โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ผงะ! ตึกรัฐทิ้งร้างทั่วประเทศ สูญงบนับแสนล้านบาท

ไทยโพสต์

อัพเดต 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 20.53 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ACT เรียกร้องรัฐบาลจัด 'เจ้าภาพ' สำรวจอาคารรัฐทิ้งร้างทั่วประเทศ พบความสูญเสียสูงหลักแสนล้านบาท พร้อมชง 4 แนวทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

18 ก.ค. 2568 - นายมานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวถึงกรณีงบประมาณที่สูญเสียจากปัญหาอาคารรัฐทิ้งร้างสร้างไม่เสร็จทั่วประเทศว่า ปัจจุบันไม่พบแหล่งข้อมูลที่ระบุได้ว่า ทั่วประเทศมีอาคารทิ้งร้างสร้างไม่เสร็จตั้งอยู่ที่ไหน คิดเป็นจำนวนและมูลค่าเท่าไหร่ ใครเป็นเจ้าของ ข้อมูลที่พบมีเพียงตัวเลขบางส่วนจากการสำรวจโดยสำนักผู้ตรวจราชการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งผู้บริหารป.ป.ช.เคยระบุว่า จังหวัดเล็กๆ อย่าง “ตรัง” มีอาคารทิ้งร้างคิดเป็นมูลค่า 2.8 พันล้านบาท (5 ก.พ. 2568) โดยตัวอาคารมูลค่าสูงสุด 400 กว่าล้านบาท หากใช้ตัวเลขเพียงครึ่งเดียวของจังหวัดตรังคือ 1.4 พันล้านบาทคูณด้วย 76 จังหวัด ตัวเลขที่ได้จะประมาณ 1 แสนล้านบาท นี่คือที่มาของสมมติฐานตัวเลขความสูญเสียงบประมาณจากปัญหาอาคารราชการทิ้งร้างทั่วประเทศ

นายมานะ กล่าวว่า อาจมีคนเห็นแย้งว่า ทั่วประเทศต้องมีอาคารใหญ่ระดับพันล้านจำนวนมากที่สร้างไม่เสร็จ วงเงินรวมจึงจะแตะระดับแสนล้านบาทได้ แต่ต้องไม่ลืมว่ามีความเสียหายที่กระจายซ่อนอยู่ในทุกจังหวัดและหลุดสำรวจ โดยเฉพาะโครงการทิ้งร้างทั้งใหญ่และเล็กจำนวนมากที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสร้างเอง และโครงการที่หน่วยงานจากส่วนกลาง รวมทั้งหน่วยทหารสร้างแล้วยกให้ อปท. หรือโรงเรียนต่างๆ รับไปดูแล เช่น ศูนย์เด็กเล็ก สนามกีฬา ศูนย์ท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ แหล่งเรียนรู้ โรงผลิตน้ำดื่ม ฯลฯ

อีกคำถามชวนคิด คือ กรณีอาคาร กสทช. มูลค่า 2.64 พันล้านบาท แม้ปล่อยทิ้งมาหลายปีแล้ว แต่อีก 2 - 5 ปีข้างหน้า เมื่อเคลียร์ปัญหาฟ้องร้องกับผู้รับเหมาเดิม จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมแล้วเริ่มต้นประมูลหาผู้รับเหมารายใหม่ทำงานต่อให้เสร็จ อย่างนี้ควรนับรวมในตัวเลขแสนล้านนี้ด้วยหรือไม่

ไม่เพียงเท่านั้น ข้อมูลที่ได้รับฟังจากผู้นำชุมชนในพื้นที่และผู้บริหาร ป.ป.ช. ทำให้ทราบว่าปัญหาเช่นนี้พบมากใน 3 จังหวัดภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ดังที่ทราบว่า ที่สงขลาก็มีพิพิธภัณฑ์หอยสังข์มูลค่า 1.4 พันล้านบาท เพราะมีงบความมั่นคง งบอัดฉีดจากหน่วยต่างๆ จำนวนมาก การจัดซื้อจัดจ้างมักใช้วิธีพิเศษ ยังไม่รวมถึง กทม. ที่พบปัญหาเช่นกัน

“ปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้นทั่วประเทศ รวมทั้งอาคารสำนักงาน สตง. ที่ก่อสร้างค้างคาอยู่นับ 10 จังหวัด” นายมานะ ระบุ

ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขยายความต่อไปว่า การที่ไม่มีใครรู้ตัวเลขความเสียหายที่แท้จริง เกิดจากปัจจัยสำคัญคือ “หน่วยงานที่ไปลงทุนก่อสร้าง” ไม่รับรู้ว่าอาคารถูกทิ้งร้างหรือใช้งานต่อเพราะได้โอนไปให้หน่วยงานอื่นแล้ว ขณะที่ “หน่วยงานรับมอบอาคารสิ่งปลูกสร้าง” ก็ไม่เอาเป็นภาระหรือไม่รู้จะจัดการอย่างไร ที่แย่กว่านั้น คือ ไม่เคยมีกฎระเบียบหรือมาตรการให้หน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยกำกับดูแลต้องเก็บรวบรวมข้อมูล

ดังนั้น ทางออกของวันนี้จึงต้องมีหน่วยที่มีศักยภาพและเป็นกลาง รับเป็นเจ้าภาพลงสำรวจพื้นที่ บันทึกจำนวน ที่ตั้ง สภาพปัจจุบันและมูลค่าที่แท้จริง เก็บข้อมูลอาคารสร้างไม่เสร็จนานเกิน 3 - 5 ปี ส่วนอาคารทิ้งร้างต้องระบุชื่อองค์กรเจ้าของเงินลงทุนและองค์กรเจ้าของปัจจุบัน แล้วนำเรื่องสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้ร่วมกัน ด้วยความรับผิดชอบ และเปิดเผยต่อประชาชน

ขณะเดียวกัน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากกลไกรัฐผู้มีอำนาจหลายฝ่าย เช่น สำนักงบประมาณ กมธ. พิจารณางบประมาณฯ รัฐสภา รัฐบาล ฯลฯ หาแนวทางการป้องกันปัญหาระยะยาว “เลิก - รื้อ - รัดกุม” ประกอบด้วย 1.เลิกค่านิยมแบบส่วนกลางลงทุนก่อสร้างแล้วยกให้หน่วยงานในพื้นที่รับผิดชอบโดยที่พวกเขาไม่ได้มีส่วนร่วมตัดสินใจว่าต้องการหรือไม่ พูดให้ชัดก็คือ ถ้าอยากเห็นท้องถิ่นพัฒนา รัฐบาลต้องกระจายงบกระจายอำนาจให้คนในพื้นที่ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ

2.รื้อแบบแผนการอนุมัติโครงการก่อสร้าง การจัดทำและอนุมัติงบประมาณ การกำหนด ราคากลางเพื่อการจัดซื้อฯ ที่เหมาะสม มีแนวทางจัดหาผู้รับเหมาฯ ที่มีศักยภาพจริง เป็นต้น ทั้งกรณีที่ใช้งบประมาณแผ่นดิน เงินนอกงบประมาณหรือรายได้ของหน่วยงานเอง 3.รัดกุมในการลงทุนให้มีรูปแบบเหมาะสม เพียงพอ ไม่แข่งกันฟุ่มเฟือย สร้างภาระหนักในบำรุงรักษา ซึ่งกำลังเป็นค่านิยมใหม่ ในการก่อสร้างอาคารที่ทำการของหน่วยงานรัฐช่วง 10 กว่าปีมานี้ เช่นเดียวกับตึก สตง. ที่ถล่มลงและอีกหลายแห่งที่ใช้งานอยู่หรือกำลังออกแบบก่อสร้าง

สำหรับแนวทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เสนอว่า (1) หาผู้รับเหมารายใหม่มาทำต่อให้จบ แม้ต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-100 ตามสภาพโครงการที่ถูกทิ้งร้าง และมูลค่าก่อสร้างที่ทำได้จริงในปัจจุบัน (2) เปิดให้หน่วยงานอื่นมาใช้ประโยชน์ หรือเปลี่ยนวัตถุประสงค์การใช้งานอาคารตามความต้องการของชุมชน (3) เปิดให้เอกชนเช่าใช้สถานที่ระยะยาว และ (4) ห้ามมิให้หน่วยงานที่มีสิ่งปลูกถูกขึ้นบัญชีตามข้อ 1 นี้ ทำโครงการก่อสร้างใหม่อีกจนกว่าจะสะสางของเก่าเสร็จสิ้น.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘ทนายเชาว์’ ประกาศยกเลิกกิจกรรมตักบาตรพระ 28 ก.ค.นี้ ข่าวฉาววงการสงฆ์กระทบจิตใจ

21 นาทีที่แล้ว

กรมอุตุฯ เผยเส้นทางพายุโซนร้อน ‘วิภา’ กำลังเคลื่อนตัวเร็วเข้าใกล้ชายฝั่ง

43 นาทีที่แล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับที่ 4 อัปเดตพื้นที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก 19-24 ก.ค.

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ลุ้นระทึก! แม่น้ำปิงเกือบล้นตลิ่ง เตรียมรับมือ ‘พายุวิภา’ เข้าไทยลูกแรกปีนี้

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ผนึกกำลังฟื้นฟูศรัทธาชาวพุทธ ชู “ReFaith Thailand”

สำนักข่าวไทย Online

ตำรวจบุกจับผับ ‘ฟัสซี่’ กลางกรุง ยึด Happy water-ยาอี อื้อ พบฉี่ม่วง 40 ราย

The Bangkok Insight

พาณิชย์หนุน “กล้วยหอมเขียว” ส่งตรงสู่ญี่ปุ่น เพิ่มรายได้เกษตรกร โอกาสทองในกรอบ JTEPA

TODAY
วิดีโอ

อภิสิทธิ์ รับมีเอกสารลับจริง ปมฮุนเซนอ้าง “ทักษิณ” ส่งข้อมูลไทย เคยโทรคุย ปมถนน 68 แต่ไม่รู้หลุดจากใคร

BRIGHTTV.CO.TH

ลิฟต์ค้าง พนักงานสาวปีนหนีออกมาไม่ทัน ถูกหนีบหัวเสียชีวิต

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

”พารากอนแคร์ ไทยแลนด์”เปิดตัว ”เจมีไนน์” – ”โฟร์ท” เป็นพรีเซนเตอร์

INN News
วิดีโอ

เตรียมล้างบางมารศาสนาในผ้าเหลือง | เนชั่นทันข่าวค่ำ | NationTV22

NATIONTV

‘ทนายเชาว์’ ประกาศยกเลิกกิจกรรมตักบาตรพระ 28 ก.ค.นี้ ข่าวฉาววงการสงฆ์กระทบจิตใจ

ไทยโพสต์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...