมือนร้านอาหาร การลงทุนกับ เครื่องซูวีด์ สักเครื่องอาจเป็นคำตอบ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...