Bluebik ธุรกิจนี้จะไปต่อยังไง? ในตลาดและเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น เปิดแผนธุรกิจหลังย้ายเข้าเทรดใน SET
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK บริษัทที่ปรึกษาด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันองค์กร ประกาศย้ายเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) อย่างเป็นทางการแล้ว ถือเป็นก้าวสำคัญหลังเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) พร้อมเปิดแผนยุทธศาสตร์ 12 ข้อ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าหมายใหญ่ในการผลักดันบริษัทให้ก้าวสู่การเป็น 1 ใน 100 บริษัทชั้นนำของไทย (SET100) ภายใน 3 ปี
พชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เป็นระยะเวลาเกือบ 12 ปีแล้วที่ Bluebik ได้ดำเนินกิจการมา และการย้ายเข้าสู่ตลาด SET ครั้งนี้จะช่วยเปิดโอกาสให้บริษัทในหลายมิติ ทั้งการระดมทุนในอนาคต และที่สำคัญคือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งในอดีตอาจมีข้อจำกัดในการเข้าลงทุน
“ความแตกต่างที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากการที่เราย้ายตลาดจาก mai มาสู่ SET แต่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงจากภายใน เกิดจากแผนงานที่เราลงมือทำกันทุกวัน Bluebik ในวันนี้ไม่เหมือนกับ Bluebik เมื่อปีที่แล้ว และเราจะไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาองค์กรต่อไป เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและก้าวสู่เป้าหมายที่วางไว้” พชร กล่าว
แผน 12 ข้อสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
เพื่อรองรับการเติบโตในตลาดที่ใหญ่ขึ้น Bluebik ได้วางแผนการดำเนินงาน 12 ข้อ ซึ่งจะช่วยยกระดับบริษัทในทุกมิติ สรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้
ยกระดับมาตรฐานและประสิทธิภาพ: ปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในให้มีมาตรฐานสูงขึ้นและเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ (Efficiency) ลดความซ้ำซ้อน และที่สำคัญคือการเพิ่มอัตราการใช้ประโยชน์จากพนักงาน (Staff Utilization Rate) ให้สูงสุด ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการทำกำไรของบริษัท
มุ่งเน้นบริการตามเมกะเทรนด์:ปรับพอร์ตบริการให้สอดคล้องกับเมกะเทรนด์สำคัญของโลก โดยเน้น 2 เรื่องหลัก ได้แก่
AI: ผลักดันการทำ Digital Transformation โดยมี AI เป็นตัวนำ (AI-Led Transformation) เพื่อช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนสามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างเต็มศักยภาพ
- Sustainability: พัฒนาโซลูชันดิจิทัลที่ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการลดใช้พลังงาน, การสร้างธรรมาภิบาลที่ดี (Governance) ผ่านระบบดิจิทัล
- Sustainability: พัฒนาโซลูชันดิจิทัลที่ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการลดใช้พลังงาน, การสร้างธรรมาภิบาลที่ดี (Governance) ผ่านระบบดิจิทัล
เจาะลึกฐานลูกค้าเดิม: เพิ่มส่วนแบ่งรายได้จากลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ที่มีอยู่เดิม ด้วยกลยุทธ์การขายต่อยอด (Upsell) และการขายพ่วงบริการอื่น (Cross-sell) ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น จากเดิมที่อาจเข้าไปด้วยบริการเดียว จะนำเสนอบริการอื่น ๆ ในเครือเข้าไปเสริมทัพ เพื่อสร้างมูลค่าให้ลูกค้าและบริษัทไปพร้อมกัน
ปฏิรูปโครงสร้างต้นทุน: ปรับโครงสร้างต้นทุน (Cost Structure Transformation) ให้กระชับและคล่องตัว (Lean) โดยเฉพาะการดำเนินงานในต่างประเทศที่จะเน้นการมีทีมงานที่สร้างรายได้เป็นหลัก และลดค่าใช้จ่ายคงที่ที่ไม่จำเป็น พร้อมทั้งหาพันธมิตรเข้ามาช่วยในบางส่วนเพื่อลดภาระต้นทุนและสามารถขยายธุรกิจได้เร็วขึ้น
แสวงหาโอกาส M&A: ยังคงมองหาโอกาสในการเข้าซื้อและควบรวมกิจการ (M&A) อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยจะเลือกเป้าหมายที่มีศักยภาพและสามารถสร้าง Synergy ร่วมกับธุรกิจเดิมได้จริง
สร้างธุรกิจรุกตลาดใหม่: เดินหน้าเปิดตลาดใหม่ ๆ และสร้างบริการใหม่ ๆ โดยใช้โมเดลการร่วมทุน (Joint Venture) กับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนั้น ๆ เพื่อสร้างการเติบโตในตลาดที่ Bluebik ยังไม่เคยเข้าไป ต่อยอดความสำเร็จจากโมเดลที่ทำมาก่อนหน้านี้
เสริมศักยภาพบริษัทลูก ดัน IPO: วางรากฐานและเตรียมความพร้อมให้บริษัทในเครือที่มีศักยภาพสูงสามารถเติบโตและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ด้วยตัวเองในอนาคต ซึ่งจะช่วยปลดล็อกมูลค่าของบริษัทลูก และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้นของ BBIK
คว้าโอกาสใหญ่ในประเทศ:ใช้ประโยชน์จากเทรนด์การลงทุนด้านดิจิทัลที่สำคัญในประเทศ ได้แก่
Virtual Banking: เข้าไปเป็นที่ปรึกษาและพัฒนาระบบให้กับผู้เล่นรายใหม่ในตลาด
- Government Cloud-First Policy: เจาะตลาดภาครัฐที่จะมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีและคลาวด์เพิ่มขึ้นมหาศาล
- Government Cloud-First Policy: เจาะตลาดภาครัฐที่จะมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีและคลาวด์เพิ่มขึ้นมหาศาล
ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนองค์กร: ไม่ใช่แค่ให้บริการลูกค้า แต่ต้องนำเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญอย่าง AI และ Automation มาปรับใช้กับการทำงานภายในองค์กรอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่ม Productivity ของทีมงาน ลดขั้นตอน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันจากภายใน
ลงทุนใน “คน” อย่างต่อเนื่อง: ให้ความสำคัญสูงสุดกับการลงทุนด้านบุคลากร ทั้งการดึงดูดผู้มีความสามารถหรือทาเลนต์หน้าใหม่ ๆ เข้ามาเสริมทีม และการพัฒนาทักษะ (Upskill/Reskill) ให้กับพนักงานปัจจุบัน เพื่อสร้างทีมที่แข็งแกร่งและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
ปลดล็อกโอกาสผ่านพันธมิตร: ต่อยอดความสำเร็จในการทำ Joint Venture ที่ผ่านมาทุกตัว โดยจะมองหาและจัดตั้งความร่วมมือใหม่ ๆ กับองค์กรชั้นนำอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้จุดแข็งของแต่ละฝ่ายในการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่ไม่สามารถทำได้โดยลำพัง
เป้าหมายสูงสุดสู่ SET100: เป้าหมายสุดท้ายที่ชัดเจนคือ การผลักดันให้ Bluebik สามารถเติบโตทั้งในด้านผลประกอบการและมูลค่าบริษัท (Market Capitalization) จนก้าวขึ้นไปเป็น 1 ใน 100 บริษัทชั้นนำของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET100) ให้ได้ภายใน 3 ปี
“ผมเชื่อว่าทุกคนเห็นว่าสภาพเศรษฐกิจตอนนี้ไม่ได้ดี แต่ในความท้าทายนี้ก็มีโอกาสซ่อนอยู่… การที่เรายังสามารถเติบโตได้สวนทางตลาด มาจากการที่เราปรับตัวและบริหารจัดการภายในอย่างมีประสิทธิภาพ และในจังหวะที่ผู้เล่นอื่นอาจจะชะลอหรือล้มหายไป จะยิ่งกลายเป็นโอกาสให้เราสามารถเข้าไปชิงส่วนแบ่งตลาดได้มากขึ้นเมื่อเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว” พชร กล่าวทิ้งท้าย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : Bluebik ธุรกิจนี้จะไปต่อยังไง? ในตลาดและเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น เปิดแผนธุรกิจหลังย้ายเข้าเทรดใน SET
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- Bluebik ธุรกิจนี้จะไปต่อยังไง? ในตลาดและเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น เปิดแผนธุรกิจหลังย้ายเข้าเทรดใน SET
- บริษัทสื่อพ่อใหญ่ทรัมป์ ขึ้นแท่นวาฬ Bitcoin อันดับ 6 หลังทุ่มซื้อเพิ่มกว่า 2 พันล้าน
- เปิดงบ 10 ธนาคารใหญ่ รายได้-กำไรไตรมาส 2/68 วูบ รับดอกเบี้ยขาลง
- ธุรกิจงานแต่งในอินเดีย โตแรง เป็นรองภาค IT HSBC ชูบทบาท “ตัวเชื่อม” การค้าไทย - อินเดีย
- CIMBT ประกาศแผนปักธงเป็น Niche Bank พาลูกค้าไทยต่อยอดสู่อาเซียน ดันรายได้ธุรกิจในอาเซียนโต 2 เท่า
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath