สายเหยี่ยวนั่งไม่ติด!ทรัมป์พลิกบทเอาใจจีน หวังดันซัมมิตสีจิ้นผิง-ทำข้อตกลงการค้าปักกิ่ง
สมาชิกสายเหยี่ยวในคณะบริหารสหรัฐฯ เริ่มกังวลมากขึ้น หลังทรัมป์ลดท่าทีขึงขังกับจีนลงอย่างชัดเจนเนื่องจากต้องการผลักดันการจัดซัมมิตกระทบไหล่สี จิ้นผิง และบรรลุข้อตกลงการค้ากับปักกิ่ง
หลังเข้ารับตำแหน่งสมัยสองได้ 6 เดือน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดูเหมือนสงบปากสงบคำมากขึ้น จากที่เคยโจมตีการเกินดุลการค้าของจีนต่อเมริกาอย่างรุนแรง และยังแตกต่างอย่างชัดเจนกับการปฏิบัติต่อคู่ค้าอื่นๆ ที่ทรัมป์ยังคงข่มขู่คุกคามด้วยภาษีศุลกากรสูงลิบ
แหล่งข่าววงในเผยว่า ทรัมป์กำลังโฟกัสเพื่อให้บรรลุข้อตกลงกับปักกิ่งแบบเดียวกับข้อตกลงในสมัยแรกที่เขารับตำแหน่ง จากนั้นก็จะประกาศรฉลองชัยชนะทันทีแทนที่จะมุ่งแก้ปมปัญหาความไม่สมดุลทางการค้าระยะยาว
ทั้งนี้เมื่อวันอังคาร (15 ก.ค.) ทรัมป์ออกมาพูดว่า จะต่อสู้กับจีน “แบบเป็นมิตรอย่างมาก”
ด้านพวกเจ้าหน้าที่คณะบริหารสหรัฐฯ ย้ำว่า ทรัมป์ชื่นชอบสีเป็นการส่วนตัวมาโดยตลอด และมักพูดถึงตอนที่รับตำแหน่งสมัยแรกที่เขาออกข้อจำกัดครอบจักรวาลกับหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ และรีดภาษีศุลกากรสินค้าออกส่วนใหญ่ของจีน
ความเอาแน่เอานอนไม่ได้ของทรัมป์ รวมถึงการที่เขาล่าถอยจากนโยบายสายเหยี่ยวที่เคยสัญญาไว้ทำให้เหล่าผู้วางนโยบายในคณะบริหาร ตลอดจนถึงที่ปรึกษาภายนอกพากันกังวล
ในสัปดาห์นี้ การอนุญาตให้อินวีเดียขายชิปเอช-20 ให้จีนได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่อาวุโสหลายคนระบุว่าไม่เคยอยู่ในแผนเลย อีกทั้งเป็นการกลับลำแนวทางของคณะบริหารในการกีดกันไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีสำคัญของอเมริกานั้น ยิ่งตอกย้ำความกังวลว่า เส้นแดงที่อเมริกากำหนดสำหรับจีน ไปๆ มาๆ ก็อาจกลายเป็นเงื่อนไขที่สามารถต่อรองกันได้
เดือนที่แล้ว สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เพิ่งบอกว่า การควบคุมชิปเอช20 คือหลักฐานว่า คณะบริหารยังคงมีจุดยืนแข็งกร้าวต่อปักกิ่ง หลังจากถูกวุฒิสมาชิกกลุ่มหนึ่งกดดันเนื่องจากกังวลว่า วอชิงตันอาจยอมแลกเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงกับแร่แรร์เอิร์ธของจีน
เจรจาคืบหน้า
คุช เดไซ โฆษกทำเนียบขาว ออกมายืนยันว่า ทรัมป์ยังคงต่อสู้เพื่อการแข่งขันที่เป็นธรรมสำหรับแรงงานและอุตสาหกรรมอเมริกัน และคณะบริหารยังเดินหน้าเจรจาอย่างมีประสิทธิภาพกับประเทศคู่ค้าทั้งหมด
กระนั้น เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่า กำลังเตรียมการเพื่อเลื่อนเส้นตายจากกำหนดเดิมวันที่ 12 ส.ค. ที่อเมริกาจะเริ่มเก็บภาษีสินค้าจีน 145% หลังข้อตกลงสงบศึก 90 วันสิ้นสุดลง โดยในสัปดาห์นี้ เบสเซนต์ให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์ก เทเลวิชันเป็นทำนองว่า เส้นตายดังกล่าวยืดหยุ่นได้ ขณะที่แหล่งข่าววงในคนหนึ่งเผยว่า ข้อตกลงสงบศึกภาษีอาจยืดออกไปอีก 3 เดือน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่ทรัมป์ทยอยส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีศุลกากรใหม่ไปยังชาติคู่ค้าหลายสิบประเทศ รวมทั้งยังขู่ดำเนินการขึ้นภาษีภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ที่รวมถึงยาและเซมิคอนดักเตอร์
สัปดาห์ที่ผ่านมา มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เคยมีจุดยืนแข็งกร้าวที่สุดกับจีนสมัยยังเป็นวุฒิสมาชิกนั้น เผยว่า ซัมมิตระหว่างทรัมป์กับสีมีแนวโน้มเป็นไปได้ และยังบอกว่า พูดคุย “สร้างสรรค์มาก” กับหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (11 ก.ค.)
ก้าวย่างสำคัญ
ต่อมาในวันพุธ (16) ทรัมป์ออกมาพูดยกย่องจีนที่ยกระดับการควบคุมสารเคมีที่ใช้ผลิตเฟนทานิล ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งที่จีนดำเนินการหลังผู้นำสหรัฐฯ สั่งเก็บภาษีศุลกากร 20% เพื่อลงโทษที่ปักกิ่งอำนวยความสะดวกในการลักลอบขนยาเสพติดชนิดนี้
ความเคลื่อนไหวนี้ทำให้เกิดคำถามว่า ทรัมป์จะยอมผ่อนคลายมาตรการควบคุมทางการค้าโดยใช้เหตุผลด้านความมั่นคง ให้จีนมากน้อยแค่ไหน ถ้าปักกิ่งร้องขอ ที่ปรึกษาสายเหยี่ยวบางคนกลัวว่า การผ่อนคลายมาตรการควบคุมชิปอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่ที่ปรึกษาคนอื่นๆ ยืนยันว่า การอนุญาตให้ขายชิปเอช20 ยังห่างไกลนักจากการส่งออกฮาร์ดแวร์ขั้นสูงซึ่งอย่างไรเสียจะไม่มีการต่อรองเด็ดขาด ทั้งนี้ ชิป เอช20 นั้นยังคงใช้เทคโนโลยีซึ่งต่ำกว่ารุ่นที่ดีที่สุดของอินวีเดียมาก
ขณะเดียวกัน พวกชาติพันธมิตรของอเมริกาและบริษัททั่วเอเชียและยุโรป ซึ่งที่ผ่านมาช่วยวอชิงตันปิดกั้นภาคเทคโนโลยีจีน ก็กำลังจับตาสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด โดยที่พวกบุคคลซึ่งคุ้นเคยกับเรื่องนี้กล่าวว่า รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทางอุตสาหกรรมในภูมิภาคเหล่านี้ตีความว่า ยุทธศาสตร์ของวอชิงตันกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้กันดีว่า บ่อยครั้งที่ทรัมป์เปลี่ยนใจเกี่ยวกับจีน ซึ่งบางครั้งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากตัดสินใจไปแล้ว เช่น ตอนที่ยอมยกเลิกการแซงก์ชันแซดทีอี บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน ในปี 2018 หลังจากถูก สี ขอร้องเป็นการส่วนตัว
ทรัมป์ยังอ่อนไหวต่อการถูกวิจารณ์ ซึ่งหมายความว่า เขาอาจกลับลำได้อีก
ดีเร็ค ซิสเซอร์ส ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนของอเมริกัน เอ็นเตอร์ไพรส์ อินสติติว ชี้ว่า ทรัมป์ตัดสินใจแล้วเรื่องต้องการทำข้อตกลงกับจีน แต่มันก็อาจเป็นแค่ระยะสั้น และเสริมว่า นับจากต้นปีจนถึงขณะนี้อเมริกาขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่งบประมาณใหม่จะกระตุ้นให้ดีมานด์ในการนำเข้าพุ่งขึ้นในไตรมาส 4 ซึ่งหากปีหน้าอเมริกายังขาดดุลการค้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีก ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นอันคาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ซึ่งรวมถึงนโยบายต่อจีน
ขณะเดียวกัน ปักกิ่งเชื่อมั่นออกนอกหน้าว่า อยู่ในสถานะได้เปรียบกว่า แหล่งข่าวเล่าว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ถึงกับช็อกที่ได้ยินเจ้าหน้าที่จีนโอ้อวดว่า ตัวเองเป็นต่อในการเจรจา
ทั้งนี้ ความมั่นใจดังกล่าวมาจากการครอบครองแรร์เอิร์ธและความสามารถในการใช้ทรัพยากรนี้เป็นอาวุธต่อกรกับอเมริกาที่พึ่งพาซัปพลายแร่ธาตุเหล่านี้อย่างมาก ปัจจุบัน จีนกำหนดให้บริษัทต่างๆ ส่งมอบข้อมูลละเอียดอ่อนและขอใบอนุญาตส่งออกแรร์เอิร์ธทุก 6 เดือน
(ที่มา: บลูมเบิร์ก)
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO