เปิดที่มา 5 ก.ค. จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่ญี่ปุ่น เมื่อมังงะกลายเป็นข่าวลือสะเทือนโลกไม่จบ
ข่าวลือ "แผ่นดินไหวใหญ่ 5 ก.ค." ที่ญี่ปุ่น ต้นตอมาจากมังงะ จุดกระแสความวิตกในโลกแห่งความจริง
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โลกออนไลน์โดยเฉพาะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เต็มไปด้วยข่าวลือว่า “ประเทศญี่ปุ่นจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2025” โดยต้นตอของกระแสนี้ไม่ได้มาจากนักธรณีวิทยาหรือหน่วยงานเตือนภัยใด ๆ หากแต่มาจากมังงะญี่ปุ่นชื่อ The Future I Saw ของนักวาด Ryo Tatsuki ซึ่งเขียนไว้ตั้งแต่ยุค 90 ว่า “จะมีภัยพิบัติครั้งใหญ่ในกรกฎาคม 2025”
ทำให้ผู้อ่านหลายคนตีความว่าอาจเป็นแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรง แม้เธอจะออกมาอธิบายหลายครั้งแล้วว่า เรื่องดังกล่าวสร้างมาจากจินตนาการ ความฝัน ดั่งการ์ตูนทั่ว ๆไป เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะทำนายอนาคต เพราะเธอไม่ใช่หมอดูก็ตาม
ความวิตกกังวลแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากฮ่องกง ไต้หวัน ไทย และจีนแผ่นดินใหญ่ จนส่งผลให้สายการบินบางแห่ง เช่น Hong Kong Airlines และ Greater Bay Airlines ปรับลดเที่ยวบินมายังญี่ปุ่นในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม โดยเฉพาะเส้นทางไปยังเมืองในแถบคันไซและชูบุ
นักวิทยาศาสตร์และรัฐบาลญี่ปุ่นออกโรงโต้ "ไม่มีทางทำนายแผ่นดินไหวล่วงหน้า"
ทางด้าน Japan Meteorological Agency (JMA) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการติดตามและเตือนภัยธรรมชาติของญี่ปุ่น ได้ออกแถลงการณ์ย้ำอย่างชัดเจนว่า“ไม่มีเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ใดสามารถพยากรณ์วันที่ เวลา และสถานที่ของแผ่นดินไหวได้อย่างแม่นยำ”
JMA ยังยืนยันว่า ระบบ Early Earthquake Warning (EEW) จะทำงานเฉพาะเมื่อมีแรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นจริงในบริเวณที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ทั่วประเทศเท่านั้น พร้อมทั้งชี้ว่า ข่าวลือที่อ้างอิงจากมังงะเป็นเพียง เรื่องแต่ง ไม่ควรนำมาสร้างความตื่นตระหนก
ญี่ปุ่นมีความเสี่ยงจริง แต่ข่าวลือไม่ช่วยอะไร
เป็นความจริงที่ญี่ปุ่นตั้งอยู่บน “วงแหวนแห่งไฟ” (Ring of Fire) และเผชิญกับแผ่นดินไหวหลายครั้งในรอบปี รวมถึงมีความเสี่ยงที่จะเกิด “แผ่นดินไหวครั้งใหญ่” บริเวณ ร่องลึกนันไก (Nankai Trough) ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นประเมินว่าอาจมีความเป็นไปได้ถึง 80% ภายใน 30 ปีข้างหน้า แต่การคาดการณ์นั้นเป็น การวิเคราะห์เชิงสถิติ ไม่ใช่การกำหนด “วันเกิดเหตุ” อย่างที่ข่าวลือกล่าวอ้าง
ผลกระทบจริง: เศรษฐกิจท่องเที่ยวสะดุด ความเชื่อมั่นสั่นคลอน
แม้จะไม่มีเหตุการณ์ภัยพิบัติเกิดขึ้นจริง แต่ข่าวลือครั้งนี้ได้สร้างผลกระทบเชิงลบต่อภาคการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ซึ่งตามปกติแล้วจะเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งจากเอเชียและยุโรป
ผู้ประกอบการโรงแรมหลายแห่งเปิดเผยว่า มีการยกเลิกจองห้องพักจำนวนมากในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างโตเกียว โอซาก้า และนาโกย่า ขณะที่ร้านค้าท้องถิ่นในภูมิภาคคันไซเผยว่า ยอดขายลดลงจากนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 20–30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
หวั่นได้ แต่อย่าตื่นตระหนก
ข่าวลือ “แผ่นดินไหวใหญ่ 5 ก.ค.” ที่เกิดจากการตีความมังงะ เป็นตัวอย่างคลาสสิกของ “การบิดเบือนที่น่าเชื่อเพราะเล่นกับความกลัว” แม้ญี่ปุ่นจะมีความเสี่ยงด้านภัยธรรมชาติสูง แต่การพยากรณ์แบบมีวันที่แน่ชัดนั้นยัง เป็นไปไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์ เราจึงไม่ควรตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุ